วันนี้ (3 มิถุนายน 2025) เดนมาร์กเริ่มใช้นโยบายเกณฑ์ทหารหญิง ถือเป็นมาตรการใหม่ของประเทศเพื่อรับมือภัยคุกคามจากรัสเซีย และตอบสนองนโยบายความมั่นคงของ NATO ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ผู้นำสหรัฐอเมริกา ยื่นคำขาดให้ประเทศสมาชิกใช้จ่ายงบประมาณด้านความมั่นคง 5%
ก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายน 2023 รัฐสภาเดนมาร์กผ่านกฎหมายบังคับให้ผู้หญิงที่อายุ 18 ปีขึ้นไป เข้าร่วมการเกณฑ์ทหารตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2025 ซึ่งเสนอโดยพรรค Venstre พรรคการเมืองเสรีนิยม โดย มิเชล วิกเกอร์ส ฮีลด์การ์ด (Michael Wiggers Hyldgaard) รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ให้เหตุผลว่า ประเทศต้องการกำลังต่อสู้จากทุกภาคส่วนรวมถึงผู้หญิง
สำหรับเงื่อนไขของนโยบายดังกล่าว การเข้ารับราชการทหารของผู้หญิงใช้ระยะเวลา 11 เดือน โดยขั้นตอนแรกคือ การรับสมัครเข้ากองทัพตามความสมัครใจ ซึ่งเป็นนโยบายของกองทัพเดนมาร์กตั้งแต่ปี 1970 แต่หากไม่มีผู้สมัครจำนวนมาก กองทัพจะใช้วิธีการสุ่มอย่าง ‘ระบบจับสลาก’ ซึ่งการทำงานของผู้หญิงในกองทัพจะไม่มีข้อจำกัดแต่อย่างใด อย่างผู้หญิงสามารถสู้รบได้ หากมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเงื่อนไข
แคตรีน (Katrine) อาสาสมัครทหารหญิง ให้สัมภาษณ์กับ Reuters โดยสนับสนุนนโยบายดังกล่าว เพราะเชื่อว่า ในโลกปัจจุบันเดนมาร์กจำเป็นต้องเกณฑ์ทหาร และผู้หญิงก็ควรเป็นส่วนหนึ่ง เพราะมีความเท่าเทียมกับผู้ชายจึงถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก
นอกเหนือจากข้อตกลงของกลุ่ม NATO ในการประชุมสุดยอดที่ผ่านมา กลุ่มประเทศสมาชิกมีฉันทมติตรงกันว่า จะใช้จ่ายงบประมาณด้านความมั่นคงเพื่อการป้องกันประเทศ 5% ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของทรัมป์ต่อประเทศยุโรปที่เชื่อว่า สหรัฐฯ แบกค่าใช้จ่าย และรับภาระปกป้องพันธมิตรทรานส์แอตแลนติกมากเกินไป
ปัจจัยใกล้ตัวอย่างสงครามรัสเซีย-ยูเครน ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ประเทศยุโรปกระตือรือร้นกับการป้องกันประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศนอร์ดิกและเดนมาร์ก แม้ว่าจะไม่มีพรมแดนติดกับรัสเซีย แต่ก็ได้รับผลกระทบจากสงครามหลายครั้ง อย่างการรุกคืบของรัสเซียในทะเลบอลติก ที่กระทบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเหล่านี้
มิกเกล รุงเก โอลเซน (Mikkel Runge Olesen) ผู้เชี่ยวชาญจาก Danish Institute for International Studies วิเคราะห์ผ่าน The New York Times ว่า การเกณฑ์ทหารไม่ได้เกิดจากความกลัวว่า รัสเซียจะก่อสงครามชนิดนำรถถังมาบุกเดนมาร์ก แต่เป็นความหวาดระแวงต่อรัสเซียในฐานะภัยคุกคามสำคัญ
ขณะที่ แอนเดอร์ส พัก นีลเซน (Anders Puck Nielsen) นักวิเคราะห์ด้านการทหาร Royal Danish Defense College มองว่า ประเทศในยุโรปกำลังมองว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครน อาจขยายความรุนแรงกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาคได้ จึงต้องเตรียมตัวรับมือสถานการณ์ดังกล่าวในอนาคต ซึ่งการเกณฑ์ทหารเป็นอีกวิธีการหนึ่ง
อย่างไรก็ตามมีการวิเคราะห์ว่า นโยบายบังคับผู้หญิงเกณฑ์ทหาร เป็นการแปรเปลี่ยนแบบแผนเดิมของกองทัพให้ตระหนักถึงความเท่าเทียมทางเพศมากขึ้น ซึ่งสำนักข่าว CNN รายงานว่า นโยบายดังกล่าวทำให้ทางการเตรียมปรับปรุงค่ายทหารและอุปกรณ์จำเป็นให้เหมาะสมสำหรับผู้หญิงมากขึ้น
ปกติแล้วเดนมาร์กมีนโยบายอนุญาตให้ผู้หญิงเข้ารับราชการทหารโดยสมัครใจ โดยสัดส่วนทหารหญิงคิดเป็น 10% ของประเทศ ขณะที่ทางการต้องการจำนวนทหาร 6,500 คนต่อปีภายในปี 2027 ซึ่งในปีที่ผ่านมา เดนมาร์กมีทหารเพียง 4,700 คน เป็นเหตุให้ต้องยืดเวลาเข้ารับราชการของทหารเพิ่มขึ้นจาก 4 เดือนเป็น 11 เดือน
ปัจจุบันประเทศในแถบสแกนดิเนเวียกำลังปรับใช้นโยบายดังกล่าว เช่น สวีเดนและนอร์เวย์ ขณะที่ฟินแลนด์อนุญาตให้ผู้หญิงเข้ารับราชการทหารได้ โดย ดัก เอลลิงเซน (Dag Ellingsen) นักสังคมวิทยาจาก The Norwegian Police University College เคยอธิบายไว้ว่า การเกณฑ์ทหารของกลุ่มประเทศนอร์ดิกไม่ใช่แค่การใช้กำลัง แต่ยังต้องอาศัย ‘มันสมอง’ และ ‘การจัดการ’ เช่น ความรู้ความสามารถด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ และการวางแผนทางยุทธศาสตร์
อ้างอิง:
– https://www.nytimes.com/2025/06/25/us/politics/nato-gdp-defense-spending-trump.html
– https://edition.cnn.com/2025/07/02/europe/denmark-expands-conscription-women-scli-intl