เมื่อวานนี้ (10 พฤศจิกายน 2024) สื่อต่างประเทศหลายแห่งรายงานตรงกันว่า โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ ต่อสายตรงโทรศัพท์ถึง วลาดีมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ผู้นำรัสเซีย โดยทิ้งคำขู่ไม่ให้ยกระดับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยเพิ่มเติมว่า โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต (Democratic Party) เตรียม ‘ล็อบบี้’ ขอให้ทรัมป์ดำเนินนโยบายต่างประเทศสนับสนุนยูเครนต่อ

ทั้งนี้เดอะวอชิงโพสต์ (The Washington Post) เป็นสื่อแรกที่รายงานความเคลื่อนไหวของทรัมป์ในประเด็นสงครามรัสเซีย-ยูเครนว่า ทรัมป์ติดต่อผู้นำรัสเซียระหว่างพักผ่อนที่รีสอร์ตของเขาในรัฐฟลอริดา (Florida) เพื่อหารือประเด็นสงครามรัสเซีย-ยูเครน

นอกจากบทสนทนาที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามแล้ว สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษ คือ การที่แหล่งข่าวภายในเปิดเผยว่า ทรัมป์ทิ้งคำขู่ถึงปูตินไม่ให้ยกระดับสงครามรัสเซีย-ยูเครนไปมากกว่านี้ โดยเตือนให้เขานึกถึงการมีอยู่ของ ‘กองทัพสหรัฐฯ’ ขนาดมหึมาในภาคพื้นทวีปยุโรป พร้อมกับทิ้งท้ายว่า เขาจะยุติสงครามครั้งนี้ในเร็ววัน

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์เปิดเผยต่อสำนักข่าวเอ็นบีซี (NBC) ว่า เขาพูดคุยกับผู้นำ 70 ประเทศทั่วโลก หลังผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 เป็นที่ประจักษ์ โดยหนึ่งในนั้นคือ การพูดคุยกับ โวโลดีมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelensky) ประธานาธิบดียูเครน ร่วมกับ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มหาเศรษฐีเจ้าของเทสลา (Tesla) ในฐานะผู้ที่ให้ความช่วยเหลือยูเครนด้านการสื่อสารและอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม Starlink ซึ่งรายงานจากเดอะนิวยอร์กไทม์ (The New York Times) เผยว่า บทสนทนาเป็นไปในทิศทางบวก และเซเลนสกีแสดงความยินดีกับชัยชนะของทรัมป์ พร้อมขอบคุณมัสก์ที่ให้ความช่วยเหลือมาตลอด

สำหรับประเด็นการหารือของปูตินและทรัมป์ แหล่งข่าวของวอชิงตันโพสต์ระบุว่า แวดวงผู้นำยูเครนรับทราบถึงการพูดคุยของสองผู้นำ โดยไม่ได้แสดงท่าทีคัดค้านแต่อย่างใด ทั้งยังเข้าใจว่า ทรัมป์กำลังหาหนทางยุติสงครามด้วยวิธีการทางการทูต ขณะที่สถานทูตรัสเซียในสหรัฐฯ ไม่ได้แสดงท่าทีหรือตอบคำถามสื่อในบทสนทนาดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดว่า หากเขาเป็นประธานาธิบดีในช่วงที่ผ่านมา ปูตินจะไม่มีวันบุกยูเครน และทันทีที่ดำรงตำแหน่ง เขาจะยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่ไม่ได้ระบุถึงวิธีการที่ชัดเจน พร้อมตำหนิไบเดนที่ให้ความช่วยเหลือยูเครนด้านการเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์มากเกินไป 

ทว่าแหล่งข่าวใกล้ตัวที่ไม่เปิดเผยตัวตนระบุผ่านสื่อว่า ทรัมป์สนใจผลักดันข้อตกลงให้รัสเซียครอบครองดินแดนที่กำลังยึดอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยูเครนและไบเดนไม่เห็นด้วย โดยเหตุผลส่วนหนึ่งคือ ว่าที่ประธานาธิบดีไม่อยากให้การดำรงตำแหน่งในสมัยที่ 2 อยู่ในสถานการณ์เลวร้าย เพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยกระดับความรุนแรง 

นอกจากนี้ไบเดนยังถูกจับตามองถึงการ ‘ส่งไม้ต่อ’ ในขั้นตอนการเปลี่ยนผ่านเก้าอี้ผู้นำให้กับทรัมป์ โดย เจค ซัลลิแวน (Jake Sullivan) ที่ปรึกษาความมั่นคงสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ไบเดนต้องการให้ถ่ายโอนอำนาจเป็นไปอย่างสันติ และจะพูดคุยกับทรัมป์ถึงสถานการณ์โลกในยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง

“ประธานาธิบดีไบเดนมีโอกาสในช่วงเวลา 70 วันที่ยังเหลือ เพื่อแจ้งให้สภาคองเกรสและรัฐบาลใหม่ทราบว่า สหรัฐฯ ไม่ควรเดินออกจากสงครามยูเครน ซึ่งยิ่งตอกย้ำเสถียรภาพที่สั่นคลอนของยุโรป” ซัลลิแวนระบุผ่านสำนักข่าวซีบีเอส (CBS News) แต่ก็เลี่ยงตอบคำถามว่า ไบเดนจะอนุมัติงบประมาณทางการทหารให้กับยูเครนเพิ่มขึ้นหรือไม่ หลังตกเป็นเป้าวิจารณ์จากพรรครีพับลิกันมาตลอด

‘คู่เพื่อนรัก Bromance’ คือนิยามความสัมพันธ์ระหว่างปูตินกับทรัมป์ในช่วงที่ผ่านมา ว่ากันว่าปูตินคือผู้สนับสนุนเขาทั้ง ‘เบื้องหน้า’ และ ‘เบื้องหลัง’ ในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี 2016 หลังหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัสเซียแฮ็กระบบอินเทอร์เน็ตและปล่อยข่าวลวงเพื่อต้าน ฮิลลารี คลินตัน (Hillary Clinton) อดีตรัฐมนตรีหญิงจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และแคนดิเดตพรรคเดโมแครตในขณะนั้น จนทำให้พ่ายแพ้ทรัมป์ในท้ายที่สุด

ขณะที่ทรัมป์มักพูดถึงชื่อของปูตินมากที่สุดในช่วงดำรงตำแหน่ง และย้ำซ้ำๆ ว่า ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเขากับปูตินจะช่วยยุติสงครามยูเครนได้ อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายยังเชื่อว่า ทรัมป์ไม่ได้ชื่นชอบเนื้อแท้ของปูติน แต่รักความคิดของผู้นำรัสเซียที่สามารถ ‘ถือครองอำนาจเบ็ดเสร็จ’ ไว้กับตัวมากกว่า

อ้างอิง

https://www.washingtonpost.com/national-security/2024/11/10/trump-putin-phone-call-ukraine/

https://www.nytimes.com/2024/11/08/us/politics/trump-musk-zelensky.html

https://www.theguardian.com/us-news/2024/nov/10/trump-putin-ukraine-war

https://www.reuters.com/world/us/biden-will-discuss-with-trump-top-us-priorities-wednesday-2024-11-10/

https://www.telegraph.co.uk/us/politics/2024/10/20/how-trump-putin-really-feel-each-other/

 

Tags: , , , , , , , , , , , , , ,