ต้องลบล้างมรดกรัฐประหารปี 2549 หยุดอำนาจกองทัพขี่คอรัฐบาล ‘พริษฐ์’ เร่งรัฐแก้ระเบียบกลาโหม-ยุติ กอ.รมน.

วันนี้ (19 กันยายน 2567) ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 2 ครั้งที่ 25 (สมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ลุกขึ้นอภิปรายหารือกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้เร่งรัดดำเนินการลบล้างผลพวงมรดกของคณะรัฐประหารปี 2549 หรือวันนี้เมื่อ 18 ปีที่แล้ว 

พริษฐ์กล่าวว่า มรดกของคณะรัฐประหารฉุดรั้งการพัฒนาของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน โดยมรดกแรกที่ต้องดำเนินการแก้ไขคือ ‘พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551’ ที่ทำให้กองทัพมีอำนาจเหนือรัฐบาลพลเรือน ทั้งในเรื่องของนโยบาย งบประมาณ และการแต่งตั้งนายพล

ส.ส.พรรคประชาชนจึงขอหารือกับ ครม. เพื่อให้มีมติเห็นชอบร่างแก้ไขของพรรคประชาชนที่ ครม.ดึงออกไปศึกษาเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567 ทั้งนี้หาก ครม. เสนอร่างแก้ไขเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ก็ขอให้ทางรัฐบาลเห็นชอบในหลักการของพรรคประชาชน ที่ว่าด้วยการปรับลดอำนาจของสภากลาโหม จากสภาที่ครอบรัฐมนตรีมาเป็นสภาที่ให้คำปรึกษากับรัฐมนตรีแทน

ขณะที่มรดกชิ้นที่ 2 ของคณะรัฐประหารปี 2549 ที่พริษฐ์มองว่าต้องดำเนินการแก้ไขคือ ‘พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายใน พ.ศ. 2551’ ที่ทำให้กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ฟื้นคืนชีพกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง โดยล่าสุดมีความพยายามของ กอ.รมน.ในการแบนหนังสือวิชาการ แทนที่จะออกมาตั้งข้อโต้แย้งถึงข้อมูลประเด็นที่คลาดเคลื่อนแทน

“ผมจึงอยากหารือกับนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.สูงสุดของ กอ.รมน.ว่า รู้เห็นกับการกระทำหรือไม่ หากใช่ ผมอยากร้องขอให้ยุติการดำเนินนโยบายที่เป็นการคุกคามเสรีภาพทางวิชาการ หากไม่รับทราบมาก่อน อยากให้ท่านหยุดปล่อยให้กองทัพทำตามอำเภอใจและขี่คอรัฐบาลพลเรือนเหมือนที่เป็นอยู่” พริษฐ์กล่าว

และมรดกชิ้นสุดท้ายของคณะรัฐประหารปี 2549 ที่พริษฐ์มองว่าต้องเร่งดำเนินการแก้ไขคือ ‘มาตรา 30 พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจไปสู่การปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542’ ที่คณะรัฐประหารได้ยกเลิกข้อความที่กำหนดไว้ว่า รัฐบาลจะต้องเพิ่มสัดส่วนรายได้ท้องถิ่นอยู่ที่ 35% ไปจนทำให้ตัวเลขของรายได้ท้องถิ่นล่าสุดในสมัยรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน มีสัดส่วนอยู่เพียง 29% เท่านั้น

พริษฐ์จึงขอหารือกับรัฐบาลให้เพิ่มสัดส่วนรายได้ท้องถิ่นให้ถึงเป้า 35% ภายใน 2 ปีงบประมาณที่เหลืออยู่ พร้อมทั้งหาก ส.ส.พรรคประชาชนได้เสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง อยากร้องขอให้นายกฯ คนปัจจุบันไม่กระทำทำเหมือนายกฯ คนก่อนหน้าที่ได้ปัดตกร่างแก้ไข จนไม่สามารถนำมาสู่การอภิปรายในสภาฯ ได้