วันนี้ (14 สิงหาคม 2024) หวัง อี้ (Wang Yi) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน มีกำหนดการเยือนเมียนมา โดยอาจมีบทบาทสำคัญในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลทหารทัตมาดอว์กับกลุ่มชาติพันธุ์
เบื้องต้น สำนักข่าวอิรวดี (Irrawady) เปิดเผยว่า หวัง อี้ มีกำหนดการณ์เยือน 2 ประเทศในอาเซียน คือ ไทยในฐานะประธานร่วมการประชุมความร่วมมือล้านช้าง-แม่น้ำโขงครั้งที่ 2 และเมียนมา ซึ่งถือเป็นการเยือนครั้งสำคัญตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2023 รวมถึงการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการกับ 3 ประเทศ ได้แก่ เมียนมา ไทย และลาว
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงการณ์ต่อการเยือนครั้งนี้ว่า จีนจะปฏิบัติตามหลักการไม่แทรกแซง (Non-Interference) ต่อกิจการภายในของประเทศอื่น รวมถึงสนับสนุนความพยายามการสร้างเสถียรภาพในเมียนมา โดยพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างสร้างสรรค์แก่ตัวแสดงแต่ละฝ่าย เพื่อจัดการปัญหาภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่น
อย่างไรก็ตาม หยิน อี๋หยาง (Yin Yihang) ผู้เชี่ยวชาญเมียนมาในสถาบันไท่เหอ (Taihe) ตั้งข้อสังเกตการเยือนของ หวัง อี้ ว่า เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด หลังการเจรจาหยุดยิงที่สนับสนุนโดยจีน ล้มเหลวในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีรายงานในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เติ้ง อี้จุน (Deng Xijun) ผู้แทนพิเศษจีนประจำกิจการเอเชีย ยังพบรัฐบาลทัตมาดอว์ในกรุงเนปิดอว์ เพื่อเจรจาสันติภาพและความมั่นคงทางชายแดนไม่กี่วัน หลังเมืองล่าเสี้ยว (Lashoi) ในรัฐฉาน ถูกยึดโดยกลุ่มต่อต้าน โดย พลเอก ซอ มิน ตุน (Zaw Min Tun) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูง 3 นาย และทหารบางส่วนในกองกำลังบัญชาการประจำตะวันออกเฉียงเหนือ ถูกจับตัว
หยินอธิบายเพิ่มเติมว่า การเยือนครั้งนี้ของจีน คือ การสร้างความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งเชื่อมโยงกับสถานการณ์ในรัฐฉานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะหนึ่งในกลุ่มที่ยึดครองเมืองล่าเสี้ยว คือ กองทัพโกก้าง (Kokang) ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของจีนฮั่น
ก่อนหน้านี้ มิน อ่อง หลาย กล่าวว่า กลุ่มกบฏได้รับความช่วยเหลือทางอาวุธ เช่น โดรน ขีปนาวุธพิสัยสั้นจากต่างชาติ แต่ไม่ได้ระบุว่าประเทศใด ซึ่งหยินคาดการณ์ว่า อาจกล่าวถึงสหรัฐอเมริกา ขณะที่ชาวเมียนมาเชื่อว่า จีนคือผู้สนับสนุนกลุ่มชาติพันธุ์ แม้ภายนอกจีนจะเป็นพันธมิตรชาติสำคัญของรัฐบาลทหารเมียนมาก็ตาม
ปัจจุบัน องค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN) รายงานว่า รัฐบาลทัตมาดอว์ก่ออาชญากรรมสงครามเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งการทรมานและล่วงละเมิดทางเพศเด็กในกลุ่มต่อต้าน ทั้งยังโจมตีพื้นที่ของพลเรือน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน ศาสนสถาน โรงพยาบาลอีกด้วย
อ้างอิง
https://www.voanews.com/a/china-says-fm-wang-to-visit-myanmar-thailand-this-week/7740364.html
https://www.dw.com/en/myanmar-war-crimes-escalating-substantially-un-says/a-69926601
Tags: พม่า, จีน, ไทย, ลาว, เมียนมา, หวัง อี้, ชายแดน, สงครามกลางเมืองพม่า, กองทัพโกก้าง