ป้ายงาน อาหาร ของตกแต่ง แจกันขนนก

ลองคิดดูว่า ถ้าจะจัดปาร์ตี้สักครั้งจะต้องเตรียมอะไรบ้างเพื่อให้งานสมบูรณ์ที่สุด สามารถทำหน้าที่ ‘เฉลิมฉลอง’ ได้อย่างเต็มศักยภาพ สร้างโมเมนต์ที่พิเศษสุดเซอร์ไพรส์ สื่อความหมายของงานได้อย่างครบถ้วน บ่งบอกตัวตนของผู้จัด และทำงานได้อย่าง ‘สมฐานะ’ สมความปรารถนาของผู้จัดงาน

เพราะปัญหาใหญ่ของวงการนี้คือ เมื่อจะจัดงานแต่ละครั้งล้วนเป็นเรื่องยุ่งยาก จะจัดงานเล็กก็ต้องหาซื้อของให้พอดีจำนวนคน ต้องการจ้างคนมาจัดการก็ไม่ค่อยมีใครรับ ขณะเดียวกันจะจัดงานใหญ่ก็ต้องหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยวางแผน ตั้งแต่ทำอย่างไรให้งานดู​ ‘แกลม’ (Glamorous) ทำอย่างไรให้ปาร์ตี้งบไม่บาน และทำอย่างไรให้พร็อพภายในงานเป็นไปตามธีมมากที่สุดThe Party Setter__THEMEchitect_นักจัดปาร์ตี้_รับตกแต่งงานอีเวนต์

เพราะหลายครั้ง การจัดงานเหล่านี้ก็มีรายละเอียดเยอะ จนยากจะทำให้คุ้มกับงบประมาณที่เสียไปได้ ยิ่งต้องหาซื้อพร็อพราคาแพงหรือสั่งทำพร็อพขึ้นมาใหม่ทุกครั้ง จนราคาสูงเกินงบที่ตั้งเอาไว้ หรือได้พร็อพราคาถูก แต่คุณภาพไม่ดี จัดวางไม่เข้ากัน อีกทั้งเมื่อจบงานพร็อพเหล่านี้ก็ไม่สามารถใช้ซ้ำได้อีกต่อไป

คำถามคือ จะดีกว่าไหมหากงาน ‘อีเวนต์’ เล็กๆ จะจัดได้ด้วยตัวเอง จะมีรายละเอียดที่เหมือนมีผู้เชี่ยวชาญเป็นคนจัด ราคาสมเหตุสมผลและเป็นมิตร มีแบบให้เลือกเหมือนมีออร์แกไนเซอร์มาเสนอไอเดีย สามารถจัดวางพร็อพในงานอย่าง Mix & Match อุปกรณ์ต่างๆ ได้ตามใจชอบ 

และจะดีกว่าไหม หากภายในงานใช้อุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อโลกและสิ่งแวดล้อม 

The Momentum ชวน 3 ผู้ก่อการ ได้แก่ หนูดี-นุดี กีรติยะอังกูร Operations Director แต้จิ๋ว-จุฑาภัทร บันไดเพชร Marketing Director และนุชชี่-รัตนนันท์ กิติวัฒน์ Design Director ผู้ก่อการของ The Party Setter นักจัดปาร์ตี้-ผู้บริหารจัดการและให้เช่าพร็อพสำหรับงานสำคัญ และ THEMEchitect นักตกแต่งงานอีเวนต์และซัพพลายเออร์ ผู้เป็นตัวช่วยสำคัญของ Event Organizer และธุรกิจต่างๆ ที่เปิดโกดังในตัวเมืองชลบุรี พร้อมกับทดลองจัดธีม 3 ธีมสุดฮิตของพวกเขา ได้แก่ Back to 90s, Under the Sea และ Alice in Wonderland โชว์ให้พวกเราเห็นศักยภาพในการสร้างสรรค์ ระบบการจัดการ และเล่าที่มาที่ไปของธุรกิจสุดคูลของพวกเขา

เรานั่งคุยยาวๆ กับ ‘คนเท่’ ทั้ง 3 คน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของแนวคิดนักจัดปาร์ตี้และการตกแต่งอีเวนต์ การวาง Pillar ของธุรกิจสุดคูลนี้ให้เป็นเรื่อง ‘โมเมนต์ของทุกคน’ ตั้งแต่ลูกค้า ผู้จัดงาน ผู้ร่วมงาน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเหตุผลที่พวกเขามองเห็นเรื่องของ Zero Waste ที่จะทำให้ธุรกิจที่มีอยู่และวงการของพวกเขาอยู่อย่างยั่งยืน

‘หนูดี’ ผู้รับผิดชอบ ‘ฝ่ายปฏิบัติการ’ เริ่มจากร้านอาหาร สู่ธุรกิจรับจัดปาร์ตี้

The Party Setter__THEMEchitect_นักจัดปาร์ตี้_รับตกแต่งงานอีเวนต์

หนูดี-นุดี กีรติยะอังกูร

หากย้อนกลับไปดูชีวิตของหนูดีจะพบว่า เธอหลงใหลในงานวาดรูป งานออกแบบ จนเป็นเหตุให้เข้าเรียนต่อที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจบออกมาวิ่งตามความฝันด้วยการทำงานในฐานะ ‘สถาปนิก’ 

หลังทำงานสถาปนิกได้สักระยะ นุชชี่เพื่อนจากคณะสถาปัตย์ฯ ก็มาชวนทำร้านอาหาร IfItIs (อีฟอิทอิส) ในซอยทองหล่อ ที่มี Interior Design สไตล์อาร์ต อาหารทุกจานมีเรื่องราว มีเรื่องเล่า เช่นเดียวกับเฟอร์นิเจอร์และบรรดาของตกแต่งสิ่งละอันพันละน้อยในร้านอาหาร ล้วนมีเรื่องราวให้ต้องรู้สึกเซอร์ไพรส์อยู่ตลอดเวลาแบบไม่มีที่สิ้นสุด

และก็มาพบกับคุณแต้ที่นี่ ขณะเดียวกัน ทั้ง 3 คนต่างคลั่งไคล้การตกแต่ง การสร้างโมเมนต์ ทำให้ IfItIs กลายเป็นร้านอาหารแบบมี ‘ธีม’ ตกแต่ง เพื่อเติมเต็มความทรงจำให้กับลูกค้า ทั้ง 3 คนต่างก็ ‘สุด’ ในเรื่องไอเดียและกระบวนการ เพื่อให้ลูกค้าแต่ละคนได้โมเมนต์ที่ต้องการ มีการคิดธีมใหม่ๆ เรียกว่า เป็นเรื่องสนุกที่คิดเท่าไรก็ไม่วันหมดไอเดีย การได้หาลูกเล่นที่ทำให้ลูกค้าประทับใจ แววตาถ่ายทอดออกมาเมื่อได้รับประสบการณ์ในสิ่งที่คาดไม่ถึง ความสุขที่ตราตรึงในใจ คือน้ำบ่อเล็กๆ แห่งความสุขของทั้ง 3 คนในเวลากว่า 10 ปีที่ตั้งต้นธุรกิจมาซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งเหล่านี้คือดีเอ็นเอที่ช่วยให้ IfItIs กลายเป็น The Party Setter ในปัจจุบัน 

ช่วงเวลาพีกสุดของ IfItIs คือตอนที่ถูกไล่ที่แล้วต้องปิดร้านที่เพิ่งรีโนเวตเสร็จใหม่ๆ แต่ก็ตัดสินใจทุบหม้อขายด้วยน้ำตาแล้วไปต่อ เพราะไม่มีทางให้ถอยกลับหลัง ร้านเล็กๆ ก็ขยายจาก 50 ที่นั่ง เป็นร้านอาหารขนาด 300 ที่นั่ง นุชชี่บอกเลยว่า วันนั้นต้องขอบคุณเพื่อนและครอบครัวที่มานั่งปูกระเบื้อง ทาสี ก่อร่างสร้างบ้านกันใหม่ภายใน 2 เดือน เรียกว่าร่วมกันเสกบ้านใหม่ออกมา มีสื่อมากมายเข้ามาขอสัมภาษณ์ รวมถึงมีคนภายนอกมาขอใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำรายการ ไม่ว่าจะงานวันเกิด งานครบรอบ งานเลี้ยงบริษัท หรืองานเปิดตัวสินค้า ก็ล้วนใช้ร้านอาหารของพวกเธอทั้งสิ้น

พอมีคนเข้ามาจัดงานที่ร้านมากมาย ด้วยเห็นที่ร้านค่อนข้างมีบรรยากาศแบบ Wonderland ลูกค้ามีมาจัดงานก็มักจะตกแต่งกันมาอย่างจัดเต็ม และนี่คือสิ่งที่หนูดีเล็งเห็นว่า “เราทำอะไรให้พวกเขาไม่เขินดีไหม เขาจะได้มาจัดกันบ่อยๆ”

ด้วยเหตุนี้จึงมาที่ยูนิตธุรกิจใหม่ เช่น หากลูกค้ารับประทานอาหารจนมีค่าใช้จ่ายต่อหัวถึง 1,000 บาทต่อคน สามารถแถมงานตกแต่งปาร์ตี้ให้ ไอเดียนี้ก็เลยกลายเป็นเหมือนมิติในอากาศที่ทำให้ลูกค้าที่แต่งตัวมาอย่างเต็มที่ เข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการอย่างเต็มตัว จากเดิมที่ดูเป็นจุดแปลกแยกที่ตัวเองไม่เข้าพวกในสถานที่ กลับกลายเป็นเหมือนดาราดัง ผู้ที่มีความสำคัญที่มีโต๊ะอาหารเป็นเหมือนเวทีการแสดง ในจินตนาการของวันสำคัญนั้นๆ

ทำไปสักระยะก็เป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจใหม่อย่าง The Party Setter ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2560 เป็นธุรกิจที่มุ่งเพื่อการตกแต่งปาร์ตี้โดยเฉพาะ

นับตั้งแต่การจัดปาร์ตี้วันเกิดเล็กๆ ไปจนถึงอีเวนต์ที่เต็มไปด้วยเรื่อง ‘เซอร์ไพรส์’ เป็นต้นว่าการขอแต่งงาน งานเลี้ยงสละโสด ที่ไม่ได้มีข้อจำกัดเพียงในร้านอาหารเท่านั้น แต่ยังสามารถยกชุดไปจัดได้ทั้งที่โรงแรม บ้าน กระทั่งบนเรือThe Party Setter__THEMEchitect_นักจัดปาร์ตี้_รับตกแต่งงานอีเวนต์

ปี 2562 พวกเธอตัดสินใจปิดร้านอาหาร IfItIs และลุยกับการทำธุรกิจรับจัดปาร์ตี้เต็มตัว เพราะคิดว่า เราไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานที่เดียวแล้ว หากไอเดียธีมที่คิดจะได้กระจายไปทั่วทุกร้าน ก็คงจะคุ้มกับคิดเยอะของพวกเธอดี จนปัจจุบันมีธีมสำหรับจัดปาร์ตี้กว่า 100 ธีม มีสต็อกของให้เช่ามากกว่า 1 หมื่นชิ้น กระทั่งแตกไลน์ใหม่ไปทำงานที่ใหญ่ขึ้นภายใต้แบรนด์ THEMEchitect 

ถึงวันนี้ หนูดีรับหน้าที่ดูแลงานด้าน ‘ปฏิบัติการ’ (Operations) ทั้งหมด โดยยึดหลักใหญ่คือสร้าง ‘ประสบการณ์’ ให้กับคนที่มางานให้ได้มากที่สุด

ถึงวันนี้ พวกเขาผ่านประสบการณ์การจัดกว่า 1,000 งานมาแล้วทั่วประเทศ โดยยึดหลักคืองานต้องผ่านไปอย่างดีที่สุด และหนูดีต้องทำตัวเองแบบ ‘ไร้ข้ออ้าง’ รู้แค่ว่าหาวิธีไป ต้องดี ต้องเสร็จให้กับลูกค้า

และจากประสบการณ์ก็นำพาให้เกิดระบบการซักถามที่รู้ว่า จะต้องถามหรือเตรียมตัวอย่างไร ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะต้องบอกอะไรที่เป็นสิ่งจำเป็นและจะเป็นอุปสรรคบ้าง แต่ทั้งหมดก็มีระบบเช็กลิสต์ที่มีการพัฒนาอยู่ตลอด เพื่อให้ได้มาซึ่งความพร้อมให้มากที่สุดก่อนเข้าหน้างาน

“เพราะทุกอีเวนต์ที่ออกไปจัด คือการสร้างประสบการณ์ใหม่ที่น่าจดจําให้กับคนที่มาในงาน ดังนั้น ต้องพยายามทำให้ความผิดพลาดให้เคียงกับ 0 มากที่สุด”

ความละเอียดที่เธอพูดถึงไม่ใช่เพียงเรื่องการจัดเตรียมอุปกรณ์ หรือการจัดวางอย่างเดียว แต่เริ่มต้นแต่การขนส่งว่า อุปกรณ์ขนส่งขึ้นลิฟต์ได้หรือไม่ เวลาในการเซ็ตอัปและการเก็บอุปกรณ์มีเท่าไร

The Party Setter__ THEMEchitect_นักจัดปาร์ตี้_รับตกแต่งงานอีเวนต์

คลังแสงของ The Party Setter ที่จังหวัดชลบุรี

ขณะเดียวกัน บางงานอาจมีเวลาเซ็ตเพียงเล็กน้อย ฉะนั้นจุดสำคัญคือ การวางแผนทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน

พวกเธอใช้แนวคิดของการขยายธุรกิจเป็นหลักเกณฑ์ ในการแก้ปัญหาของธุรกิจที่ค่อนข้างมีความละเอียดออกได้อย่างไร นุชชี่เล่าว่า ลูกค้าที่ติดต่อมา ส่วนมากจะติดต่อกันทางไลน์เท่านั้น น้อยมากหรือไม่เกิน 5 % ที่จะต้องโทรติดต่อเพื่อพูดคุยและตามงานต่อ

“ถึงแม้ว่าจะแตกต่างจากความคิดเดิมๆ ของการจัดงานที่ต้องมีแม่งาน ต้องมีคนมาคุย ถึงจะ Organize อะไรได้ แต่ทุกวันนี้พวกเราทำระบบเพื่อรองรับที่จะตอบโต้และให้คำปรึกษากับลูกค้าได้เร็วและแม่นยำ สามารถรองรับการขยายตัว รองรับการเกิดข้อผิดพลาดได้ 

“สำหรับ The Party Setter การ Organize สามารถทำงานผ่านระบบไลน์โดยไม่ต้องเจอหน้า และจัดงานขนาดคนเป็นหลักหลายร้อยได้อย่างราบรื่นได้ ก็เพราะความคิดแค่ว่า ถ้าไล่คุยกันหมดทุกคน แล้วเราลืมสักจุด งานเขาพลาดเราจะทำอย่างไร การบังคับและยึดมั่นให้การติดตั้งแบบนี้ที่ครบถ้วน และสามารถออกใบเสนอราคาได้ในเวลาไม่เกิน 15 นาทีสำหรับงานออร์แกไนเซอร์ จึงเรียกว่าเป็นการทำงานพลิกวัฒนธรรมเดิมและเปลี่ยนความเข้าใจเดิมไปเลย

“สิ่งสำคัญคือฟังให้เข้าใจว่าเขามาด้วยปัญหาอะไร ตีโจทย์นั้นให้ได้ เข้าใจมันให้ลึก แล้วเปลี่ยนปัญหาให้กลายเป็นรูปธรรมให้ได้ เปลี่ยนปัญหาให้ออกมาเป็นรายการ Backdrop เวที ช่างกล้อง MC Light and Sound กิจกรรม เอฟเฟกต์ให้ได้ นั่นแหละคือหน้าที่ของเซลส์เรา ฉะนั้น เซลส์ของเราจึงต้องจบการศึกษาด้านออกแบบมาด้วย ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างตรงความตั้งใจ ถึงแม้เรามีทีมออกแบบหลังบ้านก็ตาม แต่หน้าบ้านเราก็ต้องเข้าใจแก่นแท้ของคำว่าดีไซน์เช่นกัน” 

ขณะเดียวกัน ภาพโกดังที่เห็นก็คือการสั่งสมจากการจัดงานหลากหลาย จนกระทั่งต้องเซ็ตระบบสต็อก มีระบบบาร์โค้ดให้ช่วยจัดการงานหลังบ้านให้ลื่นไหลยิ่งขึ้น ป้องกันเรื่องของสูญหายระหว่างการขนส่ง ทั้งยังดูอายุการใช้งานว่า สินค้าชิ้นนี้ถึงเวลาซ่อมแซมและหมดอายุแล้วหรือยัง

ถึงตรงนี้ คำถามสำคัญก็คือ ทำไมถึงมีไอเดียเรื่อง Zero Waste และ Upcycling ขึ้นมา ในเวลาเดียวกับที่องค์กรอื่นๆ ต่างก็ทำงานในลักษณะ ‘ใช้แล้วทิ้ง’

หนูดีบอกว่า เป็นนิสัยส่วนตัวคือเป็นคนที่สนใจ ‘แยกขยะ’ เป็นพิเศษ 

“สำหรับหนูดีและคนในองค์กร ทุกสิ่งในโลกมันยังไม่หมดหน้าที่ ตราบใดที่อยู่ถูกที่ถูกเวลา ที่บ้านจะมีการล้างขยะ ขวดพลาสติก กระป๋อง เพื่อแยกขยะ จนดูเหมือนคนบ้า

“เรายังรู้สึกว่าเราเป็นคนงกท่านหนึ่ง ที่รู้สึกว่าของชิ้นนี้ยังมีคุณค่า ยังมีคุณค่าทั้งกับองค์กร และกับสังคม (หัวเราะ)”

ขณะเดียวกัน หากใครเคยไปงานอีเวนต์ใหญ่ๆ ก็จะพบว่า วัสดุส่วนใหญ่ล้วนเป็นการแกะโฟม ตัดฟิวเจอร์บอร์ด สร้างอุปกรณ์ขึ้นมาใหม่ ถึงเวลาแล้วก็ ‘ทิ้ง’ เพราะการทำงานทั้งหมดเป็นลักษณะ Make to Order วัสดุ อุปกรณ์ มักไม่คงทนถาวร

เป็นความรู้สึกร่วมของคนในวงการที่ต่างก็เห็นว่า ‘เสียดาย’ เมื่อของที่ใช้ในการจัดอีเวนต์เหล่านี้ต้องถูกทิ้งทั้งที่ยังใช้งานได้อยู่

ด้วยเหตุนี้ทำให้ The Party Setter จึงเริ่มต้นระบบบริหารจัดการพร็อพที่ใช้จากอีเวนต์เดิมให้สามารถใช้งานได้ใหม่ มีโกดังขนาดใหญ่ มีระบบบาร์โค้ดจัดเก็บพร็อพเหล่านี้ สามารถเช็กได้ตั้งแต่ธีม อายุการใช้งาน และบริหารจัดการได้ว่า ครบอายุการใช้งานหรือยัง และถึงเวลาต้องบำรุงรักษาแล้วหรือไม่

“การบริหารจัดการแบบนี้ ทำให้ออร์แกไนเซอร์รายอื่นถึงกับทึ่งว่า เราสามารถตอบสิ่งที่เขาคิดได้ตั้งแต่แรก ขณะเดียวกันก็มีคนที่บอกว่า ถ้ารู้อย่างนี้เขาเอาของมาฝากให้เราเก็บที่โกดังเรานานแล้ว” 

The Party Setter_THEMEchitect_นักจัดปาร์ตี_รับตกแต่งงานอีเวนท์

ธีม Alice in Wonderland

นอกจากนี้ วัสดุชิ้นหนึ่งยังอาจเป็นของในอีกธีมหนึ่งได้เสมอ เป็นต้นว่า กระถางคบเพลิงในธีมการแข่งกีฬาโอลิมปิกสามารถเป็น ‘ถ้วยทอง’ ในธีม Richie หรือธีม The Great Gatsby เป็นการใช้ซ้ำและใช้วัสดุอย่างมีคุณค่าจนกว่าจะใช้งานไม่ได้เลย

ถือเป็นการ Disrupt วงการอย่างแท้จริง

อีกส่วนหนึ่งที่ The Party Setter คิดค้นขึ้น คือทีมที่เรียกว่า Junior Setter เป็นทีมฟรีแลนซ์ที่ออกไปจัดงานได้ โดยไม่จำเป็นที่คนจาก The Party Setter ต้องออกไปจัดเอง เป็นทีมเล็กๆ ในแต่ละพื้นที่ที่เทรนขึ้น เพื่อให้งานจัดขึ้นได้อย่างราบรื่น เป็นไปตามคู่มือและคลิปวิดีโอที่กำหนดไว้ 

สิ่งนี้ก็คือการตอบปัญหาของลูกค้าอีกอย่างหนึ่ง เพราะจะชอบได้รับคำถามจากลูกค้าเสมอว่า รับจัดงานต่างจังหวัดไหม เหตุที่พวกเขาต้องถามเช่นนี้ เพราะหากต้องยกกองไปทั้งหมด ค่าใช้จ่ายจะแพงมาก เรียกว่าไม่น้อยกว่า 2-3 เท่า ถ้าเทียบกับราคาที่จัดกับเจ้าในท้องถิ่น 

แต่วันนี้เมื่อมีทีม Junior กับระบบ Manual Design จะขึ้นเหนือล่องใต้ ทุกคนก็จะได้รับของราคาเท่ากัน มาตรฐานเมืองกรุงเหมือนกัน (ต่างแค่ค่าส่งของนิดหน่อย) ซึ่งยังสร้างงานกระจายรายได้สร้างมาตรฐานใหม่ในการจัดงานของทุกภูมิภาคของประเทศไทยอีกด้วย

The Party Setter ยังทำระบบ RTD (Ready to Decorate) Props System ทำให้ลูกค้าสามารถ DIY (Do it Yourself) งานของตัวเองได้ โดย The Party Setter เป็นตัวกลางให้ลูกค้าสามารถจัดวางเลย์เอาต์ ประกอบพร็อพ Backdrop ฉากต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่ทำความเข้าใจกับคู่มือที่ออกแบบมาให้ง่ายต่อการเข้าใจและใช้งาน เพียงดูคู่มือก็จัดการได้ทันที The Party Setter__THEMEchitect_นักจัดปาร์ตี้_รับตกแต่งงานอีเวนต์

นุชชี่บอกว่า ระบบนี้เกิดขึ้นจากเมื่อลูกค้ามาพร้อมกับปัญหา ลูกค้าล้วนต้องการให้คนช่วยเหลือ ไม่ใช่ปฏิเสธไม่ทำงานให้ 

“ก่อนหน้านี้อาจมีบางครั้งที่ต้องปฏิเสธลูกค้าด้วยเหตุว่า คนไม่พอ แต่ทุกวันนี้ เราดีใจมากที่เมื่อลูกค้าคิดถึงเรา เราสามารถทำหน้าที่ให้บริการได้ โดยไม่ต้องปัดลูกค้าเลยสักคน”​

การจัดระบบที่เพียบพร้อมทำให้ The Party Setter เป็นที่พึ่งให้กับออร์แกไนเซอร์อื่นๆ ได้เช่นกัน เพราะหนูดีบอกว่า ที่ทำงานของเธอถือว่าพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถจัดวางพร็อพต่างๆ ได้รวดเร็ว เพียงดีดนิ้ว ทุกอย่างก็พร้อมเนรมิตขึ้นมาทันที

ด้วยความที่มีสต็อกเตรียมไว้นับหมื่นชิ้น The Party Setter จึงเป็นหนึ่งในนักจัดปาร์ตี้และผู้ให้เช่าพร็อพที่พร้อมที่สุด

แม้ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดปาร์ตี้ จัดงานเฉลิมฉลอง จัดงานประชุมใหญ่ๆ แต่สำหรับหนูดี ก็มีบางครั้งที่ทำให้เธอ ‘ใจฟู’ ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นการจัดงานปาร์ตี้ที่คุณแม่จัดให้ลูกสาวอายุ 18 ที่ผ่าตัดหัวใจ เหมือนกับมีโอกาสได้ ‘ฟื้น’ ขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งเป็นงานที่ฟีดแบ็กจากลูกค้าดีเยี่ยมมากๆ

“เหมือนกับว่าปาร์ตี้ของเราเป็นงานแรกที่ลูกสาวเขาฟื้นขึ้นมาแล้วได้เห็น” นุชชี่ขยายความ

แล้วในนิยามสั้นๆ ของคุณ The Party Setter คืออะไร? เราขอให้เขาสรุปนิยาม

“ผู้เล่าเรื่องราวผ่านธีมสตอรีโดยมีการตกแต่งอีเวนต์เป็นสื่อกลาง” นุชชี่ตอบคำถามสั้นๆ ด้วยรอยยิ้ม

แต้จิ๋ว-จุฑาภัทร บันไดเพชร Marketing Director ผู้วาดกลยุทธ์ให้การ ‘เข้าใจ’ ลูกค้า เป็นเรื่องสำคัญที่สุด

The Party Setter__THEMEchitect_นักจัดปาร์ตี้_รับตกแต่งงานอีเวนต์

แต้จิ๋ว – จุฑาภัทร บันไดเพชร

ผู้บริหารคนเท่อีกคนคือ แต้จิ๋ว Marketing Director ของ The Party Setter และ THEMEchitect หนึ่งในผู้ก่อตั้งและจิ๊กซอว์อีกตัวที่มาทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างมีตัวตน

แต้จิ๋วมีเส้นทางแตกต่างจากหนูดีและนุชชี่ เธอจบปริญญาตรีจากคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ก่อนไปเรียนต่อปริญญาโทด้าน Marketing ที่ Queensland University of Technology (QUT) และทำงานด้าน Marketing Communication อยู่พักใหญ่ จนมีโอกาสเข้ามาร่วมทำร้านอาหารกับนุชชี่และหนูดี สองเพื่อนซี้ที่ทำงานเป็นสถาปนิกและทำงานด้านดีไซน์อย่างเข้มข้นกันตั้งแต่เรียนจบ

“แต้จิ๋วจะพูดเสมอว่า นุช หนูดี พวกเธอทำบ้าบออะไรทุกวันทุกคืน เพราะ 4 ทุ่มของทุกวัน จะได้อะไรมาใหม่ตลอด เป็น Pinky and The Brain กันหรืออย่างไร” ถึงตรงนี้นุชชี่เล่าความทรงจำว่า สิ่งที่แต้จิ๋วพูดเสมอเลยคือ ถ้าไม่รู้วิธีที่จะบอกคนอื่นบ้างว่าทำอะไร แล้วใครมันจะไปรู้เรื่อง

“แล้วนั่นคือสิ่งที่แต้จิ๋วพลิกคนบ้าให้มีเรื่องราว แต้จิ๋วเป็นพวกเชี่ยวชาญทางด้าน Marketing Communication and Strategic Management ได้วางรากฐานใหม่ของความเป็นมาทั้งหมด ให้โลกได้รับรู้ วางกลุ่มเป้าหมาย ปรับผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ให้เข้าใจง่าย และนั่นคือจุดกำเนิดของการทำ Branding ที่มีเรียกว่าหากไม่มีคุณแต้แล้ว สองแบรนด์นี้คงยังเป็นแค่มุมเล็กๆ ในห้องแล็บของ Pinky and The Brain ต่อไป”

ขณะเดียวกัน แต้จิ๋วยังเป็นคนวางพื้นฐานตั้งแต่ ชื่อ รูปธรรม ความรู้สึกของแบรนด์ ทำเรื่องความเข้าใจของแบรนด์ที่มีต่อลูกค้า และต่อพนักงานในองค์กร

ขณะเดียวกัน แต้จิ๋วยังใช้เวลาส่วนใหญ่วิเคราะห์ ปรับแก้ ในการเฟ้นหาว่า คนที่อยากจะได้ยินนั้นคือใคร อยู่ที่ไหน ใช้ชีวิตอย่างไร ชอบอะไร และกำลังทำอะไรอยู่ เพียงเพื่ออยากจะบอกต่อเขาเหล่านั้นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายว่า พวกเราพร้อมรับใช้ พร้อมให้บริการ และแบรนด์ของเราตรงกับปัญหาของเขาจริงๆ

“ตอนแรกเราก็จัดตามธีมที่ลูกค้าร้องขอ ตอนนั้นที่ฮิตก็จะเป็นธีมเจ้าหญิง เจ้าชาย ฮาวาย ฟลามิงโกสีชมพู แต่เราก็รู้สึกว่าเราสร้างธีมใหม่ๆ เพื่อสร้างเทรนด์ให้ลูกค้าเลือกได้เช่นกัน”

The Party Setter__THEMEchitect_นักจัดปาร์ตี้_รับตกแต่งงานอีเวนต์

ไม่เพียงเท่านั้น แต้จิ๋วในฐานะ Marketer ยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างระบบ RTD (Ready to Decorate) Props System เพื่อให้ลูกค้าสามารถ ‘เช่า’ ธีมไปจัดได้ทั่วประเทศโดยมีมาตรฐานของงานระดับดีไซเนอร์มาออกแบบและจัดให้เอง

แต้จิ๋วคิดเสมอว่า ถ้าทำธุรกิจอะไรสักอย่าง แล้วคุยกับคนกรุงที่เป็นแค่ 3% ของคนทั้งประเทศ แล้วมันจะเจ๋งได้อย่างไร?

“สมมติว่าเราอยู่อุดรธานี ถ้าจะจัดปาร์ตี้ในมาตรฐานแบบเดียวกับกรุงเทพฯ เขาอาจต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 3 เท่าเพื่อให้ได้มาตรฐานเดียวกัน แต่สำหรับเรา คุณสามารถติดต่อมาที่เรา ให้เราสามารถจัดส่งธีมเดียวกับที่กรุงเทพฯ ไปตกแต่งได้ที่อุดรธานี โดยอ่านแค่เพียงคู่มือ (Manual) ที่เราเตรียมให้ หรือถ้าลูกค้าไม่อยากประกอบ เราก็มีทีม Junior Setter คอยช่วยเหลือ

“แต่สำหรับเรา การประกอบเองนั้นทำได้ง่ายมากๆ ถ้าคุณสามารถต่อเฟอร์นิเจอร์ของ IKEA ได้ ต่อเลโก้ได้ หากปฏิบัติตามคู่มือทำเราให้ไว้จะไม่ยากเลย”

แต้จิ๋วในฐานะผู้ให้ชื่อของระบบที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถ ‘เช่า’ ธีมไปจัดได้ทั่วประเทศ โดยมีมาตรฐานของงานระดับดีไซเนอร์มาออกแบบและจัดให้เอง จึงเหมือนได้เติมเต็มความสุขของตัวเองในการตอบสนองคนทั่วประเทศได้

ถามว่าแนวคิดนี้มาอย่างไร แต้จิ๋วบอกว่าหลักใหญ่คือมาจากการเรียนรู้ มาจากความเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร สิ่งที่ยังขาดอยู่คืออะไร แล้วก็สร้างผลิตภัณฑ์และระบบบริการที่ตอบโจทย์ได้ แก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นภายใต้ความเข้าใจทั้งหมด 

เคล็ดลับสำคัญในมุมของแต้จิ๋ว คือต้องเข้าใจ Customer Segmentation ให้ได้ว่า ลูกค้ามีความต้องการต่างกันอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะในมุมของลูกค้าที่เป็นออร์แกไนเซอร์ นักธุรกิจทั่วไป หน่วยงานราชการ หรือลูกค้าที่เป็นบริษัทใหญ่ ล้วนมีความต้องการที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจบริการที่มีอยู่ว่า บริการใด จุดไหน จะสามารถตอบปัญหาลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ตรงจุดได้บ้าง

“สำหรับงาน Marketing เราไม่ใช่แค่รับจัดปาร์ตี้ รับจัดงานอีเวนต์ แต่ทีมต้องเตรียมหลังบ้านกันเยอะมาก เพื่อให้เข้าใจลูกค้า ผลิตสินค้า และให้บริการได้ตามที่ลูกค้าต้องการ” 

ความท้าทายและความสนุกของงานนี้ของแต้จิ๋ว มาจากการที่จัดอีเวนต์ ‘ตามสั่ง’ แบบ ‘สั่งวันนี้ ได้พรุ่งนี้’ ซึ่งเป็นโจทย์ที่ลูกค้าต้องการ และไม่คิดว่าจะมี แต่พวกเขาสามารถ ‘เสก’ ขึ้นมาได้ 

The Party Setter__THEMEchitect_นักจัดปาร์ตี้_รับตกแต่งงานอีเวนต์

“เราจะเปลี่ยน Perception ของตลาดให้ได้ว่า ต่อจากนี้งานอีเวนต์ไม่จำเป็นต้องมีคนงานนับร้อยไปทำ ไปติดตั้ง แต่เพียงแค่กางคู่มือออกมาวางเรียงต่อกันจนกลายเป็นอีเวนต์ ก็จะเป็นงานอันน่ามหัศจรรย์ ทั้งยังมีหลายธีม หลากความเป็นไปได้มากกว่าที่ทุกคนคิด” และนั่นคือคำนิยามที่แต้จิ๋วให้ไว้ของ The Party Setter-Posion of Surprise เสกความเซอร์ไพรส์ได้ทันที

อีกส่วนสำคัญที่หลายคนมองเห็นก็คือ ยูนิตธุรกิจใหม่อย่าง THEMEChitect ซึ่งรับงานสเกลใหญ่กว่า The Party Setter ขยายฐานมาสู่ลูกค้า B2B โดยส่วนผสมสำคัญก็คือการจัดงานในสเกลที่ใหญ่ขึ้น ไม่ใช่เพียงแต่เป็นงานปาร์ตี้ธรรมดา แต่เป็นงานที่เกี่ยวกับเรื่องโครงสร้างใหญ่ บวกกับงานตกแต่งที่สเกลใหญ่ ตกแต่งบอกเล่าเรื่องราวของธีมในหลายจุด โดยรวมคำว่า Theme (แก่นของเรื่องราว) และคำว่า Architect (สถาปนิก) เข้าด้วยกัน

พร้อมทั้งสร้างแบรนด์ผ่าน Insights ว่า “ทุกงานอีเวนต์ คือเวทีแสดงฝีมือและพิสูจน์ตัวตนของผู้จัดงาน ซึ่งมีผลประกอบการของธุรกิจเป็นเดิมพัน”

เรียกได้ว่า THEMEchitect เป็นตัวช่วยของอีเวนต์ ออร์แกไนเซอร์ หน่วยงาน บริษัท ร้านอาหาร ที่นอกจากจะช่วยตกแต่งงานอีเวนต์ที่มาตรฐานสวยงามได้อย่างรวดเร็วในต้นทุนที่ควบคุมได้ ยังช่วยสร้างความภูมิใจและส่งเสริมภาพลักษณ์ของผู้จัดได้เป็นอย่างดีตาม Motto ของแบรนด์ ‘Your Best Event, Your Best Moment’

ถึงตรงนี้แต้จิ๋วตั้ง Goal สำหรับ The Party Setter และ THEMEchitect ไว้ว่า ‘อย่ากลัว’ ที่จัดงานอีเวนต์ งานตกแต่ง หรือว่างานปาร์ตี้ โดยให้ทุกคนคิดเสมอว่า ทุกงานสามารถเนรมิตขึ้นได้ และทำได้จริงอย่างไร้ขีดจำกัด 

The Party Setter_THEMEchitect_นักจัดปาร์ตี_รับตกแต่งงานอีเวนท์

ธีม Under the Sea

‘นุชชี่’ Design Director ผู้อยากให้ทั้ง The Party Setter และ THEMEchitect เป็น ‘คลังแสง’ ใหญ่ของคนในวงการ

The Party Setter__THEMEchitect_นักจัดปาร์ตี้_รับตกแต่งงานอีเวนต์

นุชชี่ – รัตนนันท์ กิติวัฒน์

จากรั้วโรงเรียนจิตรลดาสู่คณะสถาปัตย์ฯ จุฬาฯ นุชชี่มีสไตล์การแต่งตัวที่โดดเด่น ด้วยสีทองกระจายแสง เคลือบมันวาว สะท้อนความเป็น Design Director ของเธอได้ชัดที่สุด

นุชชี่เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่เด็ก เธอคือคนในกลุ่มที่มักเซอร์ไพรส์คนอื่น จัดงานวันเกิดให้คนรอบข้าง ทำเรื่องประทับใจให้กับทั้งเพื่อนร่วมรุ่น ทั้งคนในกลุ่มอีกหลายคน กลายเป็นดีเอ็นเอติดตัวมาตั้งแต่ทำร้านอาหาร ที่เธอเป็นหนึ่งในหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ

“เมื่อผ่านพ้นช่วงเวลาทองของร้านอาหาร จนมาถึงการเริ่มต้นใหม่สู่ธุรกิจรับจัดปาร์ตี้ท่ามกลางสมรภูมิการระบาดของโรคโควิด-19 พวกเราได้หายใจอยู่สัก 2 เดือน ตอนนั้นโควิด-19 ก็แย่มาก แย่มากจนเกือบจะทำให้ทีมลืมตัวตนของพวกเรา 

“พวกเราดิ้นทุกทางที่จะรักษาครอบครัวคนที่มีใจรักในการสร้างโมเมนต์พิเศษ ให้กับลูกค้าที่ให้ไว้ใจและยื่นมือมาให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งในวันสำคัญของเขา พวกเราต้องไปขายคลอรีน ขุดเอาเมนูเก่าของทางร้านออกมาประทังชีวิตครอบครัวที่มีอยู่ จนรอดมาได้เมื่องานต่างๆ เริ่มกลับมา พวกเราก็พบกับปัญหาอีกมากมาย เพราะตอนนี้ พนักงานที่มีก็ต้องบอกเลยว่า มึนกันไปหมดแล้ว บางตำแหน่งก็ขาดไปเลย ทำให้เราก็ไม่ได้สามารถรับงานได้เท่าที่เราต้องการ 

“แต่พนักงานทุกคนก็พร้อมใจกัน จะนอนตี 3 ออก 6 โมงไปทำงานกัน เพราะทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็คือผู้อยู่รอด พวกเราร่วมใจ กันกลับมาจนมีทุกวันนี้ได้ เพราะคำว่า ‘ทีม’ และความเชื่อในคุณค่าทางจิตใจที่มีต่อรอยยิ้มของใครสักคนที่เราได้มอบความสุขให้”

นุชชี่ก็สวมอีกหมวกสำคัญในฐานะ ‘ดีไซเนอร์’ เป็นตัวกลางในการจัดปาร์ตี้ ไม่ใช่แค่ในกลุ่มเพื่อนเหมือนเดิมอีกต่อไป แต่พร้อมจัดให้กับทุกคน

ขั้นตอนคือ ลูกค้าจะมาด้วย ‘บรีฟ’ แบบสั้นๆ ไม่มีความต้องการอะไรเท่าไร จากนั้นนุชชี่จะค่อยๆ รับฟังทำความเข้าใจ แล้วทำข้อมูลเหล่านั้นมาปรึกษากับทีม แล้วก็ระดมไอเดียกัน คิดถึงของที่มี คิดถึงของในตลาดที่มี คิดถึงความต้องการ จุดประสงค์หลักของลูกค้า แล้วค่อยบรรจงวาดภาพสเก็ตช์ เป็นนามธรรมให้กลายเป็นรูปธรรมที่สามารถสัมผัสได้จริง จดจำได้จริงในตา ในความทรงจำ 

“ในปัจจุบันเรามีธีมมากถึง 100 ธีม ที่เห็นเป็นภาพที่เกิดขึ้นจริง เป็นสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าเห็นภาพในจินตนาการของทีมดีไซเนอร์ได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงการแก้ปัญหาของโลกแห่งความจริงที่ต้องการ งานที่เร็ว ที่เห็นภาพและจับต้องได้  ในการพรีเซนต์แบบกับทีมงานของลูกค้าเอง หรือครอบครัว หรือแม้กระทั่งลูกค้าของลูกค้าอีกที”The Party Setter__THEMEchitect_นักจัดปาร์ตี้_รับตกแต่งงานอีเวนต์

แล้วที่จริงแล้ว เคล็ดลับของการออกแบบหรือสิ่งที่ยึดถือในการออกแบบงานของทาง The Party Setter แตกต่างจากงานออร์แกไนเซอร์ทั่วไปอย่างไร 

ถึงตรงนี้ นุชชี่ใช้ทักษะสถาปัตย์ฯ มาช่วย ทั้งในงานออกแบบ เรื่องโครงสร้างวัสดุ เรื่องความคงทนของวัสดุ ความแข็งแรงของโครงสร้าง การทำงานกับรูป-พื้นผิวสัมผัส การทดลองให้เกิดเทคนิคใหม่ และส่วนสำคัญที่สุดก็คือ การออกแบบ ‘แสง’ หรือ Lighting Design ให้ทุกงานมีแสงเป็นส่วนประกอบเสมอ ซึ่งส่วนหนึ่งคือการออกแบบจัดที่ทางให้ ‘ไฟ’ 

ขณะเดียวกัน อีกส่วนก็คือการออกแบบฟังก์ชันที่คำนึงถึงโครงสร้างราคาและเงินทุน ซึ่งได้มาจากคณะสถาปัตย์ฯ จุฬาฯ มาไม่น้อย 

โดยสิ่งที่ให้ความสำคัญเสมอมีแค่ 5 สิ่งเท่านั้น 

“Theme, Function, Lighting , Operation , Prop Management”

“ในทุกงาน เราจะใช้ธีมเป็นการเล่าจุดศูนย์กลางในการเล่าเรื่อง โดยคิดถึงจุดประสงค์และ Key Message ที่ลูกค้าต้องการจะสื่อสารในงาน แต่เขาจะรับสารเหล่านั้นไม่ได้เลยถ้าไม่ได้มีการเปิดตาเปิดใจด้วยความสวยงามที่เห็นได้จากการออกแบบ Lighting ที่ลงตัว” นุชชี่เล่าThe Party Setter__THEMEchitect_นักจัดปาร์ตี้_รับตกแต่งงานอีเวนต์

นอกจากนี้การออกแบบก็จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้ออกแบบที่ที่เข้าใจงานอีเวนต์ หรือเข้าใจการก่อร่างงาน การติดตั้งหน้างาน และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือ การออกแบบที่คิดถึงการวางแผน หน้าที่ของพร็อพชิ้นนั้นที่สามารถจะเป็นส่วนหนึ่งกับหลายธีม มีหลายหน้าที่ มีคุณค่าที่สุดเท่าที่จะเกิดมาเป็นสิ่งนั้นบนโลกได้

ในฐานะหนึ่งในผู้กุมบังเหียนของทั้ง The Party Setter และของ THEMEchitect นุชชี่บอกว่า เป้าหมายใหญ่ของทั้ง 2 องค์กรคือ การเป็น ‘ฮับ’ รวมคนทั้งวงการนี้

“เราอยากให้เป็นที่รวมตัวกันของออร์แกไนเซอร์ในวงการนี้ อยากให้เขาเห็นว่า หลังบ้านเรา ในโกดังของเรามีอะไรบ้าง ผ่านระบบที่เลือกใช้ เรื่องทำงานได้ง่าย เหมือนยกคลังไปไว้หลังโต๊ะทำงานออร์แกไนเซอร์ทุกคน เพื่อให้คนทั้งวงการสามารถทำงานของได้ง่ายขึ้น คนที่มาเลือกของก็จะได้มีทางเลือกมากขึ้น เป็นศูนย์รวมที่คนจะมาแปลกเปลี่ยนของกัน ช่วยกันในวงการ 

“ในขณะเดียวกัน เราก็ได้ใช้ความสามารถทางด้านดีไซน์ ให้แผ่ขยายออกไปให้ไกลที่สุด ด้วย คู่มือการติตตั้งที่จัดยังไงก็เหมือนดีไซเนอร์จัด ให้สุดขอบประเทศกันเลยทีเดียว

“ทุกวันนี้ ฮับของเราเป็นที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับบรรดาคนออร์แกไนเซอร์ด้วยกัน มีเป็น Prop Library เป็นห้องสมุดสำหรับพร็อพ ที่มี File PNG ให้โหลดไปแปะ Presentation กันได้เลย หรือถ้าใครอยากปรึกษาเรื่องการจัดงาน ก็สามารถมาปรึกษาเราได้ ให้สามารถเอาไปขายลูกค้าได้เร็วขึ้น”

นุชชี่บอกว่าในมุมของเธอ The Party Setter อยากเป็น ‘คลังแสง’ ของวงการพร็อพ วงการจัดปาร์ตี้ และวงการออร์แกไนเซอร์ ภายใต้ความเชื่อว่า ทุกอย่างไม่มีทางย่อยสลาย แค่ต้องหาหน้าที่ให้ตรงกับตัวตนของมัน เท่านั้นก็จะยังคงมีคุณค่าเสมอ ถึงแม้จะอยู่ในระบบกว่า 10 ปี ก็ไม่ได้แปลว่า พร็อพเหล่านั้นจะเป็นที่ 2 หรือของเก่า มันกลับไปเป็นดาวในเรื่องราวที่เข้าไปอยู่เสมอ เธอจึงอยากให้มาอยู่ร่วมกันและวางระบบรักษาพร็อพเหล่านี้ต่อไป ให้ใช้งานต่อได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

The Party Setter__THEMEchitect_นักจัดปาร์ตี้_รับตกแต่งงานอีเวนต์

“ต่อไปอาจมีการยืมของกันข้ามประเทศก็ได้ ตัวอย่างเช่น หากต้องการจัดคริสต์มาส 2 ต้นใหญ่ ก็เอาไปประเทศเพื่อนบ้านด้วย ส่งไปทั้งต้นเลย พร้อมกับคู่มือติดตั้ง ถึงเวลาใช้เสร็จสิ้น ก็เอาต้นคริสต์มาสกลับมาใช้ต่อ ในรูปแบบการออกแบบให้ มันก็กลับเป็นเหมือนสิ่งใหม่ขึ้นมาเลย หรือว่าหากใครอยากจะจัดอะไรที่ต้องใช้ของเพียงชั่วเวลา ก็แค่มายืมของจากทางเรา ความฝันของเราคืออยากให้คลังแสงได้ทำหน้าที่แบบนี้”

และเช่นเดียวกับที่หนูดีบอกไป จุดเด่นสำคัญของ ‘คลังแสง’ แห่งนี้ คือการรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการลดการ ‘ใช้แล้วทิ้ง’ ให้มากที่สุด 

“จากพรมใช้แล้ว สู่ดอกกุหลาบแดงที่เพอร์เฟกต์ จากฟิวเจอร์บอร์ดพิมพ์ลายแล้ว สู่ป้ายไฟแทรกลายน้ำ เปลี่ยนคำได้และเบา จากปะการังกระดาษที่บอบบางใช้แล้วทิ้ง สู่ปะการังที่นั่งทับก็ยังไม่เป็นไร”

ถึงจุดนี้ ต้นทางของการผลิต ‘ขยะ’ กลับกลายเป็นปลายทางแห่งการรักษาวัสดุอุปกรณ์ และพร็อพทุกชิ้นให้คงทนถาวรต่อไปไม่จบสิ้น ทั้งยังเป็นศูนย์กลางให้ทุกคนได้หยิบยืม ให้พร็อพเหล่านี้ได้ทำหน้าที่สร้างความสุขให้กับทุกคนต่อไป

เป็นแพสชันของทั้ง 3 คน ทั้งในการส่งต่อโมเมนต์อันมีคุณค่าให้กับลูกค้า และยังคงมุ่งมั่นในการรังสรรค์ประสบการณ์ เป็นผู้นำในวงการนี้ โดยมีธีมใหม่ๆ ลูกเล่นใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปาร์ตี้ครั้งต่อไปอย่าลืมมองหา The Party Setter และ THEMEchitect เพื่อให้งานของคุณ เป็นงานที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับผู้ร่วมงานทุกคน

Fact Box

  • ติดต่อ The Party Setter และ THEMEchitect ได้ทาง LINE ID: @thepartysetter หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ The Party Setter
Tags: , , , , ,