เมื่อวานนี้ (1 กรกฎาคม 2024) สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่า ญี่ปุ่นขึ้นค่าธรรมเนียมและจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวบนภูเขาไฟฟูจิ (Fuji) หลังเผชิญกับภาวะนักท่องเที่ยวล้นเมือง (Overtourism) ในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สำนักข่าวเอ็นบีซี (NBC News) ระบุว่า ผู้เดินทางมาเยือนภูเขาไฟฟูจิต้องจ่ายค่าธรรมเนียมราว 2,000 เยน (ประมาณ 455 บาท) ยังไม่รวมถึงค่าบริจาคเพื่ออนุรักษ์พื้นที่อีก 1,000 เยน (ประมาณ 228 บาท) ขณะที่รัฐจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 4,000 คนต่อวัน โดยแบ่งเป็นผู้จองล่วงหน้า 3,000 คน และกลุ่มวอล์กอินอีก 1,000 คน
สำหรับมาตรการเบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะมอบสายรัดข้อมือให้นักท่องเที่ยวเพื่อระบุตัวตนในการเดินทาง โดยทุกคนมีระยะเวลาเข้าชมตั้งแต่ 03.00-16.00 น. ยกเว้นกลุ่มค้างคืนที่เช่ากระท่อมบนยอดเขาเท่านั้น ซึ่งมีประตูไม้ในสถานีที่ 5 ไว้สำหรับสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อเข้าออกพื้นที่นอกเวลาดังกล่าว
สาเหตุที่ทางการญี่ปุ่นบังคับใช้นโยบายดังกล่าว เป็นเพราะภูเขาไฟฟูจิประสบวิกฤตนักท่องเที่ยวเกินขนาดตั้งแต่ช่วงกลางปี 2023 เป็นต้นมา สำนักข่าวเดอะการ์เดียน (The Guardian) เปิดเผยว่า ผู้มาเยือนสร้างผลกระทบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นขยะล้น ความปลอดภัยที่ลดลง การแสดงพฤติกรรมหยาบคายในพื้นที่สาธารณะ จนส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น และความเชื่อดั้งเดิมที่ว่า ภูเขาไฟฟูจิคือพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์
นอกจากนี้ เงินที่จะได้รับเพิ่มขึ้นจากนโยบายดังกล่าวยังเป็นทุนสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก และโรงพยาบาลรอบฟูจิ หลังนักท่องเที่ยวบางส่วนมีอาการบาดเจ็บจากการปีนเขา โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ เช่น แต่งกายไม่เหมาะสมกับกิจกรรม เตรียมอุปกรณ์ไม่ครบครัน หรือป่วยจากอากาศเย็นจัด เพราะไม่พักในกระท่อมบนภูเขา
“ผมคิดว่า ภูเขาไฟฟูจิน่าจะมีความสุข หากทุกคนคิดคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และเก็บขยะกลับบ้าน” ซาซิโกะ คัน (Sachiko Kan) คุณตาวัย 61 ปี แสดงความคิดเห็นต่อมาตรการใหม่
ขณะที่ โคทาโร นางาซากิ (Kotaro Nagasaki) ผู้ว่าการจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) ที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิแถลงว่า มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อลดปัญหาการเสียชีวิต และอุบัติเหตุจากนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันทางการมีแผนการเปิดเส้นทางรถไฟสำหรับเดินทางในสถานีที่ 5 ของภูเขา โดยที่รถยนต์และรถบัสสามารถเดินทางขึ้นไปได้
สัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานจากสำนักข่าวดิอินดิเพนเดนต์ (The Independent) เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตบนฟูจิ 4 ราย ซึ่งพบว่า 3 รายเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งเตือนก่อนมาตรการนี้จะบังคับใช้
ปัจจุบัน ญี่ปุ่นกำลังเผชิญวิกฤตเงินเยนอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 38 ปี ส่งผลให้การท่องเที่ยวของประเทศได้รับความสนใจสูงจากทั่วโลก เพราะค่าเงินที่ถูกลง โดยเซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ (South China Morning Post) ระบุว่า อัตรานักท่องเที่ยวของญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม 2024 เพิ่มขึ้น 9.6% หากเทียบกับในปี 2019 ก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทว่าปัญหาการท่องเที่ยวเกินขนาดที่ส่งผลกระทบต่อคนในท้องถิ่น ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนจัดระเบียบครั้งใหญ่ โดยเน้นการเพิ่มปริมาณเงินมากกว่าการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเหมือนในอดีต ซึ่งเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดฮิเมจิ (Himeji) เตรียมเริ่มเก็บเงินค่าเข้าชมปราสาทฮิเมจิถึง 3 เท่า จากเดิมที่ต้องจ่ายเพียง 1,000 เยนเท่านั้น
อ้างอิง
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/en/news/backstories/3293/
https://www.cnbc.com/2024/06/28/yen-hits-161-against-us-dollar.html
https://www.independent.co.uk/asia/japan/mount-fuji-japan-climbing-fee-hike-b2571833.html
https://www.asahi.com/ajw/articles/15326355
Tags: overtourism, นักท่องเที่ยวล้นเมือง, ภูเขาไฟฟูจิ, ญี่ปุ่น, ฟูจิ, นักท่องเที่ยว
