ยิ่งลักษณ์รอดคดีสั่งจัด ‘อีเวนต์‘ ไม่พบเจตนาเอื้อประโยชน์เอกชน ชี้หลักฐานฝ่ายกล่าวหาข้อบกพร่องเยอะ

วันนี้ (4 มีนาคม 2567) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีการนัดอ่านคำพิพากษาคดี อม.2/2565 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นฟ้อง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพวกอีก 6 ราย ในคดีจัดจ้างโครงการ ‘Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020’ วงเงิน 239 ล้านบาท

โดยข้อกล่าวหาที่ยื่นฟ้องยิ่งลักษณ์มีรายละเอียดระบุถึงการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต มุ่งหมายให้เกิดการแข่งขันราคาไม่เป็นธรรม โดยเอื้อประโยชน์ให้ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ

ล่าสุดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ยกฟ้อง เนื่องจากไม่พบว่ามีเจตนาในการเอื้อประโยชน์การจัดซื้อจัดจ้างและมีคำสั่งให้ถอนหมายจับยิ่งลักษณ์​ในคดีดังกล่าว

นิวัฒน์ธํารง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณศาลแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ให้ความเมตตาในการพิจารณาประเด็นอย่างถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นคำให้การจากโจทก์และจำเลยทั้งสองฝ่าย ซึ่งตนมั่นใจความบริสุทธิ์ในคดีนี้มาตั้งแต่แรก เพราะคณะทำงานด้วยความสุจริตและเพื่อผลประโยชน์ของชาติ

อดีตรองนายกฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในคดีนี้ยิ่งลักษณ์มีส่วนเกี่ยวข้องน้อยมาก เพราะเนื้องานเป็นในส่วนของฝ่ายปฏิบัติเสียมากกว่า

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงหลักฐานที่ทีมทนายนำมาประกอบการพิจารณาคดี นพดล หลาวทอง ทนายความของยิ่งลักษณ์​ กล่าวว่า มั่นใจในความสุจริตมาตั้งแต่แรก ประกอบกับหลักฐานของฝ่ายกล่าวหามีข้อบกพร่องอยู่มาก

“ตั้งแต่ผมรับงานมา ผมก็เชื่อมั่นใจในความบริสุทธิ์อยู่จนถึงวันนี้” นพดลกล่าว