วันนี้ (27 ตุลาคม 2023) สื่อรัฐบาลจีนรายงานว่า หลี่ เค่อเฉียง (Li Keqiang) อดีตนายกรัฐมนตรีจีน เสียชีวิตจากอาการหัวใจวายในวัย 68 ปี
“สหาย หลี่ เค่อเฉียงประสบกับอาการหัวใจวายเฉียบพลันในวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่พำนักในเมืองเซี่ยงไฮ้ แม้จะมีความพยายามกู้ชีพ แต่เขาได้จากไปในเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันนี้” ซีซีทีวี (CCTV) สื่อของรัฐบาลจีนแถลงการณ์เบื้องต้นในเช้าวันนี้
ขณะที่ปฏิกิริยาของสาธารณชนในเว่ยป๋อ (Weibo) โซเชียลมีเดียของจีน แสดงความเสียใจและรู้สึกตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีการไว้อาลัยการจากไปของอดีตนายกรัฐมนตรีด้วยภาพขาวดำในเว็บไซต์ของรัฐบาลจีน และเปลี่ยนปุ่มกดไลก์ เป็นปุ่มแสดงความเสียใจที่มีดอกเบญจมาศประกอบในเว็บไซต์เว่ยป๋อ
หลี่ เค่อเฉียง ถือเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญทางการเมืองของหน้าประวัติศาสตร์การเมืองจีน แม้จะมีชีวิตที่ยากลำบากตั้งแต่เด็ก แต่เขาก็สามารถไต่เต้าบนเวทีการเมืองจากการเป็นผู้ว่าการมณฑลเหอหนาน (Henan) ที่อายุน้อยที่สุด จนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดอันดับสองรองจาก สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ประธานาธิบดีจีน ก่อนจะเกษียณอายุทางการเมืองในเดือนมีนาคม 2023
นอกจากมีผลงานที่เด่นชัดทางด้านเศรษฐกิจ หลัง หลี่ เค่อเฉียง เสนอความคิด ‘ดัชนีหลี่ เค่อเฉียง’ (Li Keqiang Index) ว่าด้วยการพิจารณาความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจจากตัวเลขการใช้ไฟฟ้า ปริมาณการส่งออก และข้อมูลการกู้ยืมในธนาคาร แทนการวัดจำนวนตัวเลขทั่วไป
อดีตนายกรัฐมนตรีคนนี้ยังเคยได้รับการจับตามองว่า เขาจะเป็นผู้นำพรรคคอมนิวนิสต์คนต่อไปจาก หู จิ้นเทา (Hu Jintao) ก่อนที่สี จิ้นผิงจะครองอำนาจในปี 2012 จนถึงปัจจุบัน ทว่ากลับปรากฏความไม่ลงรอยบางอย่าง เมื่อ หลี่ เค่อเฉียงมักแสดงความคิดเห็นการปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมอย่างตรงไปตรงมา และทำให้เขาดำรงตำแหน่งได้เพียง ‘เบอร์สอง’ ของรัฐบาลจีนเท่านั้น
ในปี 2020 เขาเคยแสดงความคิดเห็นว่า ประชาชนในจีน 600 ล้านคนมีรายได้น้อยกว่า 140 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน (ประมาณ 5,071 บาท) ซึ่งก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมครั้งใหญ่ถึงประเด็นความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ
หรือแม้แต่ตอนอำลาทางการเมือง หลี่ เค่อเฉียงยังทิ้งนัยสำคัญถึงการปฏิรูปเศรษฐกิจ แต่กลับกลายเป็นว่า วิดีโอของเขาบางส่วนที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ถูกเซนเซอร์จากสื่อของรัฐบาลจีน
“ไม่ว่ากระแสลมและเมฆหมอกแห่งการเมืองระหว่างประเทศเปลี่ยนไปแค่ไหน จีนต้องผันแปรด้วยการเปิดกว้างมากขึ้น ดังแม่น้ำแยงซีเกียงและแม่น้ำเหลืองที่ไม่หวนกลับ” สุนทรพจน์ทางการเมืองของอดีตนายกรัฐมนตรีที่ทิ้งท้ายในการอำลาการเมือง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของจีนในการเมืองโลก
อ้างอิง
Tags: สี จิ้นผิง, จีน, หลี่ เค่อเฉียง, Li Keqiang