มันพอจะมีวิธีง่ายๆ ที่ช่วยทำให้เรารู้สึกดีขึ้นในวันที่แย่ไหม?

คำแนะนำแรกๆ คงหนีไม่พ้นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นกีตาร์ เล่นเกม เล่นกับแมว อยู่กับเพื่อน อยู่กับแฟน (ถ้ามี) หรือกินบุฟเฟต์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ดูเหมือนว่าการผ่อนคลายจากความเศร้าหรือความเครียดคือการหาอะไรทำ แต่เราไม่เคยคิดว่าเวลาเครียดหรือเศร้าเราให้อะไรกับใครได้บ้าง

งานวิจัย ‘Healing through helping: an experimental investigation of kindness, social activities, and reappraisal as well-being interventions’ ซึ่งเผยแพร่ใน The Journal of Positive Psychology ของมหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตต (Ohio State University) สหรัฐอเมริกา ที่ศึกษาเกี่ยวกับผู้มีอาการซึมเศร้าและอาการเครียดระบุว่า “การทำดีกับผู้อื่นและการโฟกัสสิ่งที่ผู้อื่นต้องการ อาจช่วยลดลดอาการซึมเศร้าและอาการวิตกกังวลลงได้”

เจนนิเฟอร์ ชีเวนส์ (Jennifer Cheavens) หนึ่งในสองผู้วิจัยกล่าวว่า ผู้คนมักคิดว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้ามีเรื่องให้รับมือมากพอแล้ว จึงไม่อยากขอความช่วยเหลือจากพวกเขาเพราะกลัวว่าจะไปเพิ่มภาระ แต่ผลลัพธ์จากงานวิจัยชิ้นดังกล่าวกลับสวนทางกับความคิดดังกล่าว

การทดสอบเริ่มต้นขึ้นในรัฐโอไฮโอด้วยการแบ่งผู้มีอาการซึมเศร้า 122 คน ออกเป็น 3 กลุ่ม โดยให้กลุ่มแรกทำกิจกรรมทางสังคมเป็นเวลา 2 สัปดาห์ กลุ่มที่ 2 ใช้เทคนิคการบำบัดจิตโดยปรับความคิดและพฤติกรรม (CBT) เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ในขณะที่กลุ่มที่ 3 ได้รับคำสั่งให้แสดงความมีน้ำใจ 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ผลปรากฏว่ากลุ่มที่ 3 มีแนวโน้มอาการซึมเศร้าและอาการเครียดลดลง ไม่ต่างจาก 2 กลุ่มที่ทำกิจกรรมทางสังคมและบำบัด CBT

ผลการวิจัยนี้บ่งชี้ว่าการทดสอบของทั้ง 3 กลุ่ม ลดความทุกข์ลงได้ แต่การแสดงความมีน้ำใจต่อผู้อื่นนั้นมีข้อได้เปรียบมากกว่าการทดสอบรูปแบบอื่น เพราะนอกจากจะสามารถทำได้ในทุกวันแล้ว การแสดงความมีน้ำใจยังสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นอีกด้วย ซึ่งการสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ

เดวิด เคร็ก (David Cregg) หนึ่งในผู้วิจัย กล่าวว่าการมีความสัมพันธ์ทางสังคม (Social Connection) เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการมีสุขภาวะที่ดี และดูเหมือนว่าการแสดงความมีน้ำใจจะเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางสังคม

บทความ ‘Connecting for Wellness’ จากมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด (Stanford University) เผยว่าจากการศึกษางานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าการมีความสัมพันธ์ทางสังคมมีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต สิ่งที่เห็นได้ชัดคือความสัมพันธ์ทางสังคมช่วยให้ผู้คนสามารถจัดการกับความเครียดในชีวิตประจำวันได้ดี

นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ที่มีความสัมพันธ์ทางสังคมนั้นมีความภาคภูมิใจในตนเอง มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และให้ความร่วมมือกับผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งช่วยสร้างการตอบกลับทางสังคมในเชิงบวกต่อพวกเขา ในขณะที่ผู้ที่ขาดความสัมพันธ์ทางสังคมมีแนวโน้มว่าสุขภาพกายและสุขภาพจิตจะอยู่ในระดับที่แย่ลง นำไปสู่พฤติกรรมต่อต้านสังคมที่ฉุดรั้งให้ผู้คนเหล่านั้นต้องแยกตัวและโดดเดี่ยวมากขึ้นไปอีก

ดังที่ อริสโตเติล (Aristotle) นักปราชญ์ชาวกรีกผู้ยิ่งใหญ่ได้กล่าวไว้ ‘มนุษย์เป็นสัตว์สังคม’ การที่ขาดความสัมพันธ์ทางสังคมจะทำให้เรารู้สึกโดดเดี่ยว เหี่ยวเฉา และเศร้าหมอง ในขณะที่การแสดงความมีน้ำใจและการแบ่งปัน จะทำให้เรารู้สึกถูกยอมรับและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสังคมมากขึ้น ซึ่งลดทอนความรู้สึกไร้ค่าและโดดเดี่ยว

อย่างไรก็ตามทุกคนมีทักษะการเข้าสังคม (Social Skills) ที่ไม่เหมือนกัน ถ้าการแสดงออกผ่านคำพูดเป็นเรื่องยาก ก็ลองเปลี่ยนเป็นการแสดงออกทางการกระทำ การแสดงความมีน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ กับคนใกล้ตัว เช่น แบ่งขนมให้เพื่อน กดลิฟต์ให้คนแปลกหน้า ก็พอทำให้เรารู้สึกว่ายังเป็นส่วนหนึ่งกับสังคมอยู่

ที่มา

https://www.sciencedaily.com/releases/2023/01/230110103424.htm

https://neuroscience.stanford.edu/news/connecting-wellness

https://www.tandfonline.com/doi/full/10.1080/17439760.2022.2154695

Tags: ,