วันนี้ (15 สิงหาคม 2565) อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน กรณีการหายตัวไปของ บิลลี่-พอละจี รักจงเจริญ ชาวกะเหรี่ยงในป่าแก่งกระจาน ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2557 โดยมีเอกสารจากสำนักงานอัยการสูงสุดส่งถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ลงนามโดย กุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด ยืนยันว่า อัยการการสูงสุด ได้ลงนามในความเห็นสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกรวม 4 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นข้อหา ‘ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน’ ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2565 สำหรับข้อหาที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องชัยวัฒน์และพวกรวม 4 คน คือ
1. ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแก่ตามที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนกระทำไว้
2. ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจโดยให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง
3. ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยว ถูกกักขัง หรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย
4. ร่วมกันทุจริตหรืออำพรางคดี กระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
ทั้งนี้ บิลลี่ซึ่งเป็นหลานชายของปู่คออี้ ผู้นำชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย ได้หายตัวไปอย่างลึกลับก่อนขึ้นให้การเป็นพยานปากสำคัญกับศาลปกครอง กรณีเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้รื้อเผาทำลายบ้านและยุ้งข้าวคนในชุมชนกะเหรี่ยง เมื่อปี 2554 ในยุทธการตะนาวศรี โดยชัยวัฒน์สารภาพว่าได้จับตัวบิลลี่ไปจริง แต่ปล่อยตัวเขาที่แยกหนองมะข้า และไม่มีใครได้พบเจอบิลลี่อีกเลย ซึ่งเมื่อไม่สามารถหาร่างของบิลลี่ได้ก็ไม่สามารถดำเนินคดีได้ต่อ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562 ดีเอสไอแถลงว่าพบกระดูกมนุษย์ใกล้ถังน้ำมันใต้สะพานแขวน ใกล้บริเวณที่ทำการอุทยาน และยืนยันว่ากระดูกที่พบเป็นของ ‘บิลลี่’
สำหรับกรณีของชัยวัฒน์ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ศาลปกครองเพชรบุรีเพิ่งมีคำสั่งทุเลาบังคับคดีให้กลับเข้ารับราชการไว้ก่อน หลังถูกปลดออก ปมเผาทรัพย์สินชาวบ้านบางกลอย บริเวณอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยคำสั่งของศาลระบุใจความสำคัญว่า คดีที่ชัยวัฒน์ฟ้องกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอันเป็นต้นสังกัดนั้น มาจากคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ 132/2564 ลงวันที่ 2 เมษายน 2564 ที่ลงโทษปลดชัยวัฒน์นั้น ไม่ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ก่อนออกคำสั่งดังกล่าว จึงมีเหตุอันควรสงสัยว่าคำสั่งที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีนี้น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย
อีกทั้งชัยวัฒน์ยังได้ชี้แจงว่า ขณะดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้ปฏิบัติหน้าที่ในการจับกุมและปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้จำนวน 474 คดี ซึ่งแล้วเสร็จ 64 คดี และยังมีคดีที่ยังไม่สิ้นสุดอีก 386 คดี ที่ชัยวัฒน์อาจต้องไปเป็นพยานในชั้นพิจารณาคดีของศาลด้วยตนเอง จึงเห็นได้ว่า ชัยวัฒน์ยังคงมีหน้าที่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ภารกิจของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต้นสังกัด สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จึงมีเหตุอันสมควรที่ศาลปกครองจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ 132/2564 ลงวันที่ 2 เมษายน 2564 ที่ลงโทษปลดผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้เป็นการชั่วคราว
Tags: Report, แก่งกระจาน, พอละจี รักจงเจริญ, คดีบิลลี่, ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร