วันนี้ (20 กรกฎาคม 2565) ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีถูกกล่าวหาว่าปกปิดทรัพย์สินในส่วนที่เป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น และใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้ตนมีส่วนได้รับผลประโยชน์จากโครงการต่างๆ ของรัฐ
ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลวันแรก (19 กรกฎาคม 2565) ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งคำถามถึงหลักฐานการขายหุ้นของ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ในราคา 120 ล้านบาท ว่าทำไมจึงไม่ปรากฏใน การยื่นรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายศักดิ์สยามต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2562
หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ยังได้มาเป็นคู่สัญญากับรัฐ รับงานในกระทรวงมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท ติดต่อกันหลายงานจนผิดปกติ ราคาชนะประมูลต่ำกว่าราคากลางเฉลี่ยไม่ถึง 0.3 เปอร์เซ็นต์ และมีคู่เทียบรายเดียวเท่านั้น จึงทำให้คิดได้ว่าอาจมีการใช้บุคคลภายนอกเป็นนอมินีถือหุ้น และใช้อำนาจหน้าที่เอาธุรกิจที่เกี่ยวข้องมารับงานกับภาครัฐ
ก่อนเริ่มอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันนี้ ศักดิ์สยามให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าไม่มีข้อกังวล ส่วนเหตุผลที่ไม่ตอบคำถามภายในวันที่ 19 กรกฎาคม เป็นเพราะติดช่วงเวลาข่าวในพระราชสำนัก จึงขอยกยอดมาตอบวันนี้แทน
ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่ 2 เวลา 12.00 น. ศักดิ์สยามเริ่มชี้แจงในกรณีดังกล่าวว่า การโอนหุ้น หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น มีการซื้อขายกับศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ซึ่งเป็นผู้รับโอนจริงๆ ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2561 โดยมีหลักฐานการโอนจากธนาคารธนชาติ อีกทั้งมีการจดหนังสือรับรองโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ แสดงให้เห็นว่าศักดิ์สยามไม่ได้เกี่ยวข้องกับ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อีกต่อไป
ส่วนประเด็นที่ไม่มีหลักฐานปรากฏในรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ ส.ส. เมื่อปี 2562 ศักดิ์สยามกล่าวว่า เงินส่วนนี้ได้รับและใช้จ่ายส่วนตัวไปแล้วก่อนที่ตนจะได้รับตำแหน่งเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2562 จึงไม่อยู่ในข้อบังคับที่ต้องแจ้งในรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องการฮั้วประมูลงานในกระทรวงคมนาคม ศักดิ์สยามยืนยันว่าไม่เป็นความจริง อีกทั้งยังเผยถึงหลักการทำงาน 4 ข้อของตัวเองคือ
1. ต้องปฏิบัติงานให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย
2. ต้องถูกต้องตามมติคณะรัฐมนตรี
3. ต้องเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล
4. ต้องรับฟังความเห็นของพี่น้องประชาชน
หลังศักดิ์สยามกล่าวชี้แจง ปกรณ์วุฒิตั้งคำถามต่อถึงหนี้มูลค่า 69 ล้านบาท ของ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ว่าสินทรัพย์ผลประโยชน์ตกถึงใคร ซึ่งศักดิ์สยามตอบคำถามเพียงว่าตนได้ขายหุ้นไปเรียบแล้ว เรื่องที่ดำเนินต่อหลังจากนั้น ต้องไปติดต่อกับทาง หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เอาเอง
ภาพ: เจมส์ วิลสัน / Thai News Pix
Tags: Report, อภิปรายไม่ไว้วางใจ, ศักดิ์สยาม ชิดชอบ