โฆษกรัฐบาลรัสเซียยอมรับ ‘สูญเสีย’ กำลังพลไปมาก จากปฏิบัติการในยูเครน

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2022 ที่ผ่านมา ดิมิทรี เพสคอฟ (Dmitry Peskov) โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกกับสื่อมวลชนตะวันตก โดยเขาเลือก Sky News ของอังกฤษ เป็นช่องทางในการให้สัมภาษณ์ผ่านวิดีโอคอล

ตอนหนึ่งในการสัมภาษณ์กับ มาร์ก ออสติน (Mark Austin) นักข่าวของ Sky News เพสคอฟยอมรับว่า ณ ขณะนี้ ทั่วโลกอยู่กับข่าวปลอมและเรื่องโกหก พร้อมกับบอกว่าภาพถ่ายที่ได้รับการยืนยันและภาพถ่ายจากดาวเทียมที่พบศพประชาชนชาวยูเครนเกลื่อนถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองบูชา (Bucha) ของยูเครน ที่ทำให้โลกตกตะลึง กระทั่งนานาชาติต่างก็ใช้เรื่องนี้ เป็นแรงกดดันในการคว่ำบาตรรัสเซียรุนแรงขึ้น ล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น

เมื่อถูกถามถึงตัวเลขของประชาชนที่เสียชีวิตในสงคราม นับตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 ที่ผ่านมา เปสคอฟบอกว่าเขายังไม่อยากตอบคำถามเรื่องดังกล่าว เพราะตัวเลขยังไม่นิ่ง และไม่ได้รับการตรวจทานซ้ำ รวมถึงยังยืนยันว่าการบุกยูเครนของรัสเซียไม่ใช่สงคราม หากแต่เป็น ‘ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร’ ซึ่งมีความจำเป็น เพราะยูเครนนั้นเป็นพวก ‘ต่อต้านรัสเซีย’ นับตั้งแต่เหตุการณ์ที่แคว้นไครเมียของยูเครนนับตั้งแต่ปี 2014 ที่ผ่านมา

แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ คำให้สัมภาษณ์ของเพสคอฟที่ยืนยันเป็นครั้งแรกว่ารัสเซียสูญเสียกำลังพลไปมากจากปฏิบัติการในยูเครน

“เราสูญเสียกำลังพลไปเป็นจำนวนมาก และเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่งสำหรับพวกเรา” เขาให้สัมภาษณ์ พร้อมกับให้สัมภาษณ์ต่อด้วยประโยคที่ Sky News ตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นสัญญาณที่ทำให้เห็นว่ารัฐบาลรัสเซีย อาจต้องการ ‘ยุติ’ สงคราม

“กองทัพของเรากำลังทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเพื่อยุติปฏิบัติการดังกล่าว และพวกเราหวังว่าในไม่กี่วันข้างหน้า ในอนาคตอันใกล้ ปฏิบัติการนี้จะบรรลุเป้าหมาย หรือจบลงด้วยการเจรจาระหว่างตัวแทนฝ่ายรัสเซียและยูเครน”

ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ เพสคอฟยังยืนยันจุดยืนเดิมว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organisation: NATO) เป็นเครื่องจักรในการเผชิญหน้า ไม่ใช่พันธมิตรในด้านสันติภาพของรัสเซีย

“นาโต้ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อการเผชิญหน้า และจุดประสงค์หลักของมันก็คือเพื่อประจันหน้ากับประเทศของเรา” และยังกล่าวเสริมด้วยว่า ท่าทีของฟินแลนด์ และสวีเดนที่เข้าร่วมกับนาโต้ล่าสุด อาจทำให้รัสเซียต้องเสริมกำลังด้านตะวันตกให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้เขายังปฏิเสธข้อกล่าวหาที่นานาชาติต่างระบุว่า ประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ของรัสเซีย เป็นอาชญากรสงคราม และต้องถูกนำตัวขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศในอีกไม่นานนี้สั้นๆ ว่า “ยังไม่เห็นความเป็นไปได้ในเรื่องดังกล่าว”

โฆษกรัฐบาลรัสเซียยังบอกอีกด้วยว่า การถอนกำลังจากเคียฟและเชอร์นีฟ นั้นเป็นความปรารถนาดี และเป็นสัญญาณว่ารัสเซียต้องเการเดินหน้าในการ ‘เจรจา’ อย่างจริงใจ โดยรัสเซียถอนกำลังทั้งหมดออกจากทั้งสองเมือง นับตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา กระนั้นเอง หน่วยข่าวกรองของรัฐบาลสหรัฐอเมริกายังคงวิตกกังวลว่าการถอนกำลังอาจไม่ได้ถอนเปล่า หากแต่มีการวาง ‘กับระเบิด’ ไว้ ในบางจุด ซึ่งยังคงต้องสำรวจพื้นที่ต่อไป ขณะที่ความเสียหายในทั้งสองเมืองยังอยู่ในระหว่างการประเมินความเสียหาย

เพสคอฟชี้แจงอีกด้วยว่า ในเมืองมาริอูโปล (Mariupol) ที่ถูกทิ้งระเบิดอย่างหนักถือเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนลูฮานส์ (Luhansk) ซึ่งเป็นอีกรัฐหนึ่งแยกออกมา ทั้งยังบอกอีกด้วยว่า กำลังพลรัสเซียที่เข้าไปยังมาริอูโปลก็เพื่อช่วย ‘ปลดปล่อย’ ประชาชนชาวยูเครนที่ทนทุกข์ทรมานกับรัฐบาลยูเครนมานานถึง 8 ปี

ทั้งนี้เขาปฏิเสธว่ากองทัพอาการรัสเซียไม่เคยทิ้งระเบิดไปยังโรงพยาบาลแม่และเด็กในเมืองมาริอูโปล ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 4 ราย รวมถึงบาดเจ็บอย่างน้อย 16 คน พร้อมกับกล่าวอีกเช่นเคยว่าเรื่องดังกล่าวเป็น ‘ข่าวปลอม’

“เรามีเหตุผลจริงจังมากที่จะเชื่อว่ามันเป็นของปลอม และเรายืนยันในสิ่งนั้น”

ที่มา:

https://news.sky.com/…/ukraine-war-putins-spokesman…

https://www.bbc.com/news/world-europe-61033173

ภาพ: AFP