บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด (SCB Julius Baer) เปิดตัวสำนักงานแห่งแรกในไทยตั้งบนถนนสุขุมวิท เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางการให้บริการบริหารความมั่งคั่งแบบครบวงจรสำหรับลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (Ultra High Net Worth Individuals – UHNWIs / High Net Worth Individuals – HNWIs) พร้อมตั้งเป้า 5 ปีข้างหน้า ต้องมีส่วนแบ่งการตลาด 10% หรือมีสินทรัพย์ที่ต้องดูแลประมาณ 1 ล้านล้านบาท จากมูลค่าของตลาด 10 ล้านล้านบาท ณ สิ้นปี 2562 ขึ้นเป็นผู้นำตลาดบริหารความมั่งคั่งในไทย
ลลิตภัทร ธรณวิกรัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนและเศรษฐกิจโลกในปี 2563 ที่ต้องเจอกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทำให้เกิดภาวะตลาดผันผวนในช่วงไตรมาส 1 และ 2 อย่างไรก็ตามไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ เห็นสัญญาณการฟื้นตัวจากดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจในไตรมาส 3 และคาดว่า GDP โลกในปี 2564 จะฟื้นตัวขึ้นได้ที่ระดับ 6.5% จากเดิมที่น่าจะติดลบประมาณ 3% ในปี 2563 สำหรับการลงทุนนั้น ตลาดตราสารทุนมีความน่าสนใจมากกว่าตลาดสินทรัพย์ปลอดภัย และภูมิภาคที่น่าลงทุนคือสหรัฐอเมริกาและจีน
“ภาพรวมของตลาดโลก ไม่ได้แย่มากนัก ยังมีโอกาสสำหรับนักลงทุนที่รับความผันผวนได้ เพราะตลาดใหญ่ มีความหลากหลายมาก ดังนั้นโอกาสก็มีมากอยู่เช่นกัน”
“เราจะเห็นว่าคนรวยในโลกเพิ่มขึ้นทุกปี แม้ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้คนรวยจะลดลงราว 6-8% แต่เราจะเห็นว่าก็มีคนบางกลุ่มที่รวยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะฝั่งเอเชียที่แนวโน้มกลุ่มลูกค้าความมั่งคั่งระดับสูงจะเพิ่มมากขึ้น”
ลลิตภัทร ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าตลาดบริหารความมั่งคั่งของไทย เป็นตลาดที่มีความกระจัดกระจาย อย่างไรก็ตามในกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง คือมีสินทรัพย์เกิน 100 ล้านบาทขึ้นไปในไทย ยังเติบโตในอัตราที่สูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดย ณ สิ้นปี 2562 ตลาดมีมูลค่าคงค้างอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 9.9 %
สำหรับ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ ตั้งเป้าหมายภายในปี 5 ปีจะมีส่วนแบ่งการตลาด 10% หรือมีสินทรัพย์ที่ต้องดูแลประมาณ 1 ล้านล้านบาท และมีฐานลูกค้ากว่า 1,000 ครอบครัว ด้วยกลยุทธ์สำคัญอย่างการมีผู้เชี่ยวชาญแนะนำด้านการลงทุน การมี Single RM ที่จะดูแลลูกค้าแบบครบวงจรสำหรับการลงทุน และการมีผลิตภัณฑ์และบริการหลากหลายจากทั่วโลกที่ให้เลือกลงทุนได้
“เราโฟกัสที่การลงทุนต่างประเทศ 100% ซึ่งลูกค้าที่อยากจะลงทุนในต่างประเทศนั้นมีเหตุผลหลากหลายด้วยกัน และไม่ใช่ว่าการลงทุนในต่างประเทศจะเสี่ยงมากแต่อย่างใด มีผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงน้อยด้วยเช่นกัน แต่คนที่ต้องการลงทุนในต่างประเทศคือ อาจจะต้องการผลตอบแทนที่สูงมากกว่าลงทุนแค่ในเมืองไทย”
โดยไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ มีสัดส่วนการลงทุนดังนี้ หุ้น (Equities) 51% พันธบัตร (Bonds) 40% ตลาดเงิน (Money Market) 5% และอื่นๆ อีก 4%
ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ สำนักงานแห่งแรกในเมืองไทยบนถนนสุขุมวิท จะเป็นฐานที่มั่นสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้านักลงทุน ซึ่งหรูหราสวยงามภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Private Luxx” ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมร่วมสมัยสไตล์ยูเรเชีย ที่มีการผสมผสานความโดดเด่นของธนาคารไทยพาณิชย์สาขาตลาดน้อย และสำนักงานจูเลียส แบร์ ณ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เข้าไว้ด้วยกัน