ขณะที่ประเทศอื่นๆ ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงจะเสียชีวิตและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากโรคโควิด-19 มากที่สุด แต่ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ สหรัฐอเมริกา หรือ CDC เปิดเผยเมื่อวันที่ 18 มีนาคมว่า จากจำนวนผู้ป่วย 508 คนที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เป็นผู้ที่อายุระหว่าง 20-54 ปี ถึงร้อยละ 38 และเกือบครึ่งหนึ่งของคนไข้ 121 คนที่ต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู มีอายุต่ำกว่า 65 ปี

สตีเฟน เอส มอส ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยโคลัมเบียกล่าวว่า ทุกคนควรจะให้ความสนใจกับข้อมูลนี้ เพราะมันชี้ว่าไวรัสไม่ได้ส่งผลกระทบกับแค่แค่ผู้สูงอายุ แต่ยังกระทบถึงคนหนุ่มสาว ซึ่งควรต้องระวังตัวเองแม้จะคิดว่าตัวเองแข็งแรงดีก็ตาม 

ถึงแม้ความเสี่ยงของผู้ป่วยยังคงขึ้นอยู่กับอายุเช่นเดียวกับในประเทศอื่น แต่ข้อมูลในรายงานของ CDC ที่รวบรวมผู้ติดเชื้อในสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 12 กุมภาพันธ์ถึง 16 มีนาคม จากผู้ป่วย 2,449 คนที่ระบุอายุได้พบว่า 

1. ร้อยละ 6 มีอายุมากกว่า 85 ปี 
2. ร้อยละ 25 อายุระหว่าง 65-84 ปี 
3. ร้อยละ 18 อายุระหว่าง 55-64 ปี 
4. ร้อยละ 18 อายุระหว่าง 45-54 ปี
5. ร้อยละ 29 อายุระหว่าง  20-44 ปี
6. ร้อยละ 5 มีอายุต่ำกว่า 19 ปี

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แม้ในรายงานอาจจะมีค่าผิดปกติจากข้อมูลของอายุของผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่หายไป  แต่การที่คนกลุ่มนี้กำลังใช้เตียงของโรงพยาบาลและพื้นที่ในห้องไอซียูก็ต้องถือว่านี่เป็นเรื่องสำคัญ เพราะส่งผลกระทบต่อการจัดการระบบจัดการสาธารณสุขในโรงพยาบาล

รายงานของ CDC ยังระบุอีกว่า ในสหรัฐฯ ผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียูแบ่งเป็น

1. ร้อยละ 7 เป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 85 ปี
2. ร้อยละ 46 เป็นผู้ที่มีอายุระหว่าง 65-84 ปี 
3. ร้อยละ 36 เป็นผู้ที่อายุระหว่าง 45-64 ปี
4.  ร้อยละ 12 เป็นผู้ที่อายุระหว่าง 20-44 ปี

“คนที่อายุน้อยอาจรู้สึกว่าสามารถทนกับไวรัสได้ แต่ถ้าคนอายุน้อยๆ ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากๆ ก็แปลว่ามีคนหนุ่มสาวที่ติดเชื้ออีกมากมายในชุมชนที่เดินไปเดินมา” คริสโตเฟอร์ คาร์ลสเตน หัวหน้าแพทย์ด้านระบบทางเดินหายใจ มหาวิทยาลัยบริติช โคลัมเบียกล่าว

ข้อมูลนี้สอดคล้องกับความเห็นของ เดบอราห์ เบิร์ซ แพทย์และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบเรื่องไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ เธออ้างรายงานจากอิตาลีและฝรั่งเศสว่า การที่คนอายุน้อยต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลและใช้ห้องไอซียู และเรียกร้องให้เจนเนอเรชั่นมิลเลนเนียลหยุดเข้าสังคม รวมกลุ่ม ดูแลตัวเองและคนอื่น 

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ออกมาแถลงขอร้องให้คนที่อายุน้อยหยุดพฤติกรรมเสี่ยง อาทิ การรวมกลุ่มปาร์ตี้ การไปชายหาดและกินดื่มในบาร์ 

“คนอายุน้อยจำนวนมากต้องนอนโรงพยาบาล มากกว่าที่เราสื่อสารออกไป แม้ว่าพวกคุณจะไม่ตาย แต่การมีชีวิตอยู่ด้วยปอดที่ถูกทำลาย ไม่ใช่เรื่องดีแน่” ปราห์โจต์ สิงห์ แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสาธารณสุข มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์อิคาห์นกล่าว

อย่างไรก็ตาม รายงานของ CDC ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น โรคเรื้อรังที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ดังนั้นจึงยังไม่สามารถระบุได้ว่า คนที่อายุน้อยกว่าซึ่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลติดเชื้อรุนแรงกว่ากลุ่มอายุอื่น

ทั้งนี้ ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่า ทุกกลุ่มอายุต่างมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อและควรจะปกป้องสุขภาพของตัวเอง รวมถึงรับผิดชอบที่จะไม่นำเชื้อไปติดคนอื่นๆ 

ที่มา:

https://www.boston.com/news/health/2020/03/18/younger-adults-coronavirus

https://www.cdc.gov/mmwr/volumes/69/wr/mm6912e2.htm?s_cid=mm6912e2_w

https://thehill.com/policy/healthcare/488325-cdc-data-show-coronavirus-poses-serious-risk-for-younger-people

ภาพ: REUTERS/Steve Nesius