นอกจากชื่อเรื่องที่เหมือนกันแล้ว The Mummy เวอร์ชั่น 2017 ของผู้กำกับ อเล็กซ์ เคิร์ทซ์แมน ที่เป็นหนังเปิดตัว Dark Universe ของค่าย Universal Studios ก็แทบจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ The Mummy เวอร์ชั่น 1999 ของผู้กำกับ สตีเฟน ซอมเมอร์ส หรือแม้กระทั่งเวอร์ชั่นเก่ากว่านั้นเลยสักนิดเดียว
The Mummy เวอร์ชั่นปัจจุบัน เล่าเรื่องราวของ นิก มอร์ตัน (ทอม ครูซ) ทหารลาดตะเวนของกองทัพสหรัฐฯ ในอิรัก ที่ดันไปปลดปล่อยเจ้าหญิงอามาเน็ต (โซเฟีย บูเตลลา) ปีศาจจากอาณาจักรอียิปต์โบราณ ก่อนจะได้องค์กรใต้ดินของดอกเตอร์ เฮนรี แจ็กเคิล หรือคนสองบุคลิกที่รู้จักกันในชื่อ ดอกเตอร์ แจ็กเคิล แอนด์ มิสเตอร์ ไฮด์ (รัสเซล โครว์) เข้ามาให้การช่วยเหลือ พร้อมทั้งบอกให้รู้ว่ายังมีปีศาจอีกหลายแบบซ่อนตัวอยู่บนโลกใบนี้
หากมองเฉพาะเรื่องความสนุก The Mummy เวอร์ชั่นนี้ทำได้ดีไม่แพ้เวอร์ชั่นก่อนๆ เลย สามารถทำให้รู้สึกลุ้นระทึกไปกับการวิ่งหนีระเบิดและผีดิบของทอม ครูซ ได้ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง
แต่ถ้าว่ากันด้วยสถานะของการเป็นหนังมัมมี่แล้ว คงต้องบอกว่าผลงานของอเล็กซ์ เคิร์ทซ์แมน สอบตกและออกจะน่าผิดหวังไปมากทีเดียว เพราะตลอดระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมงเต็มของหนังทั้งเรื่อง แทบไม่มีกลิ่นอายความเป็นหนังมัมมี่เหลือให้เห็นเลย คล้ายกับว่ากำลังนั่งดู Mission Impossible เวอร์ชั่นที่ให้ทอม ครูซ มาสู้รบตบมือกับปีศาจจากอียิปต์โบราณเสียมากกว่า
ข้อเสียอีกอย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี้คือ ‘บท’ ที่พยายามจะเหยียบเรือสองแคม ต้องการเป็นทั้งหนังมัมมี่และหนังเปิด Dark Universe แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด เพราะบทเต็มไปด้วยความอ่อนยวบ ทั้งที่ The Mummy เวอร์ชั่นนี้มีตัวร้ายทรงเสน่ห์และเต็มไปด้วยปมในใจอย่างเจ้าหญิงอามาเน็ต แต่หนังกลับใช้ประโยชน์จากจุดนี้น้อยมากอย่างน่าตกใจ แถมยังรู้สึกว่าพยายามรีบเล่าให้จบๆ ไป แล้วเอาเวลาส่วนใหญ่ที่เหลือมาสร้างจุดเชื่อมให้กับ Dark Universe ซะมากกว่า
เห็นได้จากการยกเหตุการณ์หลักๆ ไปไว้ในลอนดอน แทนที่จะเป็นดินแดนไอยคุปต์อย่างอียิปต์ เพื่อสร้างบทบาทให้กับองค์กรใต้ดินของดอกเตอร์ เฮนรี แจ็กเคิล ซึ่งเดาว่าน่าจะมีหน้าที่คล้ายหน่วย S.H.I.E.L.D. ของจักรวาลหนัง Marvel สำหรับต่อกรกับเหล่าปีศาจร้ายที่มีพลังคุกคามโลก
โดยปีศาจร้ายตนแรกก็คือเจ้าหญิงอามาเน็ตที่เดินทางมาพร้อมกับจอมปีศาจที่ชั่วร้ายยิ่งกว่า ส่วนปีศาจตนถัดๆ ไปก็น่าจะมาจากหนังอย่าง Bride of Frankenstein, Creature from the Black Lagoon, Invisible Man, Van Helsing, Wolf Man, Dracula, Phantom of the Opera และ Hunchback of Notre-Dome ที่ Universal Studios ประกาศสร้างไปแล้วก่อนหน้านี้ ส่วนองค์กรใต้ดินดังกล่าวจะมีบทบาทอย่างไรบ้างก็คงต้องคอยดูกันต่อในหนังเรื่องอื่นๆ ซึ่งจุดนี้ถือว่า The Mummy สอบผ่านกับการเป็นหนังเปิด Dark Universe
แต่ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าการพยายามเหยียบเรือสองแคมของ The Mummy ส่งผลกระทบต่อตัวบทอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าตัวหนังจะทำออกมาได้น่าสนุกขนาดไหน แต่ลงท้ายก็เป็นได้แค่หนังสนุกอีกเรื่องหนึ่งของฮอลลีวูดที่ไม่ค่อยมีอะไรให้จดจำสักเท่าไร
