ไช่ อิง-เหวิน ชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย ได้เป็นประธานาธิบดีไต้หวันต่ออีกสมัย หลังเน้นแคมเปญเชิดชูคุณค่าประชาธิปไตย ประกาศไม่เป็นมิตรกับจีน

เมื่อวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ไต้หวันมีเลือกตั้งประธานาธิบดี ประชาชนออกมาเข้าคิวยาวเพื่อรอลงคะแนนเลือกตั้ง ผลออกมาเมื่อช่วงหัวค่ำว่า ไช่ อิง-เหวิน วัย 63 ปี จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ได้คะแนนทิ้งห่างจากคู่แข่งแบบไล่ตามไม่ทัน เธอได้รับคะแนนเสียงไป 7.23 ล้านเสียง ขณะที่ ฮั่น เกา หยู วัย 62 ปี จากพรรคชาตินิยม หรือ ก๊กมินตัน ได้คะแนนเพียง 4.83 ล้านเสียง (ข้อมูลจากคณะกรรมการการเลือกตั้งไต้หวันที่เปิดเผยเมื่อเวลาราว 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น) 

พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หรือ ดีพีพี ของไช่ อิง-เหวิน เป็นพรรคที่ประกาศนโยบายที่จะให้ไต้หวันเป็น ‘ประเทศไต้หวัน’ คือเป็นเอกราชจากจีน ไม่ยอมรับนโยบายหนึ่งประเทศสองระบบของจีน และประกาศยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย

แต่ก่อนหน้านี้ไม่นาน เมื่อปี 2018 พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้ากลับแพ้การเลือกตั้งท้องถิ่น คะแนนนิยมของเธอลดลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว ที่ดูเหมือนว่าเกิดเหตุการณ์โลกสองประเด็นใหญ่ นั่นคือ เหตุการณ์การประท้วงต่อเนื่องในฮ่องกง และ สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ กลับช่วยกระตุ้นความรู้สึกโกรธและต่อต้านจีนในหมู่ชาวไต้หวัน และเกิดแรงเหวี่ยงกลับ จนทำให้พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าได้คะแนนนิยมกลับมาในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด

ในแคมเปญหาเสียง ไช่ อิง-เหวิน ประกาศย้ำว่านโยบายหนึ่งประเทศสองระบบมันไม่เข้าท่า เธอเน้นสื่อสารไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ว่า “คุณค่าของประชาธิปไตยและเสรีภาพจะเอาชนะอุปสรรคทั้งหลายได้” เธอยังย้ำว่า จะไม่เปิดประตูโอกาสใดๆ ให้กับจีนแน่นอน

รัฐบาลจีนกล่าวอ้างเสมอมา ว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่ภายใต้นโยบายของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ที่เน้นเรื่องความเป็นอธิปไตยและประชาธิปไตยในไต้หวัน ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ของสองดินแดนแย่ลงเรื่อยๆ ภายใต้การนำของไช่ จีนตัดสัมพันธ์กับไต้หวัน และหาวิธีที่จะโดดเดี่ยวทางการทูตโดยกดดันประเทศต่างๆ ทั่วโลกให้มองข้ามไต้หวันในฐานะประเทศ จีนยังแสดงท่าทีคุกคาม ผ่านการซ้อมรบทางทะเลบริเวณชายฝั่งที่ใกล้ไต้หวันด้วย

แต่ความนิยมจีนในหมู่คนรุ่นใหม่ไต้หวันลดลงอย่างต่อเนื่อง และยิ่งกลายเป็นความโกรธ เมื่อเกิดกระแสข่าวล่าสุด (ที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน) กรณีที่ ‘หวัง หลี่ เฉียง’ ออกมาเปิดเผยว่า เขาทำงานให้หน่วยข่าวกรองจีน ถูกรัฐบาลจีนสั่งการมาให้เป็นสายลับในไต้หวัน ฮ่องกง และออสเตรเลีย และมีหน้าที่ปั่นข่าวในเชิงสนับสนุน ฮั่น เกา หยู จากพรรคคู่แข่ง อย่างไรก็ดี ฮั่นไม่ได้ยืนยันในเรื่องนี้ ด้านหน่วยข่าวกรองของออสเตรเลียก็เปิดเผยว่า หวังเคยเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งท้องถิ่นของไต้หวัน ผ่านการใช้อิทธิพลของสื่อท้องถิ่น สร้างหน่วยรบไซเบอร์ ทำข้อมูลโจมตีนักการเมือง โดยล่าสุดเขาขอลี้ภัยที่ออสเตรเลีย

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ชัยชนะของไช่ อิง-เหวิน อาจยิ่งทำให้จีนเพิ่มมาตรการการโจมตีทางไซเบอร์ การทุ่มเงินลงในสื่อไต้หวัน รวมถึงสร้างกำแพงวีซ่ากับไต้หวัน

 

ที่มา: 

 

ภาพ: SAM YEH / AFP

Tags: , , , ,