คืนวันที่ 23 สิงหาคม ประธานาธิบดีโบลโซนาโรของบราซิลยอมส่งกองทัพเข้าไปดับไฟป่าแอมะซอนแล้ว เพียงวันเดียวก่อนการประชุม G7 ในยุโรปที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 24-25 สิงหาคม และหลังจากที่ผู้นำชาติต่างๆ ในยุโรปขู่ว่าจะยกเลิกข้อตกลงทางการค้า

ในการประชุม G7 ช่วงสุดสัปดาห์นี้ ไฟป่าเป็นหนึ่งในประเด็นที่มีการหารือด้วย เนื่องด้วยกรณีไฟไหม้ป่าแอมะซอน ซึ่งมีพื้นที่ป่าฝนเกินครึ่งหนึ่งของป่าฝนทั้งโลกได้เสียหายไปแล้วกว่า 83% ในปีนี้ แม้ทุกปีจะมีไฟป่าเกิดขึ้น แต่ขนาดของไฟป่าและความเสียหายในปีนี้ทำให้โลกช็อก เพราะปอดของโลกกำลังลุกไหม้

ตั้งแต่ประธานาธิบดีโบลโซนาโรเข้ารับตำแหน่ง แอมะซอนสูญเสียพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลก่อนสามารถลดการตัดไม้ทำลายป่าด้วยการเปลี่ยนแปลงระบบทำงานของรัฐ ระยะแรก เสียงวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของประธานาธิบดีโบลโซนาโรยังจำกัดอยู่เฉพาะในประเทศ แต่ก็ลุกลามเป็นระดับนานาชาติว่า นโยบายหลายด้านของเขาทำให้ป่าแอมะซอนเผชิญไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติการณ์ ทั้งในและนอกประเทศจึงเรียกร้องให้โบลโซนาโรต้องออกมาทำอะไรสักอย่าง

ในตอนแรกโบลโซนาโรกล่าวหาอย่างไร้หลักฐานว่า กลุ่มเอ็นจีโอเป็นผู้ทำให้เกิดไฟป่าครั้งนี้  แม้นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเตือนว่า นโยบายและแผนการดำเนินงานของเขาในด้านเกษตรกรรมและเหมืองในภูมิภาคจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการทำลายป่า แต่โบลโซนาโรโต้แย้งว่า ต้องให้ประชากรมีโอกาสในการพัฒนา และไม่มีความแตกต่างทางสิ่งแวดล้อม นักรณรงค์ของกรีนพีซ บราซิลให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัลจาซีราว่า ตอนนี้ใครที่เผาป่าจะได้การสนับสนุนจากประธานาธิบดี และไม่มีวันมีความผิดเลย

โบลโซนาโรกล่าวทางโทรทัศน์ว่า “ไฟป่าเกิดขึ้นทั่วโลก ไม่มีเหตุผลที่นานาชาติจะคว่ำบาตร บราซิลจะยังคงเป็นมิตรกับทุกคน และรับผิดชอบต่อป่าของเราเอง” ขณะที่ในเวลาเดียวกันประชาชนในเมืองใหญ่ๆ ของบราซิลออกมาตีหม้อและกระทะเพื่อแสดงการประท้วง ตามประเพณีของชาวละตินอเมริกา

ผู้นำประเทศต่างๆ ของยุโรปแสดงท่าทีไม่พอใจรัฐบาลบราซิล และขู่ว่าจะยกเลิกข้อตกลงทางการค้ากับอเมริกาใต้ ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสเรียกร้องให้กลุ่ม G7 หารือเรื่องวิกฤตสิ่งแวดล้อมในบราซิล โดยฝรั่งเศสและไอร์แลนด์ขู่ว่าจะคัดค้านข้อตกลงทางการค้าของอียูกับประเทศในภูมิภาคนี้ เขาทวีตข้อความก่อนประชุมเริ่มว่า ไฟไหม้บ้านของเรา และเรียกร้องให้สมาชิกของ G7 ลงมือทำอะไรสักอย่างต่อปัญหาที่เกิดขึ้น

ส่วนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาก็ทวีตว่า ได้พูดคุยกับโบลโซนาโรแล้ว และสหรัฐอเมริกายินดีที่จะช่วยเหลือ

ในการประชุม G7 ช่วงสุดสัปดาห์นี้ มาครงประกาศจะเรียกร้องให้ผู้นำชาติต่างๆ ลงนามกฎบัตรปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ เขายังบอกว่า ‘การฆ่าระบบนิเวศ’ (ecocide) ที่เกิดขึ้นในป่าแอมะซอนต้องการการตอบสนองจากนานาชาติ

ขณะที่ ลีโอ วาราดการ์ นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์เป็นบุคคลแรกที่กล่าวว่าควรยกเลิกข้อตกลงทางการค้าของอียูกับบราซิล และกล่าวว่า ไม่มีทางที่ไอร์แลนด์จะโหวตให้กับข้อตกลงทางค้าเสรีอียู-เมอร์โคเซอร์ ถ้าบราซิลไม่ให้เกียรติกับพันธะสัญญาด้านสิ่งแวดล้อม

ก่อนหน้านี้ บราซิลตอบโต้คำวิจารณ์จากนอกประเทศด้วยการส่งเอกสารความยาว 12 หน้าไปยังสถานทูตประเทศต่างๆ โดยมีเนื้อหาเพื่อปกป้องชื่อเสียงของรัฐบาล ส่วนล่าสุดในวันที่ 23 สิงหาคม โบลโซนาโรเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล รัฐมนตรีเกษตรยืนกรานว่า บราซิลดูแลแอมะซอนแล้ว และนานาชาติควรจะใจเย็นๆ ชาวบราซิลรู้ดีว่าป่าแอมะซอนสำคัญและบราซิลกำลังดูแลแอมะซอนอยู่

ที่มา:

https://www.aljazeera.com/news/2019/08/brazil-bolsonaro-sends-army-fight-amazon-fires-190823215538767.html

https://thehill.com/policy/energy-environment/458666-brazils-bolsonaro-reverses-on-amazon-announces-plans-to-send-armed

https://edition.cnn.com/2019/08/24/americas/amazon-fires-sanctions-g7-intl/index.html

Tags: , , , ,