ไม่ว่าคุณจะมีผมธรรมชาติเป็นแบบไหน ทรงอะไร หรือในวัฒนธรรมของคุณเขาทำผมกันอย่างไร ถักเปีย แอโฟร เดรดล็อก ฯลฯ ทรงผมเหล่านี้จะไม่ถูกห้าม หรือใช้เป็นตัวแบ่งแยกกีดกันผู้คนทั้งในโรงเรียน หน่วยงานราชการ องค์กรสื่อมวลชน หน่วยงานทหาร และที่ทำงานอื่นๆ อีกต่อไปแล้ว ใครก็ไม่สามารถมาบอกให้คุณไปตัดหรือไปทำทรงอื่นที่ดู ‘เรียบร้อย’ ได้ เพราะนั่นจะถือเป็นการผิดกฎหมาย แต่แค่ในแคลิฟอร์เนียเท่านั้น 

เพราะล่าสุดผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เกวิน นิวซัม ได้เซ็นรับรองร่างกฎหมายเพื่อเตรียมออกเป็นกฎหมายบังคับใช้ในแคลิฟอร์เนียห้ามไม่ให้มีการกีดกันแบ่งแยกผู้คนจาก ‘ทรงผม’ ของพวกเขา ซึ่งกฎหมายนี้ได้รับการผลักดันเข้าสู่สภาฯ โดยฮอลลี มิตเชล สมาชิกสภาลอสแอนเจลิสจากพรรคเดโมแครต เมื่อต้นปีที่ผ่านมา 

ฮอลลี มิตเชล บอกว่า กฎหมายฉบับนี้เป็นการปกป้องสิทธิของคนดำในแคลิฟอร์เนียที่จะเลือกไว้ทรงผมตามธรรมชาติที่มีมาแต่กำเนิดได้ โดยไม่มีแรงกดดันให้สอดคล้องกับบรรทัดฐานแบบลัทธิยุโรปเป็นศูนย์กลาง (Eurocentric) และเธอตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่จะตามมาจากกฎหมายฉบับนี้ 

ในกฎหมายฉบับนี้ระบุถึงจุดประสงค์ของการออกกฎหมายไว้ว่า นโยบายการแต่งกายทั้งรูปแบบเสื้อผ้าและทรงผมในที่ทำงานที่ห้ามการทำทรงผมตามธรรมชาติ หรือรวมถึงทรงแอโฟร ถักเปีย ร้อยลูกปัด หรือเดรดล็อก มีผลกระทบต่อคนผิวดำแทบทั้งสิ้น เนื่องจากนโยบายเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะยับยั้งไม่ให้คนผิวดำเข้าทำงาน และสร้างภาระหรือบทลงโทษแก่พนักงานผิวดำมากกว่ากลุ่มอื่นๆ 

“กฎหมายนี้จะส่งเสริมโรงเรียนและภาคธุรกิจในการสร้างนโยบายในการแต่งกายที่ส่งเสริมความหลากหลาย ชายและหญิงชาวแอฟริกัน–อเมริกันมักต้องทนกับความเจ็บปวด ค่าใช้จ่ายที่แพงแสนแพง ในการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายเพื่อเปลี่ยนทรงผมของตัวเองเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานความงาม” ฮอลลี มิตเชล กล่าว

การแบ่งแยกกีดกันและเลือกปฏิบัติต่อผู้คนจาก ‘ทรงผม’ เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในสังคมอเมริกันโดยเฉพาะกับเชื้อชาติแอฟริกัน–อเมริกัน โดยเฉพาะในโรงเรียนและสถานที่ทำงาน หนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหานี้ก็คือเหตุการณ์เมื่อปลายปี 2018 ที่ แอนดรูว์ จอห์นสัน นักมวยปล้ำผิวดำอายุ 16 ปีจากโรงเรียน Buena Regional High School ในนิวเจอร์ซี ซึ่งไว้ผมทรงเดรดล็อกถูกตัดผมในช่วงก่อนการแข่งขัน โดยคลิปวิดีโอนั้นกลายเป็นไวรัลไปทั่วโซเชียลมีเดียและได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก

ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นิวยอร์กได้ผ่านกฎหมายที่มีความคล้ายคลึงกันออกมา เพื่อปกป้องสิทธิทรงผมที่มีความเกี่ยวเนื่องกับชาติพันธุ์ ศาสนา และวัฒนธรรม ซึ่งในปัจุบันก็มีความพยายามที่จะผลักดันกฎหมายนี้ในรัฐนิวเจอร์ซีให้ได้อีกด้วย

อ้างอิง

https://edition.cnn.com/2018/12/25/us/wrestler-dreadlocks-new-jersey-comments/index.html 

http://www.fox5ny.com/news/california-bans-hairstyle-discrimination 

https://www.theguardian.com/commentisfree/2019/jul/08/hair-discrimination-racism-california-ban 

ภาพ : Amanda Perobelli/REUTERS