คุณเห็นภาพอะไรถ้าให้นึกถึงโฆษณาบ้านหรูราคาหลายล้าน?
บ้างเห็นภาพรถสปอร์ตเปิดประทุนกำลังเลี้ยวเข้ามาจอด บ้างนึกถึงแชนเดอเลียร์ระยิบระยับกับบันไดที่เลี้ยวเป็นเกลียววน ในขณะที่บางคนอาจนึกไปถึงของประกอบฉากที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ราคาแพงของผู้อยู่อาศัย อย่างเช่นนาฬิกาหรูบนข้อมือ หรือไข่ปลาคาเวียร์ที่เจ้าของบ้านบรรจงประคองเข้าปาก ก่อนตัดจบด้วยซีนพ่อแม่ลูกโอบกอดกันอย่างสุขสันต์
เหล่านี้เหมือนเป็นสูตรหนังโฆษณาบ้านหรูที่เราอาจจะเคยเห็นผ่านตามาบ้างไม่มากก็น้อย
แต่กับหนังโฆษณาบ้านชิ้นล่าสุดของ SC Asset ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์แนว Luxury กลับไม่มีภาพความหรูหราแบบที่ว่ามาเลยสักนิด กลับกัน SC Asset ทำโฆษณาบ้านหรูผ่านเรื่องราวสุดคอนทราสต์ของมนุษย์ถ้ำ ก่อนตัดจบด้วยภาพประตูที่กำลังปิดลง และไม่มีการฉายให้เห็นภาพความหรูหราภายในตัวบ้านแบบที่หลายคนคาดหวัง
โฆษณาขายบ้านหรูของ SC Asset ที่แสนจะแปลกแหวกแนวนี้ ต้องยกเครดิตให้เอเจนซี่โฆษณาอย่าง WOLF พร้อมกับการทำงานร่วมกับคุณอั๋น วุฒิศักดิ์ อนรรฆพร ผู้กำกับและทีมจาก The Factory01 ที่กล้าฉีกกรอบจากสูตรเดิมๆ และค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการทำโฆษณาบ้านแบบไม่ต้องอวดร่ำอวดรวยให้คนดูหมั่นไส้ และคนดูก็เต็มใจอยากดูต่อแบบไม่ต้องกด skip
WOLF ใช้สโลแกน ‘Luxury from the Inside’ มาเป็นคีย์เวิร์ดของแคมเปญโฆษณาขายบ้านของ SC Asset และใช้ประโยคนี้เป็นใจความหลักของหนังโฆษณาชิ้นล่าสุดรวมถึงวิดีโอโปรโมทอื่นๆ ในรูปแบบของ ‘Hub of Content Video’ ที่กำลังจะปล่อยตามมาอีกระลอกใหญ่
สิทธิ์ของผู้ครอบครองสิ่งที่ดีที่สุด คือการไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร
คือคีย์แมสเสจที่สองหมาป่าอย่าง เต้ย-ต่อศักดิ์ ชื่นประภา Co-Founder and Chief Creative Officer และ แพร-พรรณิกา วงศ์สายัณห์ Co-Founder and Managing Director จ่าฝูงแห่งเอเจนซี่ WOLF ใช้โปรยปิดอย่างสวยงามในตอนจบของโฆษณาเปิดตัว
เต้ยและแพรเลือกหยิบประเด็น ‘ความหรูหราจากภายใน’ ที่ไม่ต้องไปเทียบกับใคร มาเล่าผ่านโฆษณาที่ย้อนกลับไปยุคก่อนประวัติศาสตร์ เปิดฉากโฆษณาด้วยหอกแหลมที่พุ่งตรงไปยังเสาเพื่อกระตุ้นความสงสัย ต่อด้วยฉากที่มนุษย์ถ้ำแต่ละคนโอ้อวดกันเรื่องอาวุธสำหรับล่าสัตว์ของตน ในขณะที่คนที่ครอบครองอาวุธที่มีศักยภาพสูงสุดกลับไม่คุยโวและโต้ตอบใดๆ
ครั้งแรกที่เราเห็นโฆษณานี้ ยอมรับว่าตีความไปหลายตลบ เพราะฉากคุยข่มกันเรื่องอุปกรณ์ล่าสัตว์นั้นดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับโฆษณาขายบ้าน แต่สุดท้ายก็เฉลยว่าเมสเสจคือความร่ำรวยจากภายในนั้นไม่ต้องโอ้อวด เปรียบได้กับคนที่มีอาวุธที่ดีที่สุด คือคนที่จะล่าสัตว์และหาอาหารได้มากที่สุด นั่นคือความหมายของความร่ำรวยและหรูหราในแบบของมนุษย์ยุคถ้ำ เช่นเดียวกับคนที่ครอบครองบ้านของ SC Asset คือคนที่ครอบครองสิ่งที่ดีที่สุด และคุณไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับใคร
ความกล้าหาญในการทำโฆษณาขายบ้านหรูแบบไม่มีของหรูให้เห็นแม้แต่ชิ้นเดียว แถมยังย้อนยุคไปพูดถึงมนุษย์ยุคถ้ำ ทำให้เราอยากรู้จักวิธีคิดโฆษณาของสองหมาป่าอย่างเต้ยและแพรแห่ง WOLF กว่าจะกะเทาะออกมาเป็นไอเดีย ‘Luxury from the Inside’ พวกเขามีวิธีตีโจทย์ที่ได้รับมายังไง คิดงานต่อไปจบครบลูปของงาน Communication ในแง่มุมไหน และจับเทรนด์ตลาดสำหรับการทำโฆษณาขายบ้านในยุคดิจิทัลให้โดนใจคนรุ่นใหม่ยังไง
ตีโจทย์บ้านหรูที่ตระเตรียม ‘เช้าที่ดีที่สุด’ ให้คุณ
ในฐานะที่เต้ยเคยร่วมงานกับ SC Asset มาอย่างยาวนาน เต้ยย้อนกลับไปเล่าแนวคิดตั้งต้นของ SC Asset ให้เราฟังคร่าวๆ ว่า “SC Asset คือแบรนด์ตั้งใจทำที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ความ Luxury ในทุกเซกเมนต์ ความยากคือความหรูหราของแต่ละเซกเมนต์ไม่เท่ากัน ความท้าทายของเราในฐานะเอเจนซี่โฆษณาคือจะเล่าความหรูหราในภาพรวมทุกโครงการออกมาให้คนเข้าถึงได้ยังไง”
ไม่ใช่แค่ความยากของการตีความคำว่า ‘หรูหรา’ ออกมาให้เห็นเท่านั้น แต่การทำโฆษณายังต้องตอบโจทย์ปรัชญา ‘For Good Morning’ ของแบรนด์ SC Asset ที่เชื่อว่าบ้านที่ดีนั้นจะทำให้เราตื่นขึ้นมามีวันรุ่งขึ้นที่ดีที่สุด
บ้านเปรียบเหมือนสถานที่ที่อนุญาตให้เจ้าของบ้านกลับมาเติมพลัง เพื่อมีแรงทำวันต่อๆ ไปให้ดีขึ้น ซึ่งปรัชญานี้สะท้อนกลับมาที่ทุกโครงการของ SC Asset ที่พยายามจะทำบ้านให้ดีที่สุดสำหรับผู้อยู่อาศัยและมีความหรูหราในทุกเซกเมนต์
แก่นของการทำแคมเปญ ‘Luxury from the Inside’ ที่เต้ยและแพรต้องกะเทาะออกมาให้ได้ คือการทำโฆษณาที่มากไปกว่าการวัดผลให้เห็นยอดขาย หรือการใช้กลยุทธ์ซ้ำๆ โดยการบอกข้อมูลทื่อๆ ว่าโครงการเรามีทำเลติดรถไฟฟ้า มีพื้นที่กี่ตารางเมตร มีกี่ชั้น บันไดกว้างเท่าไหร่ หรือบอกแค่ว่าเพื่อนบ้านรอบข้างจะเป็นใคร
แพรขยายให้เห็นความเชื่อมโยงของปรัชญาที่ SC Asset เชื่อ กับโจทย์การเล่าเรื่องความหรูหราจากภายในที่แบรนด์อยากจะสื่อสารออกไปว่า “หากลองจินตนาการว่าคนคนหนึ่งจะตัดสินใจซื้อบ้านสักหลัง มันคงจะมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่ทำงานกับหัวใจของเขามากกว่าแค่รู้ข้อมูลความกว้าง-ยาว-สูงของตัวบ้าน หรือทำเลที่ตั้งแน่ๆ SC Asset เชื่อว่าทุกเซกเมนต์เกิดขึ้นมาด้วยปรัชญาที่อยากทำบ้านให้ดีที่สุด เพื่อให้ทุกคนมีเช้าวันใหม่ที่ดี ความคิดนี้มีเซนส์ของการเป็น luxury living อยู่ คนที่ตัดสินใจเลือกซื้อบ้าน SC Asset คือคนที่มองเห็นคุณค่าบางอย่างที่ผู้อยู่อาศัยเท่านั้นที่จะเข้าใจ เพราะเชื่อในคุณภาพของแบรนด์ ไม่ได้เพียงแค่มองเห็นแค่ความหรูหราภายนอกแล้วตัดสินใจซื้อเท่านั้น”
โจทย์ท้าทายสำหรับ WOLF คือจะทำอย่างไรให้คุณค่านั้นถูกป่าวประกาศออกไปให้คนวงกว้างได้รับรู้ แพรและเต้ยจึงไม่ได้ชูเรื่องความหรูหราโดยพูดถึงแค่เรื่องภายนอก แต่พวกเขาตั้งใจจะพูดถึงความหรูหราที่มากกว่าตามองเห็น และนี่คือชุดความคิดเบื้องหลังโฆษณาที่เราได้ชมกัน
ทำโฆษณาชวนคิด ไม่ใช่แค่ชวนเชื่อ
เมื่อตีโจทย์ออกมาชัดเจนแล้วว่าจะเล่าเรื่องบ้านผ่านคอนเซ็ปต์ ‘Luxury from the Inside’ แพรและเต้ยตั้งต้นจากการคิดโฆษณาที่อยากให้ทำงานกับจิตใจของคนดู สะกิดให้คนคิด ทำให้คนดูรู้สึกเป็นพวกเป็นเผ่าเดียวกัน และระดมคนเข้าเผ่าให้มากที่สุด
โฆษณาบ้านหรูในแบบของ WOLF จึงไม่ใช่แค่โฆษณาชวนเชื่อที่สักแต่บอกสรรพคุณของบ้าน พูดถึงแต่ประโยชน์ใช้สอยเพียงภายใน หรือพูดแต่เรื่องความอบอุ่นเพียงอย่างเดียว
เต้ยอธิบายความหมายแฝงให้ตั้งใจหยอดไว้ให้คนดูได้คิดตามไปกับโฆษณาว่า “ในฐานะที่ SC Asset ขายบ้านในหมวด Luxury ได้มากที่สุดในตลาด เราไม่ควรโฆษณาซ้ำๆ ว่าบ้านหรูจะต้องดูรวยยังไง เรากลับมามองว่าความหรูหรานั้นมาจากข้างใน คนรวยคือร่ำรวยด้วยวิธีคิด รวยด้วยความเชื่อและคุณค่าที่ยึดถือ ไม่ใช่แค่รวยสตางค์หรือมาจากสิ่งที่โอ้อวด หนังโฆษณานี้เลยอยากพูดเรื่องความหรูหราจากภายในว่า ความร่ำรวยหรือหรูหรา แก่นแท้ของมันคือความถ่อมตนและไม่ขี้อวด คนรวยคือพอในสิ่งที่ตัวเองมี ไม่จำเป็นต้องไปอวดหรือเทียบกับใครเพื่อให้คนอื่นดูด้อยกว่า เพราะถ้ารู้ว่าตัวเองมีของดีที่สุดอยู่กับตัวแล้ว เราแค่ฟังคนอื่นพูด แต่ไม่ต้องเกทับเหมือนที่อยากสื่อในโฆษณา”
พอต้องเล่าออกมาในรูปแบบของหนังโฆษณาความยาวแค่หนึ่งนาทีกว่าๆ แน่นนอนว่าการจะฉายความร่ำรวยหรูหราให้คนเข้าใจ จะทำให้แปลกใหม่และน่าติดตามได้อย่างไร เต้ยจึงขยายต่อให้เห็นมุมมองในแง่วิชวลที่ตีความออกมาเป็นหนังโฆษณาที่ย้อนยุคไปไกลถึง 5000 ปีก่อนประวัติศาสตร์
“ถ้าเราย้อนกลับไปในยุคก่อนๆ คนที่รวยคือคนที่แข็งแรงที่สุด หาอาหารได้มากที่สุด เราเลยกลับไปเล่าในยุคโบราณดีกว่า เปรียบเทียบการออกไปหาอาหารของคนที่มีหอก ธนู และอาวุธอื่นๆ ส่วนคนที่มีอาวุธที่ดีที่สุดอยู่ในมือ เขาจะไม่ข่มใครทั้งนั้น และนี่แหละคือ ‘Luxury from the Inside’ ที่ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร”
และนี่คือลักษณะของงานโฆษณาที่ตั้งใจจะชวนคนให้คิด เปิดใจคนดูให้ได้ก่อน แล้วถ้าคนดูกับแบรนด์มีความคิดตรงกันว่า ความหรูหราคือสิ่งสะท้อนออกมาจากสิ่งที่มีคุณค่าภายใน ก็เชิญมาเข้าเผ่าเดียวกันและรับชมคอนเทนต์อื่นๆ ในแคมเปญ
ตรรกะสามชั้นของคนทำโฆษณา
ในตอบจบของหนังโฆษณาที่ใช้เปิดตัวแคมเปญนี้ จบด้วยฉากประตูปิดเพื่อจะบอกว่าเวลาเราอยู่บ้าน เรามองเห็นบ้านจากมุมข้างใน ไม่ใช่ข้างนอก และฉากประตูปิดเป็นฉากเชิงสัญลักษณ์เพื่อจะสื่อว่าการได้อยู่ในบ้านที่หรูหรา เป็นเรื่องที่คนอยู่อาศัยในบ้านเท่านั้นที่จะได้สัมผัส
ฉากประตูปิดในตอนท้ายยังเป็นการเชื่อมไปยัง Hub of Content Video อื่นๆ ในแคมเปญอีกด้วย โดยโฆษณาต่อๆ มาจะเริ่มด้วยฉากประตูเปิดเข้าไปข้างในบ้านเพื่อฉายให้เห็นว่า ‘Luxury from the Inside’ ของแต่ละโครงการมีหน้าตาเป็นแบบไหน มีวิธีคิด และมีฟังก์ชั่นการใช้งานอะไรบ้าง เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้สมองและหัวใจในการคร่ำครวญก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านหลังหนึ่งที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์กับลูกค้า
นอกจากการเล่าเรื่องเรื่องความหรูหราจากภายในที่แคมเปญพยายามจะสื่อ ในมุมของคนทำโฆษณาที่ต้องส่งสารออกไปให้ถึงคนวงกว้าง แพรเล่าให้ฟังว่าเธอต้องเล่าเรื่องฟังก์ชั่นต่างๆ ในตัวบ้านควบคู่ไปกับคอนเซ็ปต์ที่เป็นนามธรรมด้วย
“เวลาเราซื้อบ้าน โครงสร้างข้างในเรามองไม่เห็น แต่จะเห็นเมื่อมีปัญหา เช่น ฝ้ามีปัญหา ท่อน้ำรั่วซึม ชุดความคิดที่ว่า ‘Luxury from the Inside’ จึงเริ่มตั้งแต่เราสร้างบ้านเลย สิ่งที่คุณมองไม่เห็นด้วยสายตา จะถูกสร้างอย่างดีที่สุด เรียบร้อยที่สุด เราเลยต้องทำโฆษณาต่อยอดขึ้นไปจากหนังโฆษณาเปิดแคมเปญอันแรก”
ว่ากันอย่างเข้าใจง่ายๆ คือ WOLF ทำ Hub of Content Video ขึ้นมาเพื่ออธิบายฟังก์ชั่นการอยู่อาศัยของบ้านโครงการนั้นๆ ให้ลูกค้าเข้าใจและเห็นภาพมากขึ้น เหมือนเป็นการเอาโบรชัวร์ขายบ้านมาเล่าให้น่าสนใจมากขึ้นผ่านวิดีโอ
ตรรกะของการทำ Hub of Content Video จึงแยกออกเป็นสามเลเยอร์ด้วยกัน
เลเยอร์แรก คือวิดีโอที่ลิงก์จากโฆษณาตัวเปิดที่ทำหน้าที่บอกฟังก์ชั่นของแต่ละโครงการ แต่ละคนที่อาศัยอยู่คนละย่าน ก็จะได้เห็นบ้านต่างโครงการกัน โฆษณาในส่วนนี้จะลิ้งก์กับลูกค้าที่เป็นทาร์เก็ตตั้งแต่ต้นผ่านการทำแบบสอบถามออนไลน์หลังจบหนังโฆษณาเปิดแคมเปญตัวแรก เพื่อที่จะยิงโฆษณาตัวต่อๆ ไป พอคนทำแบบสอบถามออนไลน์เสร็จ ระบบจะส่งโฆษณาคอนเทนต์ที่ลูกค้าน่าจะสนใจไปให้ชม งานท้าทายหนึ่งของคนทำโฆษณาคือต้องพยายามทำให้ลูกค้าอยู่ในเส้นทางในการเห็นโฆษณาตัวต่อๆ มา และไม่หลุดออกจากลูปของการตัดสินใจ
เลเยอร์ที่สอง เมื่อเราเจอกลุ่มเป้าหมายแล้วว่า segment ไหนกำลังดู VDO อยู่ จะอธิบายฟังก์ชั่นการอยู่อาศัยของบ้านโครงการนั้นๆ ที่ตรงตามความต้องการของ target consumer โดยมีภาพจำลองทั้งภายนอกและภายในบ้าน เหมือนได้เห็นภาพรวมของบ้านทั้งหลังในรูปแบบวิดีโอ
เลเยอร์ที่สามคือ ‘Unseen Function’ คือส่วนที่เราจากภายนอกไม่เห็น หรือส่วนที่เป็นโครงสร้างหรือฐานรากของบ้าน คือเป็นฟังก์ชั่นที่สร้างมาเพื่อผู้อยู่อาศัยแต่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และตรงนี้คือ Proof Point ของความ “Luxury from the Inside” อย่างแท้จริง
แพรเปิดใจกับเราว่าความยากในแง่ของการทำงานโฆษณาคือการจัดสรรและคัดเลือกคอนเทนต์มานำเสนอ “จะเห็นว่าฟังก์ชั่นทุกอย่างดีไปหมด ทางลาดก็ดี ช่องลมก็จำเป็น เพดานสูงก็ต้องมี และต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย สิ่งที่เราต้องทำคือจะจัดสรรคอนเทนต์อย่างไรให้คนดูไม่รู้สึกว่าข้อมูลล้นทะลักหรือถูกยัดเยียด เราจึงจำเป็นต้องมีโฆษณาเปิดตัวด้วย Hero VDO เพื่อสลายกำแพงในใจก่อน แล้วค่อยสื่อสารเรื่องอื่นๆ ตามแผนที่วางไว้ใน Hub of Content Video เราลองเอาหัวใจไปแทนคนดู ว่าจะเล่ายังไงให้คนยังสนใจอยู่ คำตอบก็คือเราต้องเล่าสิ่งที่เขาอยากจะฟัง นี่คือความท้าทายของเรา”
มากกว่าโฆษณาขายบ้าน คือโอกาสต่อยอดธุรกิจด้วย Data
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ ไม่ว่าองค์กรธุรกิจไหนๆ ก็พูดถึงเรื่อง Data แต่จะทำอย่างไรให้ข้อมูลเหล่านั้นใช้งานได้จริงและตอบโจทย์ภาคธุรกิจ การทำโฆษณาในวันนี้จึงไม่ได้มีผลแค่เป้าหมายการขายในวันนี้ แต่เมื่อไหร่ที่ภาคธุรกิจได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ ก็จะต่อยอดธุรกิจให้มั่นคงยิ่งขึ้น
“เราจะทำยังไงให้ลูกค้าเป็นส่วนหนึ่งของเราตั้งแต่วันนี้แม้เขายังไม่พร้อมจะซื้อบ้าน ถ้าถึงวันที่เขาพร้อม แบรนด์ของเราจะเป็นตัวเลือกของลูกค้าในอนาคตทันที เราเลยตั้งใจจะคุยกับลูกค้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ คือทำให้คนรัก สนใจ และเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์ เพราะสักวันหนึ่งแบรนด์ของเราจะมีบทบาทในชีวิตของลูกค้า เราเลยไม่เลือกที่จะเล่าเรื่องฟังก์ชั่นของบ้านเพียงอย่างเดียว แต่เราเชื่อในการดึงคนที่คิดเหมือนๆ กัน ให้เข้ามาอยู่ในที่เดียวกัน เมื่อผู้บริโภคได้เข้ามามีประสบการณ์กับแบรนด์ ถ้าของมีคุณภาพ เขาจะรู้สึกว่าเขาเลือกถูก แล้วลูกค้าจะอยากบอกต่อ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เงินไม่สามารถซื้อได้” แพรขยายให้เราเห็นภาพมากขึ้น
ตอกย้ำด้วยคุณภาพ เพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน
หากยังจำกันได้ หลายปีก่อน SC Asset เคยทำแคมเปญ ‘ฟาร์มรัก’ ที่แจกเมล็ดพันธุ์พืชผักหลากหลายชนิดให้ลูกบ้านไปปลูก เมื่อพืชผักโตขึ้น ใครอยากได้ผักอะไรให้เดินไปขอแลกกัน ซึ่งเป็นแคมเปญอันโด่งดังที่คนวงการโฆษณาต่างพูดถึงและคนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์จับตามอง แคมเปญ ‘ฟาร์มรัก’ ในครั้งนั้นเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกบ้าน เพื่อที่จะสร้างสังคมคุณภาพและบรรยากาศที่อบอุ่น ในปีนี้ SC Asset ทำแคมเปญเขย่าวงการที่อยู่อาศัยอีกครั้งด้วยแคมเปญ ‘Luxury from the Inside’ ที่ทำให้เห็นความพิเศษที่ได้มอบให้ลูกบ้านทุกๆ หลัง และก้าวข้ามกรอบความหรูหราแบบเดิมๆ ที่จำกัดคำว่าหรูหราแค่ความสวยงามภายนอกเท่านั้น
นอกจากมุมมองของเต้ยและแพรในฐานะเอเจนซี่โฆษณาแล้ว ณัฏฐกิตติ์ ศิริรัตน์ Head of Marketing ของ SC Asset Corporation ยังเปิดใจกับเราในฐานะคนทำบ้านว่า สิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริงและไม่หยุดพัฒนาคุณภาพของตัวสินค้า จึงจะตอบโจทย์เรื่องความหรูหราจากภายในได้อย่างแท้จริง เหมือนกับหัวใจของแคมเปญ ‘Luxury from the Inside’ ที่ SC Asset ต้องการตีความความหมายของ ‘ความหรูหรา’ ว่าไม่ใช่ความสวยงามฉาบฉวยภายนอก แต่คือคุณภาพแบบเนื้อๆ เน้นๆ ที่ผู้อยู่อาศัยในบ้านของ SC Asset จะได้สัมผัส ทั้งในแง่โครงสร้าง การออกแบบ ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับให้ทุกคนมาใช้เวลาร่วมกัน เพราะมีการแบ่งสัดส่วนการใช้งานที่หลากหลาย รองรับการใช้งานกับทุกเจเนเรชั่นอย่างลงตัว รวมไปถึงการดูแลลูกบ้านผ่านแอปพลิดคชั่นที่ทันสมัย
ณัฏฐกิตติ์อธิบายให้เราฟังถึงสาเหตุที่ต้องใส่ใจให้บ้านของ SC Asset แต่ละโครงการให้มีความหรูหราในทุกระดับราคา เพราะการเลือกซื้อบ้านแต่ละคนมีความสำคัญต่อชีวิตมาก บางคนจะเลือกซื้อเพียงครั้งเดียวและอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต เพราะฉะนั้น การสร้างความเชื่อใจและความมั่นใจกับลูกค้า ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้
“นิยามของบ้านหรูของเรา คือบ้านที่ทำให้ผู้พักอาศัยทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจ และสบายใจที่สุดเมื่อได้อยู่ ไม่ต้องกังวลถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ต้องกังวลสังคมเพื่อนบ้านจะทำรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ เพราะเราได้คิดบ้านที่พิเศษที่สุดให้คุณแล้ว เราสร้างบ้านโดยยึดแนว ‘Human Centric’ คือยึดเอาผู้อยู่อาศัยเป็นศูนย์กลาง และเราพร้อมที่จะพัฒนานวัตกรรม คุณภาพในด้านสินค้าและบริการ เพื่อให้เป็นผู้พัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ที่รู้ใจผู้บริโภคในทุกระดับราคา เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และเพื่อตอกย้ำความ Luxury เราเชื่อว่าผู้ที่ตัดสินใจเป็นเจ้าของโครงการเรา คือผู้ที่มองเห็นคุณค่าและเข้าใจผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง
“อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญคือเราอยากให้การเลือกซื้อบ้านของคุณไม่ใช่เป็นภาระ เพราะ 32 โครงการบ้านหรูของเรา นอกเหนือจากความสวยงาม ความสะดวกสบายแล้ว ยังต้องได้รับความภาคภูมิใจที่ได้เลือกอาศัยในบ้านของ SC Asset ซึ่งเรายังได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น ‘รู้ใจ’ เพื่อให้ลูกบ้านได้ตรวจสอบค่าสถานะต่างๆ ภายในตัวบ้าน หรือชำระค่าบริการโครงการ ทั้งหมดนี้เราทำเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายอีกขั้นเมื่อได้อยู่อาศัยในโครงการของเรา”
ณัฏฐกิตติ์ขยายต่อว่า SC ASSET ได้มีการคิดฟังก์ชั่นพิเศษเพื่อรองรับการใช้งานของเจเนเรชั่นที่หลากหลายที่มีความต้องการต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น Multi-Purpose Room ฟังก์ชั่นที่ได้กระแสตอบรับที่ดีมาก
“ความพิเศษของห้อง Multi-Purpose Room คือสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างหลากหลาย ตามความต้องการ ในบางบ้านก็ได้ปรับเปลี่ยนเป็นห้องสอนการบ้านลูก บางบ้านเปลี่ยนเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ หรือไม่ก็เปลี่ยนเป็นห้องทำงานส่วนตัว หรือจะเป็นฟังก์ชั่นห้องนอนเพดานสูงโปร่งรูปทรงจั่ว ในโครงการบางกอกบูเลอวาร์ด ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกลุ่มประเทศ Nordic ความพิเศษของห้องนอนเพดานสูงนี้ นอกเหนือจากความรู้สึกโปร่งสบายไม่อึดอัด ยังสามารถเปิดรับวิวธรรมชาติได้อย่างเต็มอรรถรส ทั้งรับแสงธรรมชาติยามเช้า และนอนดูดวงดาวยามค่ำคืน ที่จะมอบอีกขั้นของประสบการณ์การพักผ่อนในทุกๆ วัน”
หลายคนอาจจะยังไม่เห็นภาพว่าความหรูหราจากภายในที่ว่ามา มีหน้าตาประมาณไหนและมีฟังก์ชั่นอะไรบ้าง ณัฏฐกิตติ์จึงยกตัวอย่างให้ฟังถึงโครงการ Grand Bangkok Boulevard คฤหาสน์หรูย่านรามอินทรา-เสรีไทย ซึ่งเป็นบ้านในระดับ Luxury ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดโครงการหนึ่งของ SC Asset
“โครงการนี้ได้รับแรงบันดาลใจการสรรค์สร้างสถาปัตยกรรมมาจากเวนิส นอกเหนือจากความสวยงาม เราคำนึงถึงพฤติกรรมการใช้งานของผู้พักอาศัยเป็นหลัก เช่น ห้องนอนชั้นล่างมีนวัตกรรมเพื่อผู้สูงอายุ Eldercare Solution by SC ASSET เช่น พื้นที่ช่วยลดแรงกระแทก และพื้นห้องน้ำที่เรียบเสมอกัน ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม รวมถึงบานประตูที่กว้างถึง 90 เซนติเมตร เพื่อรองรับการใช้งานสำหรับรถเข็นวีลแชร์ และยังสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานในหลากหลายไม่เพียงแต่เพื่อผู้สูงอายุเท่านั้น รวมถึงพื้นที่สวนกลางที่มีพื้นที่ให้ลูกบ้านได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์อันอบอุ่นในครอบครัว และสร้างสังคมเพื่อนบ้านที่สมบูรณ์แบบในระยะยาว”
Tags: โฆษณา, วงการโฆษณา, SC ASSET, Luxury from the Inside, WOLF Agency