ถ้าคุณสามารถฟังเพลงได้ทุกที่ ทุกเวลา แถมยังมีผู้ช่วยที่รู้ใจคอยแนะนำเพลงโดนๆ ให้คุณอีก
ทำไมนี่จะไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ ‘มิวสิค สตรีมมิ่ง (Music Streaming)’ หรือการฟังเพลงออนไลน์ กลายเป็นแพลตฟอร์มการฟังเพลงยอดนิยมในปัจจุบัน แถมยังถูกใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก แซงหน้าการฟังเพลงผ่านแผ่นซีดี ที่เคยได้รับความนิยมมาหลายทศวรรษ
ในปัจจุบัน ประเทศไทยก็มีผู้ให้บริการมิวสิค สตรีมมิ่งให้สามารถเลือกใช้เพิ่มมากขึ้น ทั้งผู้ให้บริการแบบ ‘โลคอล’ และแบบ ‘อินเตอร์เนชันแนล’ ซึ่งในแต่ละเจ้าก็มีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันไป แต่วันนี้ เราจะพาคุณไปชม 5 เหตุผลดีๆ ที่ทำไมถึงควรเลือกใช้มิวสิค สตรีมมิ่งยอดฮิตอย่าง Apple Music และทำอย่างไรถึงจะได้ใช้บริการฟรีถึง 6 เดือนจากทรูมูฟ เอช
มีคลังเพลงให้เลือกฟังกว่า 50 ล้านเพลง เก่า ใหม่ เฉพาะกลุ่ม อินดี้มีครบ
หลายๆ คนอาจเคยเจอปัญหาเสิร์ชเพลงโปรดไม่เจอในคลังเพลงของมิวสิค สตรีมมิ่งเจ้าอื่นๆ เนื่องจากอาจเป็นเพลงที่เก่า หรือเป็นเพลงของศิลปินนอกกระแส แต่สำหรับการใช้ Apple Music ที่มีเพลงให้เลือกฟังมากกว่า 50 ล้านเพลง ไม่ว่าจะเป็นแนวเพลงไหน ป็อป ร็อก อินดี้ ในกระแส นอกกระแส หรือจะเป็นเพลงภาษาท้องถิ่นของประเทศนั้นๆก็มีให้ฟังในที่เดียว
รับฟังเพลงได้ทุกที่ ทุกเวลา และสมูทไปกับทุกดีไวซ์
Apple Music ถูกพัฒนาให้สามารถใช้ได้ดี และสมูทไปกับแทบทุกสมาร์ทดีไวซ์ (Smart device) ไม่ใช่เพียงแค่กับผลิตภัณฑ์ของ Apple เท่านั้น และยังสามารถใช้ได้กับทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และ Android ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร Apple Music ก็สามารถมอบประสบการณ์การฟังเพลงที่ดีที่สุดให้คุณได้
มีเพลย์ลิตส์ที่คัดสรรมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ
หนึ่งในฟีเจอร์สุดคูลที่เหล่าสาวก Apple Music ต่างยกนิ้วให้คือฟีเจอร์ ‘For you’ ที่จะคัดสรรเพลงแนวที่คุณชื่นชอบ มาแนะนำเพื่อคุณโดยเฉพาะ และไม่แน่ว่าคุณอาจเจอเพลงใหม่ๆ ที่ทำให้คุณตกหลุมรักในฟีเจอร์นี้ก็ได้
หรือคุณสามารถหาเพลย์ลิตส์จากกิจกรรม หรือแนวเพลงที่ชอบจากคลังเพลย์ลิตส์ของ Apple Music ได้ เช่น เมื่อคุณต้องการฟังเพลงที่เหมาะกับการออกกำลัง คุณก็เพียงแค่เสิร์ชคำว่า ‘Fitness’ เหล่าเพลย์ลิตส์ที่จะทำให้การออกกำลังของคุณสนุกขึ้น ก็จะปรากฏให้เลือกเป็นจำนวนมาก หรือเมื่อคุณต้องการสังสรรค์ ปาร์ตี้กับเพื่อน คุณก็เพียงเสิร์ชว่า Party เพลย์ลิตส์ของสายแดนซ์สำหรับปาร์ตี้เลิฟเวอร์ก็จะปรากฏให้คุณเลือกฟังนับสิบเพลย์ลิตส์
‘Radio’ ฟีเจอร์ที่เสมือนคลื่นวิทยุจำนวนมากที่ให้คุณเลือกฟังได้ตามใจ
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทำให้หลายๆ คนหันมาใช้ Apple Music และไม่เปลี่ยนใจไปใช้ มิวสิค สตรีมมิ่ง เจ้าอื่นเพราะฟีเจอร์ Radio ได้มีการจัดรายการเพลงให้คุณเลือกฟังได้ตามสไตล์
รวมถึงนำดีเจ และเซเลบริตี้ชื่อดังต่างๆ มาจัดรายการสด อาทิ Zane Lowe, Ryan Adams, Pharrell Williams และ Mike D แถมยังมีการปล่อยเพลงแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับศิลปินชื่อดังจากทั่วโลกให้ฟังก่อนใคร อย่างในช่อง Beats 1 Radio ที่เคยจัดรายการปล่อยเพลงแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับศิลปินชื่อดัง อย่าง Drake, Taylor Swift, Frank Oceanหรือจากฝั่งเอเชียอย่าง NCT 127
ราคาค่าสมาชิกที่เหมาะสม เข้าถึงได้ และไม่มีโฆษณาคั่น
แน่นอนว่าราคาค่าสมาชิกเพียง 129 บาทต่อเดือนทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และที่สำคัญที่เรียกว่าเป็นจุดเด่นเลยก็ได้นั่นคือ ‘ไม่มีโฆษณาคั่น’ มาคอยกวนใจหรือขัดจังหวะในขณะที่เรากำลังเพลิดเพลินไปกับเพลงต่างๆ จาก Apple Music
ส่วนใครที่อยากทดลองใช้ Apple Music แบบฟรี ตอนนี้ทรูมูฟ เอช มอบสิทธิพิเศษ สำหรับลูกค้าคนพิเศษของ ทรูมูฟ เอช ให้ฟังเพลงจาก Apple Music ฟรีสูงสุด 6 เดือน เพียงเป็นลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทรูมูฟ เอช แบบรายเดือนในนามบุคคลธรรมดา ที่ใช้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 ถึง 31 ตุลาคม 2562 และสมัครแพ็กเกจราคา 699 บาทเป็นต้นไป และต้องเปิดเบอร์ใหม่ไม่เกิน 120 วัน โดยกด *163*1# โทรออก เพื่อรับสิทธิ์ภายใน 120 วันหลังเปิดเบอร์เท่านั้น
โดยสิทธิพิเศษนี้สำหรับเฉพาะ ลูกค้าที่เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายเครือข่ายหมายเลขเดิมมาใช้บริการทรูมูฟ เอช และแบบเติมเงินที่เปลี่ยนมาใช้แบบรายเดือน
สำหรับใครที่สนใจ อย่าลืมไปโหลดแอพ Apple Music และสมัคร Apple ID ที่เชื่อมต่อกันไว้และถ้าใครยังไม่มั่นใจว่าตัวเองมีสิทธิ์หรือไม่ สามารถตรวจสอบได้โดยกด *163*1# โทรออก เท่านี้ก็จะรู้แล้วว่าคุณได้รับสิทธิ์ดีๆ จากทรูมูฟ เอชที่จะมอบประสบการณ์การฟังเพลงอย่างไหลลื่นบนเครือข่าย 4G ที่ดีที่สุดหรือไม่
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://applemusic.truemoveh.com
Tags: Apple Music, TrueMove H, Music Streaming, ทรูมูฟ เอช