เมื่อเวลา 18.57 น. ในการประชุมสภานัดแรก ที่ประชุมมีมติ 258 – 235 เสียง ให้นายชวน หลีกภัย จากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร

หลังจากการลงมติ ที่เสียงส่วนใหญ่ 248 ต่อ 246 เสียง ไม่เห็นด้วยให้เลื่อนการลงมติเพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร โดย ส.ส.จาก พรรคพลังประชารัฐตอบคะแนนผิดจากเห็นด้วยเป็นไม่เห็นด้วยถึง 5 เสียง ทำให้มีเสียงไม่เห็นด้วยรวม 248 เสียง และงดออกเสียงจำนวน 2 เสียง (และถูกตัดสิทธิ์ 1 เสียง และลาป่วยอีก 1 เสียง) ทำให้สภาฯ เดินหน้าลงมติเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

ภาพโดย ฐิตินันท์ เสมพิพัฒน์

รายชื่อผู้ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ มีเพียงสองคนก็คือ นายชวน หลีกภัย จากพรรคประชาธิปัตย์ (ซึ่งเสนอชื่อโดย นายณัฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ) และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ จากพรรคเพื่อไทย (ซึ่งเสนอชื่อโดย นายซูการ์โน มะทา ส.ส.พรรคประชาชาติ) ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า มีรายงานว่าพรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อ สุชาติ ตันเจริญ แต่หลังจากพักเที่ยง ปรากฏว่าท้ายที่สุดพรรคพลังประชารัฐ โดยนายณัฐพล ทีปสุวรรณ กลับเสนอชื่อนายชวน หลีกภัย จากพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ แทน  ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าพรรคพลังประชารัฐได้เจรจาข้อตกลงกับพรรคประชาธิปัตย์เรียบร้อยแล้ว จึงงดเสนอชื่อส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐและเสนอชื่อนายชวน หลีกภัย จากพรรคประชาธิปัตย์แทน

ทั้งนี้ การปรากฏชื่อของ ชวน หลีกภัย ในฐานะผู้ชิงตำแหน่งประธานรัฐสภา และความพยายามยื้อเวลาการเลือกประธานสภาออกไปให้ได้มากที่สุด พร้อมกับปฏิกิริยาที่พรรคพลังประชารัฐตัดสินใจไม่เสนอชื่อตัวแทนของพรรคตนเองในโค้งสุดท้าย ทำให้เกิดข้อสังเกตว่า พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคพลังประชารัฐคงต้องมีการเจรจากัน เพียงแต่ข้อต่อรองบางอย่างอาจจะยังไม่ลงตัวนักในช่วงแรก

การลงคะแนนครั้งนี้เป็นการลงคะแนนแบบลับ โดยก่อนการลงคะแนนมีข้อกังวลของ ส.ส. ในสภาฯ ว่า วิธีการตั้งคูหาลงคะแนนนั้นถือเป็นการลงคะแนนลับหรือไม่ เพราะสถานที่ในการลงคะแนนไม่เอื้ออำนวยให้ลงคะแนนลับ และอีกข้อกังวลจาก ส.ส. ฝั่งพรรคเพื่อไทยก็คือ การสะกดชื่อนามสกุลของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผิด จะทำให้การลงคะแนนนั้นเสียไปหรือไม่ โดยนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ชั่วคราวกล่าวว่าให้เป็นข้อวินิจฉัยของคณะกรรมการที่ตั้งมาจากทั้ง 6 พรรค

ในการลงคะแนนเสียงเลือกประธานสภาฯ นั้น มีผู้ลงคะแนนเสียงทั้งหมด 494 เสียง โดยมีเสียงจำนวนหนึ่งที่หายไป หนึ่งในนั้นคือ นายกนก ลิ้มตระกูล ส.ส. อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ผลปรากฏว่า นายชวน หลีกภัย ได้รับเลือกให้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรและควบตำแหน่งประธานรัฐสภา ด้วยคะแนน 258 คะแนน โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ได้ 235 คะแนน และงดออกเสียง 1 คะแนน

สำหรับนายชวน หลีกภัย นั้นในอดีตเคยเป็นนายกรัฐมนตรีสองสมัย คือเมื่อปีพ.ศ. 2535 – 2538 และปี พ.ศ. 2540 – 2544 และเคยเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต่อเนื่อง 12 ปี (2534 – 2546)

ทั้งนี้ คำเปรียบเปรยเรื่อง “งูเห่า” ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยก็เริ่มขึ้นในยุคสมัยของนายชวน หลีกภัยนั่นเอง โดยในปีพ.ศ. 2540 จำนวนเสียงของส.ส. ที่สนับสนุนนายชวน จากพรรคประชาธิปัตย์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ยังแพ้เสียงของ พล.อ.ชาติชาติ ชุณหะวัณ จากพรรคชาติพัฒนาเล็กน้อย แต่เกมพลิกโผเมื่อปรากฏว่า ส.ส. 12 คนจากพรรคประชากรไทยที่เดิมต้องสนับสนุนพล.อ.ชาติชายนั้น กลับย้ายฟากไปสนับสนุนนายชวนแทน นั่นจึงเป็นที่มาของตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองของนายชวน หลีกภัย และเป็นที่มาที่ทำให้นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคประชากรไทยเปรียบเทียบตัวเองว่าเป็นชาวนา ส่วนส.ส. ทั้ง 12 คนนั้นคือกลุ่มงูเห่า

สำหรับการประชุมสภาในวันนี้ มีผู้ติดตามผ่านช่องทางต่างๆ จำนวนมากและแสดงความเห็นกันอย่างคึกคัก ในทวิตเตอร์ แฮชแท็ก #ประชุมสภา #เปิดสภา  #เลื่อนแม่มึงสิ ขึ้นอันดับ 1-3 ของเทรนด์ประเทศไทย โดย ณ เวลา 16.00 น. มีผู้ทวีตติดแฮชแท็ก #ประชุมสภา 1.76 ล้านทวีต #เปิดสภา 1.21 ล้านทวีต #เลื่อนแม่มึงสิ 204,000 ทวีต และมีผู้ติดตามการถ่ายทอดสดผ่านเพจวิทยุและโทรทัศน์ รัฐสภา กว่า 35,000 คน