โนอา โพโธเวน (Noa Pothoven) เด็กสาววัย 17 ปีจากเมืองอาร์นเฮม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ตัดสินใจจบชีวิตลงจากการปฏิเสธการดื่ม การกินและภาะแทรกซ้อนต่างๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการความเครียด ความหดหดหู่ซึมเศร้า จากการถูกทารุณกรรมทางเพศและถูกข่มขืน ซึ่งเธอไม่สามารถจัดการกับภาวะทางจิตใจที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นได้ จนขอเข้ารับการการุณยฆาตตามกฎหมายแต่ถูกปฏิเสธ

โพโธเวนถูกทารุณกรรมทางเพศหลายต่อหลายครั้งตั้งแต่เธออายุ 11 ปี และถูกข่มขืนเมื่อเธออายุได้ 14 ปี ซึ่งหลังจากนั้นเธอต้องทนทุกข์กับภาวะเครียดที่เกิดหลังจากเหตุการณ์นั้น ความหดหู่ซึมเศร้า และโรคปฏิเสธอาหาร โดยเธอเขียนเกี่ยวกับการตัดสินใจที่จะจบชีวิตของเธอในโซเชียลมีเดียเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า

“ฉันใคร่ครวญสักพักหนึ่งแล้วว่าควรจะแชร์สิ่งนี้หรือไม่ แต่ก็ตัดสินใจที่จะเขียน บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องน่าแปลกใจสำหรับบางคน กับการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลของฉัน แต่ฉันคิดเรื่องนี้มานานแล้ว และได้ไตร่ตรองถี่ถ้วนดีแล้วด้วย”

“อีกประมาณ 10 วันต่อจากนี้ฉันจะตาย หลังจากได้ต่อสู้มานานจนฉันไม่มีแรงต่อสู้อีกต่อไปแล้ว ฉันเลิกดื่มน้ำและกินอาหารมาสักพักแล้ว และหลังจากการได้พูดคุยถกเถียงและประเมินหลายครั้ง ฉันก็ตัดสินใจที่จะปล่อยตัวเองจากความทุกข์ยากอันเกินกว่าจะรับไหวของฉัน”

“มันจบแล้ว ฉันไม่ได้มีชีวิตอยู่จริงๆ มานานแล้ว” เธอระบุในโพสต์ดังกล่าว

เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เธอเข้ามาติดต่อคลินิคการุณยฆาต แต่ถูกปฏิเสธ ซึ่งโนอาเคยเข้ารับการรักษาในศูนย์เยาวชนมากว่าสามแห่งในปีที่ผ่านมาเพื่อที่จะเยียวยารักษาอาการปฏิเสธอาหารและความหดหู่ซึมเศร้าของเธอ แม้กระทั่งการรับอาหารผ่านการให้อาหารทางท่อในโรงพยาบาล แต่สุดท้ายเธอก็ปฏิเสธการให้อาหาร และเลือกที่จะจบชีวิตลง จนเสียชีวิตในที่สุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ในปี 2017 มีผู้ที่เลือกจบชีวิตด้วยการการุณฆาตผ่านทางคลีนิคการุณยฆาตในประเทศเนเธอร์แลนด์สูงถึง 6,585 คน ซึ่งถือเป็น 4.4% ของจำนวนผู้ที่ขอเข้าสู่กระบวนการนี้ทั้งหมด

โนอา โพโธเวน เคยเขียนหนังสือเรื่อง ‘Winning or Learning’ ซึ่งเป็นหนังสือที่ได้รับรางวัล อันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของตัวเธอเองในการต่อสู้ที่จะจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายหลังจากที่เธอถูกทารุณกรรมทางเพศและถูกข่มขืน

อ้างอิง: