วัยรุ่นหญิงอเมริกันสอนแต่งหน้าในแอปพลิเคชั่น TikTok แพลตฟอร์มซึ่งมีบริษัทจีนเป็นเจ้าของ พร้อมกับส่งข่าวเรื่องการกักขังชาวอุยกูร์นับล้านคนของรัฐบาลจีน ในค่ายกักกันที่มณฑลซินเจียงไปด้วย แต่ล่าสุด เธอบอกว่าวิดีโอนี้ถูกเซ็นเซอร์โดยแอป TikTok
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟโรซา อาซิส วัยรุ่นอเมริกัน จากนิวเจอร์ซีย์ วัย 17 ปี โพสต์วิดีโอ 3 ตอนที่เริ่มด้วยการสอนใช้ที่ดัดขนตา ระหว่างที่ดัดขนตาอยู่เธอก็พูดว่า “จากนั้นก็วางที่ดัดขนตาตรงนี้ และใช้โทรศัพท์ของคุณ…เสิร์ชหาว่าเกิดอะไรขึ้นในจีน พวกเขาสร้างค่ายกักกันขึ้นมา และนำตัวชาวมุสลิมที่บริสุทธิ์ไปไว้ในนั้น พรากครอบครัว ลักพาตัว ฆ่าพวกเขา ข่มขืนพวกเขา บังคับให้กินเนื้อหมูและดื่มน้ำ บังคับให้พวกเขาเปลี่ยนศาสนายังไง”
เธอยังบอกต่อไปว่า “นี่เป็นโฮโลคอสต์ (การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในสงครามโลกครั้งที่ 2 ของนาซี) อีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่มีใครพูดถึงมัน โปรดคิดถึงเรื่องนี้ โปรดกระจายข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นในซินเจียงตอนนี้” ก่อนที่จะกลับไปสอนดัดขนตาต่อ วิดีโอของเธอกลายเป็นไวรัลมีผู้ชมกว่า 1.4 ล้านวิวแล้ว ในทวิตเตอร์มีคนแชร์และชมกว่า 5 ล้านครั้ง
ต่อมาอาซิสได้รับแจ้งว่า บัญชีของเธอถูกระงับจากการทำผิดกฎของTikTok ทั้งนี้ โฆษกของ TikTok ปฏิเสธว่าไม่ได้เซ็นเซอร์โพสต์ของเธอ โดยอธิบายว่า TikTok ไม่ได้ควบคุมจัดการเนื้อหาที่อันเนื่องมาจากความอ่อนไหวทางการเมือง แต่บอกว่าที่ระงับแอคเคานท์นี้ก็เพราะว่า ชื่อผู้ใช้ก่อนหน้านี้ของเธอ @getmefamousplzsir โพสต์เนื้อหาที่เกี่ยวกับ โอซามา บิน ลาเดน เป็นการทำผิดกฎเรื่องการโพสต์เนื้อหาที่โยงกับการก่อการร้าย
แหล่งข่าวรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับ Business Insider ว่า อาซิสจึงสร้างบัญชีใหมที่ใช้ชื่อ @getmefamouspartthree และโพสต์วิดีโอสอนดัดขนตาที่แทรกเรื่องชาวอุยกูร์ลงไปด้วย และบอกว่าการที่เธอได้รับการแจ้งเตือนว่าถูกแบนเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค ซึ่งจะระงับการใช้งานของผู้ใช้ที่เปิดบัญชีใหม่ และจะยังไม่เปิดให้ใช้งานผ่านมือถือเดิมได้ในทันที การโพสต์เรื่องอุยกูร์และการระงับบัญชีพร้อมกันเป็นเหตุบังเอิญเท่านั้น
อาซิสให้สัมภาษณ์กับ BuzzFeed News ว่า เธอดีใจที่เห็นคนรู้เรื่องวิกฤติสิทธิมนุษยชนในจีนมากขึ้น “ในฐานะที่เป็นชาวมุสลิม ฉันมักจะถูกกดขี่และเห็นคนรอบตัวถูกกดขี่ ฉันรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2018 จึงพูดถึงมันบ่อยๆ เมื่อไรที่พูดก็ไม่มีคนฟัง ทุกคนแค่สนใจแต่ว่าใครแต่งตัวยังไง มีสไตล์อะไรใหม่ๆ บ้าง ใครเป็นยูทูบเบอร์คนใหม่ ใครทำอะไรอยู่ ฉันก็เลยอยากจะทำเรื่องนี้ทาง TikTok หวังแค่ว่าน่าจะช่วยอะไรได้บ้าง”
รัฐบาลจีนสอดแนมและสอดส่องชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยต่างๆ ในซินเจียงอย่างใกล้ชิด ทำให้ชาวอุยกูร์สื่อสารกับโลกภายนอกได้ยากมาก อย่างไรก็ตาม มีชาวอุยกูร์บางคนและนักกิจกรรมในจีนใช้แอปแบบเดียวกับ TikTok ส่งข่าวให้ต่างชาติรู้ โดยเฉพาะวิดีโอที่พวกเขาถูกทุบตี ครอบครัวของผู้สูญหายชาวอุยกูร์ใช้แอป ส่งข่าวเรื่องค่ายกักกันของรัฐบาลจีน
เดอะการ์เดียนรายงานว่า จากคู่มือการจัดการเนื้อหาของบริษัทไบท์แดนซ์ เจ้าของ TikTok ที่ได้รับมา พบว่า ไม่ได้กล่าวถึงซินเจียงโดยตรง แต่มีการพูดถึงการแบนเนื้อหาที่ “เป็นประเด็นที่มีการถกเถียงมาก เช่น การแบ่งแยกดินแดน ความขัดแย้งทางศาสนา ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ เช่น ความขัดแย้งของชาวมุสลิม”
ที่มา:
- https://www.theguardian.com/technology/2019/nov/27/tiktok-makeup-tutorial-conceals-call-to-action-on-chinas-treatment-of-uighurs
- https://www.businessinsider.com/china-uighur-protest-tiktok-suspend-feroza-aziz-2019-11
- https://www.buzzfeednews.com/article/juliareinstein/teen-tik-tok-china-osama-bin-laden