บริษัทไอทียักษ์ใหญ่หลายแห่งต่างพากันกำลังทบทวนการให้บริการในฮ่องกง โดยเฉพาะการปรับปรุงแนวทางปฏิบัติต่อการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ หลังการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฮ่องกงตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นมา เพราะกังวลว่าทางการจีนจะใช้อำนาจตามกฎหมายนี้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของใช้บริการ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม โฆษกของแอป TikTok สำนักงานฮ่องกงให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีว่า หลังจากที่ฮ่องกงประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตอนนี้บริษัทเตรียมหยุดให้บริการแอป TikTok ในฮ่องกงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ก่อนหน้าบริษัทเพิ่งออกมาบอกว่า จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใดๆ ของรัฐบาลจีนที่ให้เซนเซอร์เนื้อหา หรือยอมให้รัฐบาลจีนเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้หากได้รับการร้องขอ อย่างไรก็ตาม โฆษกของบริษัทยังไม่มีรายละเอียดว่า TikTok จะหยุดให้บริการในฮ่องกงเมื่อใด และผู้ใช้แอปในฮ่องกงจะเป็นอย่างไร
แพลตฟอร์มเหล่านี้ถูกบล็อคจากรัฐบาลจีน ที่ผ่านมาสามารถให้บริการได้ในฮ่องกงซึ่งมีกฎหมายรับรองเสรีภาพ ระหว่างการประเมินสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในฮ่องกง สัปดาห์นี้ เฟซบุ๊ก วอทซ์แอป ทวิตเตอร์ กูเกิล และเทเลแกรมต่างประกาศว่า กำลังเปลี่ยนแปลงการให้บริการในฮ่องกง โดยเฉพาะการไม่ส่งข้อมูลให้หากตำรวจฮ่องกงร้องขอ
กฎหมายความมั่นคงให้อำนาจกับตำรวจในการเข้าตรวจค้นข้อมูลและสอดแนมประชาชนได้โดยไม่ต้องมีหมายศาล รวมทั้งให้อำนาจออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการนำข้อมูลที่ถูกระบุว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงออกจากแพลตฟอร์มได้ นอกจากนี้ผู้บัญชาการยังอนุญาตให้ตำรวจดักฟังการสื่อสารได้ ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายต้องถูกปรับไม่เกิน 100,000 ดอลาร์ฮ่องกง และมีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 2 ปี
ผู้บริหารของเทเลแกรม แอปแช็ตที่มีสำนักงานใหญ่ในลอนดอนเป็นบริษัทแรกสุดที่ประกาศว่า เตรียมยุติการให้บริการในฮ่องกงชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่า บริษัทเข้าใจสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ชาวฮ่องกง ดังนั้นบริษัทจึงจะไม่ดำเนินการใดๆ หากได้รับคำขอให้ส่งข้อมูลของผู้ใช้ชาวฮ่องกง จนกว่านานาชาติจะมีความเห็นร่วมกันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของฮ่องกง ส่วนเฟซบุ๊กก็ยับยั้งการพิจารณาคำขอส่งข้อมูลจนกว่าจะมีการประเมินด้านสิทธิมนุษยชน ด้านกูเกิลและทวิตเตอร์ก็ประกาศงดดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการร้องขอข้อมูล
ขณะที่แอปเปิล ซึ่งเป็นผู้บริการจากชาติตะวันตกรายเดียวที่สามารถดำเนินการได้ในจีนแผ่นดินใหญ่ ยังไม่ออกมาแสดงท่าทีใดๆ ในรายงานความโปร่งใสของบริษัทระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายนของปี 2020 ระบุว่า ส่วนใหญ่แอปเปิลปฏิบัติตามคำขอข้อมูลของรัฐบาลฮ่องกง แม้ว่ากฎหมายความมั่นคงจะยังไม่บังคับใช้ก็ตาม ส่วนไมโครซอฟต์ ซึ่งเคยส่งข้อมูลของผู้ใช้ให้แก่ทางการฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ก็ยังไม่ประกาศความเปลี่ยนแปลงทางนโยบายใดๆ
ที่มา:
https://www.bbc.com/news/business-53317015
https://www.bbc.com/news/technology-53308582
https://edition.cnn.com/2020/07/07/tech/tiktok-leaving-hong-kong-intl-hnk/index.html
ภาพ: REUTERS/Dado Ruvic/Illustration
Tags: TikTok