1.

“พวกเราจะยึดมั่นในหลักการ ประชาชนและชีวิตต้องมาก่อน นโยบายหลักคือมุ่งมั่นปกปักษ์รักษาชีวิตและสุขภาพของราษฎร การบรรลุผลลัพธ์นี้คือการร่วมมือกันหลีกเลี่ยงและควบคุมโรคระบาด พร้อมทั้งพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ”

16 ตุลาคม 2022 มีการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีน จัดขึ้นในกรุงปักกิ่ง ซึ่งจะประชุมกัน 5 ปีต่อครั้ง และในวันดังกล่าว ประวัติศาสตร์ก็เกิดขึ้น สี จิ้งผิง (Xi Jingping) ประธานาธิบดีจีน ผู้ยิ่งใหญ่ในประเทศได้ทำการต่ออายุ ดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัย 3 สืบทอดอำนาจไปอีก 5 ปี

อย่างที่ทราบกันว่าการต่ออายุตัวเองของสีนั้น เท่ากับฉีกกฎธรรมเนียมที่มีมาแต่ครั้นอดีต ซึ่งกำหนดไว้โดย เติ้ง เสี่ยวผิง (Deng Xiaoping) ที่มุ่งหวังให้ประธานาธิบดีจีนดำรงตำแหน่งแค่ 2 สมัย 10 ปีก็พอ เพื่อไม่ให้เกิดการยึดติดบูชาบุคคลจนเกินไป

แต่สุดท้ายกฎก็เป็นเพียงตัวหนังสือที่ลบล้างได้ ยิ่ง สี จิ้งผิง ทรงอำนาจใช้เวลา 10 ปี ปราบศัตรูการเมืองจนราบคาบ เขาก็ย่อมมีสิทธิที่จะปูทางมีอำนาจต่อได้อย่างไร้ผู้ต่อต้าน

นับเป็นก้าวย่างใหม่ของฮ่องเต้สี จิ้งผิง และผลแห่งความพยายามหาใช่เขาคนเดียวไม่ ที่ทำมันจนสำเร็จ แต่ยังมีคนใกล้ชิด บุคคลวงในที่ทำงานถวายด้วยความจงรักภักดี จนสุดท้ายเมื่อนายประสบความสำเร็จ ก็ถึงเวลาที่คนเหล่านี้จะได้เฉิดฉาย มีอำนาจเคียงข้างผู้มากบารมีอย่างสีด้วย

นี่คือเรื่องราวของคนใกล้ชิด ที่บางทีอาจหวนนึกถึงคำกล่าวโบราณที่ว่า เก็บมิตรไว้ใกล้ตัว เก็บศัตรูไว้ใกล้กว่า เพราะยามสีทรงพลัง คนวงในอาจเป็นได้ทั้งผู้ภักดีและศัตรูตัวฉกาจที่ยังไม่ฉายแวว แต่อำนาจนั้นเป็นของแปลก เมื่อมั่งมี มันมั่งคั่ง แต่เมื่อมันโรยรา อันตรายจากคนใกล้ชิดย่อมแหลมคมกว่าคนไกลตัว

ดังนั้นเรื่องราวของบุคคลเหล่านี้จึงน่าสนใจอย่างมาก เพราะพวกเขาเป็นได้ทั้งผู้ภักดี ผู้สืบทอด

และผู้ทรยศในวันหน้าด้วย

2.

ก่อนอื่นต้องชี้แจงว่าการประชุมสมัชชาใหญ่ในครั้งนี้ นอกจากปูทางสู่การครองอำนาจของ สี จิ้งผิงแล้ว มันยังมีการกระชับอำนาจ ปรับเปลี่ยนตำแหน่งหลายอย่างในพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วย โดยตัวสี จิ้งผิงนั้น นอกจากดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีน อันเป็นตำแหน่งการปกครองแล้ว เขายังเป็นเลขาธิการพรรคด้วย ซึ่งเป็นตำแหน่งทางการเมืองที่คุมพรรค อันเท่ากับคุมประเทศอีกที

ไม่เพียงเท่านี้ ตัวสีเองยังดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่คุมทหารและตำรวจติดอาวุธ อันเป็นหลักคิดสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ต้องคุมปืนให้ได้ ไม่อย่างนั้น อำนาจรัฐอาจเสื่อมถอย 3 ตำแหน่งนี้ เพิ่มความทรงพลังให้กับสีเป็นอย่างมาก

สำหรับตำแหน่งอื่นๆ ที่ถือเป็นหัวใจของอำนาจพรรค นอกจากตำแหน่งของสีแล้ว การจัดลำดับเอาคนใกล้ตัวเข้าไปอยู่ในคณะกรรมการกรมการเมือง หรือที่เรารู้จักในชื่อเรียกง่ายๆ ว่า ‘โปลิตบูโร’ ซึ่งมีด้วยกัน 7 ตำแหน่งนั้น ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เพราะถือได้ว่าคณะกรรมการนี้คือศูนย์บัญชาการของพรรคเลยทีเดียว บัดนี้ถึงเวลาฮ่องเต้สีจักต้องจัดสรรเกลี่ยคนเสียใหม่ บางคนได้อยู่ต่อ บางคนต้องจากลา แต่คนที่อยู่ในคณะกรรมการนี้ มั่นใจได้ว่า พวกเขาคือคนใกล้ชิดของสี จิ้งผิง อย่างแน่นอน

ต้องบอกก่อนว่าขณะนี้พรรคคอมมิวนิสต์จีน กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรอง ว่าใครควรอยู่ใครควรไป ใครควรก้าวเข้ามาบ้าง มันจึงไปด้วยการคาดการณ์ แต่มั่นใจได้เลยว่า เกจิทั้งหลายมักไม่ค่อยพลาดในการเก็งโฉมหน้าคณะกรรมการชุดนี้อย่างแน่นอน

3.

ทั้งนี้ 7 คณะกรรมการกรมการเมือง ซึ่งมีสี จิ้งผิงอยู่ด้วยนั้น คนที่น่าจะได้อยู่ต่อในฐานะบุคคลสำคัญผู้ใกล้ชิดของฮ่องเต้ยุคใหม่ ก็คือ หวัง หู้หนิง (Wang Huning) อายุ 67 ปี ฉายาคิสซิงเจอร์เมืองจีน ที่มาจากการเปรียบเทียบกับ เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ (Henry Kissinger) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ สมัยประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านเมืองจีน และเป็นคนที่ปูทางรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอเมริกากับจีนนั่นเอง

ตัวหวังนั้น ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการกรมการเมืองอยู่แล้ว ตัวเขาเคยเดินทางไปอเมริกาเมื่อปี 1988 และกลับมาเขียนถึงความยิ่งใหญ่ของอเมริกันที่ถูกปลูกฝังในส่วนต่างๆ ของสังคม นี่คือชายที่ให้คำปรึกษาด้านต่างประเทศแก่สี จิ้งผิง เขาคือหนอนหนังสือตัวยง เป็นอดีตนักวิชาการที่ผันตัวมาทำงานการเมือง 

ในยุคปฏิวัติวัฒนธรรม ที่ซึ่งหนังสือเป็นของต้องห้าม และถูกเผาทำลาย แต่หวังคนนี้ยังหาหนังสือวรรณกรรมคลาสสิคของตะวันตกมาอ่านได้อย่างสบายๆ จนเมื่อสิ้นสุดฝันร้าย เขาก็กลับไปเรียนมหาวิทยาลัย ก่อนไต่เต้ามาทางสายวิชาการ จนได้ไปทำงานการเมืองให้กับประธานาธิบดีจีน 3 คนด้วยกัน

ด้วยภาพลักษณ์ปัญญาชน นิ่งสงบสยบทุกความเคลื่อนไหว ในช่วงที่สีครองอำนาจ อาจมีการกวาดล้างศัตรูทางการเมืองหลายคน แต่หวังกลับอยู่รอดและเป็นส่วนหนึ่งของผู้ใกล้ชิดสี จิ้งผิงถึงปัจจุบัน

บีบีซีไทยเปรียบหวัง ด้วยภาษิตจีนโบราณได้อย่างน่าสนใจว่า “น้ำที่อ่อนสามารถเอาชนะหินและเหล็กได้ ไม่ว่ามันจะแข็งเพียงใดก็ตาม หวัง หู้หนิง จึงเปรียบเหมือนกับยาถอนพิษ ที่เข้ามาช่วยต้านพิษการเมืองแบบเผด็จการ”

บุคคลต่อมาซึ่งอยู่ในตำแหน่งคณะกรรมการ และน่าจะไม่ถูกปลดออกอีกคนเหมือนหวังก็คือ จ้าว เล่อจี้ (Zhao Leji) โดยตอนที่สีขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีจีนใหม่ๆ เขาประกาศนโยบายปราบปรามคอรัปชั่นขั้นเด็ดขาด ด้วยประโยคที่ว่าปราบเสือ ตีแมลงหวี่ โดยสีใช้คณะกรรมการตรวจสอบวินัยแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ หรือ CCDI อันมีจ้าว เล่อจี้เป็นผู้นำ กวาดล้างผู้ทุจริต ซึ่งก็เป็นศัตรูทางการเมืองของสีเองด้วย 

ปัจจุบันจ้าวอายุ 65 ปี นักวิเคราะห์มองว่าเขาอาจไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสีมากนักในปัจจุบัน แต่เขามีความจงรักภักดี และมีส่วนในการนำบริวารฮ่องเต้สี เข้าสู่ตำแหน่งสำคัญ อีกทั้งประสบการณ์การบริหารงานในภูมิภาค รวมถึงการเป็นมือไม้ปราบผู้ฉ้อฉล ทำให้สี ไว้ใจให้จ้าวอยู่ในคณะกรรมการนี้ได้อีกสมัยอย่างสบายๆ

4.

สำหรับผู้ที่น่าจะมาใหม่ คนที่คาดกันว่ามาแน่ๆ นั่นก็คือ ติ้ง เชอเชียง (Ding Xuexiang) อายุ 60 ปี ผู้ชายคนนี้คือบุคคลที่ใกล้ชิดพันธมิตรของสีอย่างแท้จริง ปัจจุบันเขาอยู่ในสมาชิกคณะกรรมการกรมการเมือง ซึ่งมี 25 คน และจะถูกคัดให้เข้าสู่คณะกรรมการกรมการเมืองอีกที สำหรับติ้งนั้น เขาถือเป็นคนที่ทำงานอยู่กับฮ่องเต้สีมาโดยตลอด เป็นทั้งเลขาทางการเมืองตั้งแต่ตัวสีทำงานในเซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2007 และไม่เคยพรากจากกันเลย ดังนั้นติ้งคงเข้าสู่คณะกรรมการชุดนี้ได้อย่างสบายๆ แถมด้วยวัยเพียง 60 ปี เขาน่าจะอยู่ในแถวหน้าแห่งแผงอำนาจของพรรครับใช้สี จิ้งผิง ไปจนถึงการประชุมสมัชชาใหญ่ในปี 2027 เลยทีเดียว

ชายคนต่อมา หลี่ เฉียง (Li Qiang) อายุ 63 ปีปัจจุบันเป็นหัวหน้าการเงินในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งถือเป็นตำแหน่งสายตรงที่มักจะได้ขยับเข้าสู่คณะกรรมการอยู่เป็นประจำ หลี่นั้นจบด้านเอ็มบีเอที่ฮ่องกง และหน้าที่การงานรุดหน้ามาก ตอนที่สี จิ้งผิงอยู่มณฑลเจ้อเจียง และเมื่อสีมีอำนาจมากขึ้น หลี่ เฉียงก็ได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่ามณฑลเจ้อเจียง เลขาธิการพรรคที่เมืองเจียงซู

อย่างไรก็ดี หลี่มีปัญหากับการรับมือโควิด-19 ที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งอลหม่านเป็นอย่างมาก เพราะมีการล็อกดาวน์ถึง 2 เดือน อันเป็นไปตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของประธานาธิบดีสี จนโดนด่าวิจารณ์กันอย่างมาก แต่เพราะความที่เส้นเขาดี สายตรงคนที่คุณก็รู้กัน ดังนั้นคาดกันว่าเขาน่าจะได้ขยับเป็นรองนายกรัฐมนตรี และมีเส้นทางสดใส ตราบที่นายเหนือหัว ฮ่องเต้เหนือชีวิตไม่ตกกระป๋องไปเสียก่อน

4 บุคคลนี้ 2 อยู่ที่เดิม 2 ขยับก้าวหน้าขึ้น เป็นบุคคลที่น่าจะได้ตำแหน่งแน่ๆ ขณะที่คนอื่นๆ อาจต้องคาดลุ้นกันหน่อย เพราะตำแหน่งคณะกรรมการนี้มีได้แค่ 7 คน สีเอาไปแล้ว 1 อยู่ต่ออีก 2 มาใหม่อีก 2 จึงเหลือ 2 ตำแหน่งที่ต้องลุ้นกันต่อว่าใครจะได้ไป และสื่อก็ยังคาดการณ์กันไปทั่วว่ามีใครบ้างที่มีโอกาส

เพราะมันมีทั้งผู้ใกล้ชิดสีอย่างแท้จริง และคนที่ถูกมองว่าเป็นภัยแก่ฮ่องเต้อีกด้วย

5.

เริ่มที่มิตรของสี จิ้งผิง ซึ่งมีโอกาสได้เข้าวินคณะกรรมการนี้ก่อน ทางสำนักข่าวนิกเคอี พูดถึง 3 คนที่ได้ลุ้น คนแรก เฉิน หมินเอ๋อ (Chen Miner) อายุ 62 ปี ชายที่ทำงานในเมืองฉงชิ่ง ซึ่งผู้ครองอำนาจในดินแดนนี้ก่อนเขา 2 ราย เข้าสู่ตำแหน่งคณะกรรมการได้อย่างสง่างาม แต่มี 2 รายที่ถูกเป็นศัตรูของสี จนถูกจับขังคุกตลอดชีวิต ในข้อหาเรียกรับสินบน ทุจริต

อย่างไรก็ดีเฉินนั้น ไม่ใช่ศัตรูของสีแน่ เพราะเคยทำงานเป็นหัวหน้าโฆษณาชวนเชื่อที่เมืองมณฑลเจ้อเจียงอย่างยาวนาน และถูกดันเข้าสู่ตำแหน่งระดับสูงโดยฮ่องเต้สี นั่นทำให้เฉินมีลุ้นเข้าวินอย่างยิ่ง

คนต่อมา หวง คุนหมิง (Huang Kunming) อายุ 65 ปี สำหรับหวงนั้นทำงานอยู่แดนใต้ ซึ่งอยู่ในการจับตามองของสี และมีโอกาสไปทำงานด้วยกันที่มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นศูนย์รวมการสร้างอำนาจและความสัมพันธ์ของสี จนเมื่อนายเป็นใหญ่ เขาเลยได้ใหญ่ตาม ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งเลขาธิการโฆษณาชวนเชื่อของพรรค ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ถูกดันขึ้นมาโดยสี จิ้งผิง และหากเขาจะเข้าไลน์คณะกรรมการ ก็ดูไม่ขี้เหร่เท่าไหร่ เพราะมีประวัติทำงานรับใช้นายสีมาอย่างยาวนาน

อีกคนคือไช่ ฉี (Cai Qi) อายุ 66 ปี ประวัติเขาใกล้เคียงกับหวง คือทำงานรับใช้สีที่มณฑลเจ้อเจียงและมณฑลฝูเจี้ยน โดยช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม เขาทำงานในชนบทอย่างยาวนาน ก่อนได้ไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัย และที่มณฑลฝูเจี้ยน เขาได้เข้าสู่วงจรอำนาจของสี ตั้งแต่ยุค 90 และเมื่อสีใหญ่ เขาก็ได้ขยับตาม ไปทำงานมากมายเคียงข้างกัน และนี่คือประธานคณะกรรมการจัดงานกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวและพาราลิมปิก ที่กรุงปักกิ่งในปี 2022 ด้วย ปัจจุบันเป็นหัวหน้าคณะทำงานของพรรคที่ปักกิ่ง ถือว่ามีเส้นทางที่รุ่งโรจน์และได้ลุ้นกันทีเดียว

ตัวเต็งคนสำคัญที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งสำนักข่าวเดอะการ์เดียน (The Guardian) ของอังกฤษ ย้ำว่าอย่าตัดชื่อคนนี้ออกเด็ดขาด แม้จะไม่มีความใกล้ชิดผูกพันกับสี จิ้งผิงเหมือนตัวเต็งคนอื่นๆ แต่สาเหตุที่เขาอาจเข้ามานั่งคณะกรรมการ นั่นก็เพราะภาษิตโบราณที่บอกว่า ‘เก็บมิตรไว้ใกล้ตัว เก็บศัตรูไว้ใกล้กว่า’ ซึ่งสีอาจใช้มัน และผลักดันให้ หู ชุนหัว (Hu Chunhua) อายุ 59 ปีก้าวขึ้นมาอยู่ในคณะกรรมการ

ที่ซึ่งสีและบริวารจะได้จับตามองอย่างง่ายๆ หรือเก็บซุกเข้ากรุไม่ให้มีผลงานโดดเด่นอะไรอีก

สำหรับหูนั้น ถือเป็นดาวรุ่งของพรรค เขาเป็นตัวเต็งที่น่าจะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมีประวัติ เคยอยู่ในสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน อันเป็นองค์กรที่ผู้นำจีนหลายคนเคยอยู่ และเป็นเส้นทางผลักดันตัวเองเข้าสู่อำนาจมากมาย แตกต่างจากพวกลูกท่านหลานเธอของพรรคที่มีเส้นทางสดใสรออยู่แล้ว สันนิบาตแห่งนี้จึงเป็นการผลักดันคนมีความสามารถแต่เส้นไม่ค่อยมี ให้เฉิดฉายได้

หู ชุนหัวนั้นไม่เพียงสังกัดสันนิบาตนี้เท่านั้น แต่เขาเติบโตมาอย่างทรงประสิทธิภาพ ผลงานเยี่ยม โดยเฉพาะการบริหารพื้นที่ปกครองอันมีความขัดแย้ง ทั้งธิเบต มณฑลหูเป่ย์ มองโกเลียตอนใน และกวางตุ้ง ด้วยอายุที่น้อย หากเขาได้เข้าสู่คณะกรรมการ ก็จะทำให้เขาเป็นน้องเล็กสุด และเพราะประวัติชีวิตที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับสี แถมยังไต่เต้าจากสันนิบาต นี่จึงทำให้เขาถูกมองว่าเป็นภัยในอนาคตของบังลังค์สีอย่างชัดเจน

ดังนั้นหากเขาไมได้เข้าวิน ก็เพราะเป็นภัยคุกคาม ต้องขจัดให้ห่างตัว แต่หากเขาเข้าวิน ก็หาใช่ว่าสีชมชอบในฝีมือไม่ แต่เพราะต้องการสอดส่องเขาอย่างใกล้ชิดกว่าเดิม

6.

ทั้งหมดนี้คือการคาดการณ์ที่มีความเป็นไปได้สูง ว่าใครจะได้อยู่ในศูนย์บัญชาการพรรค ภายใต้คณะกรรมการกรมการเมืองอันยิ่งใหญ่ ที่จะถูกชี้นำต่อไป 5 ปี โดยสี จิ้งผิง ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ต่างทำงานใกล้ชิด ถูกใจ มีฝีมือ มีเส้นมีสาย มีอิทธิพล เป็นผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้องค์ใหม่อย่างแท้จริง

5 ปีต่อจากนี้ ไม่มีใครรู้ว่าจีนจะเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆ อิทธิพลของสี จิ้งผิงจะเพิ่มพูนมากขึ้น ซึ่งจะชี้ให้ชัดว่าโลกจะขับเคลื่อนไปอย่างไร ถือเป็นสิ่งที่ต้องจับตามองอย่างมาก

เช่นเดียวกับผู้ใกล้ชิด บริวารสีทั้งหลาย จะเป็นมิตรยืนยง หรืออาจแปรสภาพเป็นศัตรูชั่วข้ามคืน การเมืองที่เล่นกันหลังฉากแบบนี้ เราไม่อาจคาดการณ์อะไรได้ นอกจากพึงสังวรณ์สัจธรรมอย่างหนึ่งว่า อำนาจหาได้ยืนยงไม่ มีขึ้นสูงสุด ก็ต้องมีเสื่อมถอยเป็นธรรมดา

หวังว่า สี จิ้งผิง จะตระหนักถึงเรื่องนี้ไว้เป็นอย่างดี

ข้อมูลอ้างอิง

  1. https://asia.nikkei.com/Politics/China-s-party-congress/Team-Xi-top-contenders-to-join-Chinese-leader-s-inner-circle
  2. https://asia.nikkei.com/Politics/China-s-party-congress/Xi-vows-never-to-renounce-use-of-force-to-reunify-with-Taiwan
  3. https://www.bbc.com/thai/international-63205225?at_custom3=BBC+Thai&at_custom2=facebook_page&at_custom1=%5Bpost+type%5D&at_medium=custom7&at_campaign=64&at_custom4=1900A06A-4D90-11ED-ABEE-95A496E8478F
  4. https://www.nytimes.com/2015/09/26/world/asia/xi-jinping-china-president-inner-circle-western-officials.html
  5. https://www.theguardian.com/world/2022/oct/17/chinese-communist-party-congress-whos-in-and-whos-out-of-xi-jinpings-inner-circle
  6. https://www.bbc.com/thai/international-41869644
  7. https://thaipublica.org/2018/11/sutti-08/

 

Tags: ,