แฮกซอว์ (Hacksaw) คือเลื่อยตัดโลหะชนิดหนึ่ง สามารถเปลี่ยนใบเลื่อยได้ และอาจมีรูปทรงที่แตกต่างออกไป รวมไปถึงลักษณะซี่ฟันของใบเลื่อย ซึ่งมีให้เลือกหลากหลาย ตามลักษณะความเหมาะสมของการใช้งานในแบบที่ต้องการ ถูกคิดค้นตั้งแต่ปี 1880 และถือว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ปฏิวัติการทำงานของช่าง และทำให้งานช่างนั้นง่ายขึ้น เป็นระยะเวลานานมากกว่า 130 ปี
คำว่า Hacksaw Ridge นอกจากจะแปลว่า ซี่เลื่อยกรอบ หรือเลื่อยตัดโลหะแล้ว ยังเป็นอีกชื่อหนึ่งของที่สูงชัน Maeda Escarpment ที่เป็นจุดฐานที่มั่นของทหารญี่ปุ่น ในสงครามโลกครั้งที่ 2 บนเกาะโอกินาวา ที่ถือว่าเป็นสมรภูมิรบเหนือคาบมหาสมุทรแปซิฟิกที่เกิดการสูญเสียมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยต้องใช้เวลาทั้งสิ้น 82 วัน ที่จะต้องฝ่า ‘ห่าฝนโลหะ’ หรือชื่อญี่ปุ่นคือ “เท็ตสึ โนะ อาเมะ” ซึ่งเป็นชื่อของปฏิบัติการของทางทหารญี่ปุ่นที่จะรุมกระหน่ำใส่กำลังรบและยุทโธปกรณ์ทั้งหมดที่มีใส่กองทัพอเมริกัน โดยทางกำลังรบของทหารอเมริกันเองก็ได้รับกำลังสนับสนุนจากทัพเรืออังกฤษ และได้บุกขึ้นฝั่งที่เกาะเคระมะ ที่อยู่ห่างออกมาทางตะวันตกของเกาะโอกินาวาประมาณ 24 กิโลเมตรเป็นที่แรก ก่อนที่จะบุกเข้าทางตอนเหนือของเกาะโอกินาวา และทางตอนใต้ของเกาะในเวลาต่อมา
สภาพของเกาะโอกินาวาในตอนนั้น ภายใต้สภาวะอากาศที่มีฝนตกเป็นระยะๆ ส่งผลทำให้พื้นดินเต็มไปด้วยโคลนและแอ่งน้ำขัง ปะปนไปกับศพของทหารที่นอนแช่น้ำตายอยู่ในหลุมที่เกิดจากการระเบิด ในสภาพที่ยังคงกำอาวุธแน่น ใบหน้าและร่างกายถูกหนอนกับแมลงกัดกิน ไปพร้อมๆ กับอาวุธที่ขึ้นสนิมรอวันผุกร่อน จากคำบอกเล่าของทหารที่ไปรบที่นั่น พวกเขาได้เรียกสถานที่แห่งนี้ว่า ‘บ่อโสโครกของนรก’ และที่นี่คงไม่ใช่สถานที่ของใครที่คิดจะมาต่อสู้ด้วยมือเปล่า ไปพร้อมๆ กับเจตนาที่จะไม่คิดปลิดชีวิตใคร
เดสมอนด์ ดอสส์ (แอนดรูว์ การ์ฟิลด์) เป็นหนึ่งในแพทย์สนามของหน่วยทหารราบที่ 77 ได้ตัดสินใจสมัครตัวเองเข้าเป็นทหารเพื่อรบในสงคราม โดยไม่มีเจตนาที่จะฆ่าใคร เนื่องจากว่าเขานับถือศาสนาคริสต์นิกายเซเวนท์เดย์แอดเวนทิสต์ ที่มีความเชื่อว่า การเอาชีวิตของผู้อื่นนั้นถือว่าเป็นบาปมหันต์ อีกทั้งเขายังปฏิเสธที่จะหยิบจับอาวุธและยินดีที่เข้าไปรบในสงครามโดยที่จะไม่ใช้มัน ซึ่งถือว่าเป็นความเชื่อที่สุดโต่งและดันทุรังมากๆ และทำให้เขาต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในขณะที่ฝึกทหาร ท่ามกลางสายตาของเพื่อนและผู้บังคับบัญชาที่มองเขาว่าเป็นคนขี้ขลาด และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คนอื่นๆ ต้องพบกับความตายในสนามรบ แต่แล้วพวกเขาเหล่านั้นก็ต้องเปลี่ยนความคิด เมื่อ เดสมอนด์ ดอสส์ กลับกลายเป็นคนที่สามารถพาเพื่อนร่วมรบของเขา มีชีวิตรอดกลับมาจากเกาะขุมนรกแห่งนั้นได้
เมล กิบสัน ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังคงใส่ประเด็นของแรงศรัทธาแห่งศาสนาเอาไว้ ไม่ต่างอะไรกับภาพยนตร์เรื่องก่อนๆ ของเขาอย่าง The Passion of The Christ (2004) และ Apocalypto (2006) แต่ใน Hacksaw Ridge นั้น สัดส่วนของประเด็นทางศาสนาและความภาคภูมิใจในชาติกลับถูกใส่มามากจนเยอะเกินไป จนทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้แทบไม่มีประเด็นอื่นเลยนอกเหนือไปจากสองเรื่องนี้ แต่ยังดีที่ส่วนครึ่งหลังของภาพยนตร์นั้นเป็นฉากสงครามที่น่าตื่นตาตื่นใจ จึงทำให้ภาพยนตร์ยังมีความสนุกอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากพอที่จะสะกดใจคนดูให้เชื่อว่า เดสมอนด์ ดอสส์ คือวีรบุรุษสงครามที่ได้ผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ ไปได้ด้วยไหวพริบและความศรัทธาต่อพระเจ้าอย่างแท้จริง
Hacksaw Ridge ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในปีนี้ถึง 6 รางวัล ซึ่งรวมไปถึงรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม และนักแสดงชายยอดเยี่ยมอีกด้วย แต่ถ้าหากจะให้เปรียบเทียบภาพยนตร์เรื่องนี้กับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่ได้เข้าชิงในปีนี้แล้วนั้น Hacksaw Ridge อาจกลายเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้มีชั้นเชิงการนำเสนอที่แปลกใหม่หรืองดงามอะไรมากมายนัก อีกทั้งยังดูเป็นภาพยนตร์สงครามที่ออกจะธรรมดาเสียด้วยซ้ำ แต่ด้วยบทภาพยนตร์ที่มุ่งเน้นไปที่การ ‘จดจำวีรบุรุษ’ ผู้ที่เคยทำให้ชาตินั้นสงบสุขและงดงามมาได้ จึงอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในปีนี้
ภาพของสันเขาในภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาพของหน้าผาหินที่ยกตัวขึ้นสูงชัน ที่เหล่าทหารต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อปีนป่ายขึ้นไป ราวกับว่าเป็นกำแพงที่กั้นระหว่างความศรัทธาและความเชื่อที่จะต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ที่เหล่าทหารได้ปีนขึ้นไปเพื่อเข่นฆ่าและถูกฆ่าอยู่บนนั้น ซึ่งแตกต่างกับภาพลักษณ์จริงๆ ของ Maeda Escarpment ที่เป็นยอดเขาต้นฉบับ ที่เป็นเพียงแค่ยอดเขาสูงๆ และไม่ได้ดูน่าเกรงขามอย่างในภาพยนตร์ ซึ่งในความเป็นจริงตัวสันเขา Maeda Escarpment นั้น กลับเป็นยอดเขาที่แค่มองดูแล้วไม่สามารถเห็นความเป็นไปได้ที่จะปีนขึ้นไป และต่อสู้เพื่อให้ได้รับชัยชนะกลับมาได้เลย ซึ่งนั่นคงเป็นข้อพิสูจน์ของศรัทธาแล้วว่าพวกเขาสามารถทำได้ และมีความเชื่อที่จะสู้รบเพื่อให้ได้ชัยชนะและสันติภาพกลับมา เพื่อคนและครอบครัวที่ตนรัก
และไม่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะนำเรื่องราวนี้มาถ่ายทอดอย่างไร ก็คงไม่สำคัญเท่ากับความจริงที่เหล่าทหารทั้งหลายได้เคยไปสู้รบและเสียชีวิตที่นั่น ที่พวกเขาได้ยินยอมที่จะเสียสละชีวิต เพื่ออุดมการณ์ และความสงบสุขของชีวิต ที่พวกเราได้มีในปัจจุบัน
Tags: Movie, TheReview