https://soundcloud.com/themomentumco/the-momentum-the-money-coach-ep022-5

วิธีการหาความรู้ทางการเงินในปัจจุบันนั้นมีอยู่มากมาย แต่หนึ่งในวิธีที่คลาสสิกที่สุดก็คือการอ่านหนังสือ วันนี้ THE MONEY COACH จะมาแนะนำหนังสืออ่านสนุก 5 เล่มที่เมื่อได้อ่านแล้วเราเชื่อว่าจะเปลี่ยนชีวิตและวิธีคิดทางการเงินของคุณไปอย่างแน่นอน

1. The Richest Man in Babylon – เศรษฐีชี้ทางรวย

เป็นหนังสือที่เขียนโดย George Samuel Clason ในปี 1926 เรียกได้ว่าคลาสสิกแต่ยังมีความร่วมสมัย เรื่องราวเกี่ยวกับชายยากจนคนหนึ่งที่อยากรู้ว่าเศรษฐีรุ่นราวคราวเดียวที่อยู่ในเมืองเดียวกันนั้นเค้าแตกต่างจากตัวเองยังไง เค้าก็เลยไปศึกษาและเรียนรู้จากเศรษฐีคนนั้น วิธีการเล่าในเรื่องนี้ก็จะเป็นการสอนและกระเทาะนิสัยของคนออกมา เช่นเศรษฐีถามว่าเงินที่หามาได้ใช้จ่ายอะไรไปบ้าง คนจนก็ชี้แจงรายจ่ายทั้งหมดออกมา เมื่อชี้แจงจบเศรษฐีก็บอกว่าที่เจ้าจนแบบนี้เพราะเจ้าจ่ายเงินให้กับทุกคนยกเว้นตัวเจ้าเองยังไงล่ะ เมื่อเจ้าได้ทองมาสิบส่วนเจ้าก็ควรจะเก็บไว้ให้ตัวเองหนึ่งส่วน ซึ่งน่าจะเป็นหนังสือเล่มแรกๆ ที่พูดถึงการออม 10% และด้วยความง่ายในการเล่าเรื่อง หนังสือเล่มนี้จึงเป็นหนังสือเล่มแรกๆ ที่โค้ชหนุ่มมักจะแนะนำให้คนได้อ่านกัน

2. Wink and Grow Rich – มั่งคั่งมากกว่าที่ตาเห็น

เขียนโดย Roger J. Hamilton เป็นนิทานที่พูดถึงความมั่งคั่งที่มีกลิ่นอายและแนวคิดของความเป็นเอเชียมากหน่อย เนื้อเรื่องดำเนินโดยเด็กชายคนหนึ่งที่เป็นลูกของช่างไม้ที่ทำงานหนักและขยันขันแข็ง แต่ก็ยังไม่รวยสักที วันหนึ่งตัวพ่อเกิดล้มป่วย จึงใช้ให้ลูกไปที่บ่อน้ำและจ่ายเงินหนึ่งดอลลาร์เพื่อซื้อน้ำจากบ่อกลับมาที่บ้านเหมือนที่พ่อเคยทำทุกวัน เมื่อตัวลูกไปถึงบ่อก็เกิดความสงสัยถึงความร่ำรวยของเจ้าของบ่อน้ำนั่น และได้ถามถึงวิธีที่สามารถไปสู่ความรวยนั้น ซึ่งเจ้าของบ่อน้ำก็ได้ถามกลับมาว่าความรวยของเด็กชายนั้นคืออะไรล่ะ ก็เป็นการจุดประเด็นให้กับทั้งเด็กชายและคนอ่านถึงนิยามความรวยของตนเอง และหลังจากนั้นเด็กชายก็จะได้ไปพบกับผู้มั่งคั่งอีกมากมายจนได้เรียนรู้ว่าความมั่งคั่งที่ตนต้องการจริงๆ นั้นคืออะไร

3. Good Luck: Creating the Conditions for Success in Life and Business

หนังสือชื่อธรรมดาที่เนื้อหาไม่ธรรมดาจากฝีมือของ Alex Rovira และ Fernando Trías de Bes ที่เล่าเรื่องราวของเพื่อนซี้ในวัยเด็กที่มาเจอกันอีกทียามเกษียณ ซึ่ง ณ ตอนนั้นคนหนึ่งกลายเป็นคนรวย ส่วนอีกคนยังคงจนแม้จะอยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ทั้งสองก็นั่งคุยกันถึงเรื่องราวต่างๆ และความโชคดีของอีกคนที่รวยขึ้นมาได้ แต่คนที่รวยก็ตอบปฏิเสธว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่ใช่โชคดี แต่เป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเอง แล้วเพื่อนที่รวยก็เล่านิทานให้เพื่อนอีกคนฟัง ซึ่งเป็นเรื่องราวที่แสดงให้เห็นถึงทัศนคติ วิธีการคิด และวิธีการใช้ชีวิตของคนแต่ละประเภทจนนำมาสู่ความสำเร็จที่ไม่ได้เกี่ยวกับโชคชะตา

4. How Google Works – คิดอย่างผู้นำ ทำอย่างกูเกิล

หนังสือที่ถูกเขียนโดย Jonathan Rosenberg และ Eric Schmidt อดีตผู้บริหารและที่ปรึกษาของกูเกิล หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เขียนถึงประวัติความเป็นมาของกูเกิล แต่เล่าถึงวิธีคิดของหนึ่งในองค์กรที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลกแห่งนี้ อย่างเช่นที่นี่จะไม่มีห้องทำงานส่วนตัวเพราะเชื่อว่าเป็นวิธีการทำงานแบบใหม่ที่ผู้คนจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นจนเกิดไอเดียดีๆ และไปเน้นที่การสร้างห้องประชุมแทน อีกหนึ่งแนวคิดที่น่าสนใจคือเค้าบอกว่าการแสดงความไม่เห็นด้วยนั้นเป็นหน้าที่ไม่ใช่ทางเลือก ในองค์กรทั่วไปเวลาเจ้านายเสนอไอเดียมาคนทั่วไปอาจจะไม่แย้ง แต่ที่กูเกิ้ลถ้าเราไม่พูดแล้วไอเดียที่ด้อยกว่าชนะไปคนที่ผิดก็คือคนที่ไม่พูด เป็นการให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนไอเดีย ซึ่งหนังสือเล่มนี้ยังมีไอเดียและวิธีคิดอีกมากมายที่น่าสนใจและสามารถเอาไปปรับใช้กับการทำงานของเราเองได้

5. Elon Musk

เรื่องราวของบุคคลที่กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนโลกคนต่อไป กับบทสัมภาษณ์ที่ผ่านการพูดคุยกว่าสี่สิบครั้งเพื่อถอดรหัสความคิดของเจ้าตัว ความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้เริ่มตั้งแต่การเปิดตัวบทแรกด้วยการเดินเข้ามาของ เอลอน มัสก์ แล้วเอ่ยปากกระซิบถามผู้สัมภาษณ์ว่า “คุณคิดว่าผมบ้ารึเปล่า” เป็นการทำให้เห็นถึงบุคลิกของคนๆ นี้ได้ตั้งแต่ต้น และข่าวดีคือตอนนี้มีคนกำลังแปลเป็นภาษาไทยอยู่ด้วย

—————————————————————–

ข้อเขียนบทความต่อไปนี้ เป็นเนื้อหาส่วนหนึ่งของพอดแคสต์ ที่สรุปใจความสำคัญโดยย่อ ตลอดจนรายละเอียดเพิ่มเติมบางอย่าง เช่น link ของสิ่งที่เกี่ยวข้อง หรือที่ถูกพูดถึงในรายการ เพื่อให้ผู้สนใจได้ตามไปอ่านหรือดูเพิ่มเติม กรุณาคลิกที่นี่เพื่อติดตามฟังรายการเต็มๆ

 

Tags: , , , , ,