วันที่ 7 เมษายน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 จากทำเนียบรัฐบาล โดยมีการถ่ายทอดพระราชดำรัส รายงานยอดผู้ป่วยทั้งในไทยและต่างประเทศ รายงานผลการดำเนินการตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ รวมถึงสถานการณ์ของคนไทยที่ติดค้างอยู่ในสนามบินประเทศต่างๆ 

ตัวเลขที่ได้รับแจ้งล่าสุดคือ มีคนไทยติดอยู่ในสนามบินประเทศญี่ปุ่นจำนวน 15 คน เกาหลีไต้ 60 คน เนเธอร์แลนด์ 1 คน สหราชอาณาจักร 1 คน กาตาร์ 14 คน โดยบุคคลในจำนวนเหล่านี้ทางกระทรวงการต่างประเทศจะเข้าไปดูแล นพ.ทวีศิลป์ยังเพิ่มเติมว่า หากใครที่ยังไม่ถูกนับอยู่ในตัวเลขเหล่านี้ สามารถแจ้งได้ แต่ยังไม่ระบุว่าให้แจ้งที่ไหนหรืออย่างไร

และนอกจากตัวเลขที่กล่าวมาแล้ว ในวันนี้ (7 เมษายน) เวลา 20.30 น. จะมีเครื่องบินจากฝรั่งเศสที่เข้ามารับชาวฝรั่งเศส ซึ่งจะมีคนไทยจำนวน 14 คนเดินทางกลับมากับเที่ยวบินนี้ที่ลงจอดที่สนามบินจังหวัดภูเก็ต และเวลา 21.45 นาที จะมีคนไทยที่ตกค้างจากสหรัฐอเมริกา 60 คน เดินทางมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนวันที่ 8 เมษายน เวลา 15.30 จะมีคนไทยอีก 22 คนกลับมาพร้อมเที่ยวบินจากญี่ปุ่น ลงที่สนามบินสุวรรณภูมิเช่นกัน ทั้งหมดยังต้องใช้เอกสาร fit to fly เพื่อยืนยันกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าประเทศ

สำหรับกลุ่มผู้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย ทางรัฐบาลขอความร่วมมือในการกักตัวในพื้นที่ที่รัฐจัดหาไว้ โดย นพ.ทวีศิลป์ตอบคำถามที่ว่า จะเป็นไปได้หรือไม่หากห้องพักระหว่างกักตัวจะเป็นห้องละ 1 คน ให้สอดคล้องกับมาตรการเว้นระยะห่าง คำตอบคือทางที่ดีที่สุดคือการได้พักห้องเดี่ยว แต่เนื่องจากสถานที่ไม่เพียงพอรวมถึงบุคลากรที่เข้ามาดูแลยังไม่เพียงพอ จึงยังต้องเป็นไปตามนั้น 

อย่างไรก็ตามกรมการบินพลเรือนได้ขยายระยะเวลาห้ามบินเข้าประเทศ จากเดิมที่กำหนดถึงแค่วันที่ 6 เมษายน ขยายไปเป็นตั้งแต่ 7 เมษายน จนถึง 18 เมษายน เที่ยวบินที่ได้รับการยกเว้นได้แก่ 1) เที่ยวบินราชการหรือที่ใช้ในราชการทหาร 2) เที่ยวบินที่ขอลงฉุกเฉิน 3) เที่ยวบินที่ขอลงทางเทคนิคโดยไม่มีผู้โดยสารลงจากเครื่องบิน 4) เที่ยวบินเพื่อช่วยเหลือทางมนุษยธรรม เช่นเครื่องบินทางการแพทย์หรือขนส่งสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ 5) เที่ยวบินขนส่งสินค้า และ 6) เที่ยวบินที่ได้รับอนุญาตให้รับส่งบุคคลกลับภูมิลำเนา

นอกจากนี้ยังมีเพิ่มเติมเรื่องความสามารถในการตรวจหาโรค ทั้งภาครัฐและเอกชน ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลสามารถตรวจหาผู้ติดเชื้อได้วันละ 10,000 ราย ต่างจังหวัดทั้งหมดรวมกันอีกวันละ 10,000 ราย อย่างไรก็ตาม นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่าการตรวจยังมีข้อจำกัด “ถ้าท่าน ประทานโทษ มาพร้อมๆ กันหมื่นรายก็อาจจะตรวจกันไม่หวาดไม่ไหว” อย่างไรก็ตามรัฐบาลตั้งเป้าว่าจะดำเนินการให้สามารมเพิ่มศักยภาพในการตรวจให้ถึงวันละ 100,000 คนให้ได้ 

ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อตามที่รัฐบาลรายงาน ณ วันที่ 7 เมษายน มีผู้ป่วยใหม่ 38 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 2,258 ราย จาก 66 จังหวัด หายป่วยแล้ว 824 ราย 

 

อ้างอิง

https://www.facebook.com/ThaiPBSFan/videos/528871801145295/

https://www.matichon.co.th/economy/news_2126039

Tags: ,