เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา a day magazine ในฐานะตัวแทนอย่างเป็นทางการของ Cannes Lions จับมือกับสมาคมผู้กำกับศิลป์บางกอก (B.A.D) และสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย (AAT) จัดงาน Thai Creativity in Cannes Lions เพื่อมอบรางวัลให้กับ 8 ชิ้นงานโฆษณาไทยที่ได้รับรางวัล Cannes Lions ในระดับ Silver และ Bronze ตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยนอกจากพิธีมอบรางวัลแล้วภายในงานยังเต็มไปด้วยเนื้อหาที่น่าคิดเกี่ยวกับวงการสื่อโฆษณาทั้งในเมืองไทยและในระดับโลก

ในงานนี้มีการจัดฉายงานโฆษณาจากทั่วโลก ที่คัดสรรโดยคนโฆษณาเมืองไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงระดับโลก 6 คน คนละ 10 ชิ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นทั้งเทคนิคและวิธีการนำเสนอไอเดียเพื่อขายของให้เป็นที่จดจำ จนถึงทิศทางของน้ำเสียงในงานโฆษณาที่คำนึงถึงความหลากหลายและความเท่าเทียมในสังคม โดยเฉพาะในตัวอย่างงานโฆษณาที่คัดสรรโดย ดมิสาฐ์ องค์ศิริวัฒนา แห่ง SOUR Bangkok ที่แต่ละชิ้นมีวิธีนำเสนอเรื่อง ‘เพศหญิง’ ที่แตกต่างกันไปและชวนให้ตั้งคำถามต่อว่าทิศทางเช่นนี้ของงานโฆษณาสำคัญอย่างไร และควรได้รับการต่อยอดอย่างไรบ้าง

มาถึงเวทีเสวนา ‘คานส์แล้วไปไหน’ ที่อัดแน่นไปด้วยประเด็นน่าสนใจ a day magazine ได้เชิญชวนให้นักสร้างสรรค์มือรางวัลของไทยอย่าง ภาณุ อิงคะวัต, พินิต ฉันทประทีป, สุรชัย พุฒิกุลางกูร, วิศิษฏ์ ล้ำศิริเจริญโชค, และสหรัฐ สวัสดิ์อธิคม มาร่วมพูดถึงความสำคัญของ Cannes Lions ที่มีต่อวงการสร้างสรรค์ไทย และทิศทางในอนาคตของงานโฆษณา

สิ่งที่เห็นได้ชัดคือเทรนด์การพูดถึงเรื่องความหลากหลาย ความเท่าเทียม และมนุษยชน ในงานโฆษณา ซึ่งงานส่วนใหญ่ที่ได้รับรางวัลในเวทีคานส์มักจะเป็นไปในทิศทางนี้ ข้อดีอย่างหนึ่งคือทำให้เห็นว่าทั้งโลกกำลังสนใจสิ่งเดียวกัน หากแต่ก็ทำให้งานโฆษณาที่ทำหน้าที่ ‘ขายของ’ ตามความหมายของการโฆษณา ที่แม้จะมีไอเดียหรือวิธีการที่ดีแค่ไหน ก็ไม่ได้มีโอกาสได้รับความเชิดชู

ขณะที่คุณภาพงานโฆษณาไทยในภาพรวมก็ยังไม่เป็นที่น่าพึงพอใจนัก โดยในปัจจุบันผู้ผลิตมักจะมองแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นหลัก และคำนึงถึงเรื่องการเป็นไวรัลมากจนบางครั้งละเลยการวิเคราะห์ด้านการตลาด หรือการให้ความสำคัญกับไอเดียตั้งต้น

อย่างไรก็ตาม วงเสวนาเห็นพ้องต้องกันว่ารางวัลจากเวทีคานส์ก็ยังคงเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับคนแวดวงเอเจนซี่ เพราะอย่างน้อยงานรางวัลล้วนแต่เป็นไกด์ไลน์ที่ดี และเปรียบเหมือนข้อสอบในแต่ละปีที่คนเอเจนซี่จะใช้ในการพัฒนาตนเอง ส่วนการจะพูดเรื่องเกี่ยวกับมนุษยชนมากน้อยแค่ไหน หรืออย่างไรบ้าง น่าจะเป็นโจทย์ที่คนทำงานจะต้องขบคิดกันต่อไป

 

ขอขอบคุณภาพจาก a day magazine

Tags: , , , ,