การเลือกตั้งทั่วไปของสวีเดนเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา นับคะแนนไปแล้ว 99% โดยจะเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการในวันพุธนี้ (12 กันยายน) หลังจากนับคะแนนโหวตจากนอกราชอาณาจักร

ผลการนับคะแนนปรากฏว่า พรรคซ้ายกลาง Social Democrats ได้คะแนนเสียง 28.4% โดยแม้จะเป็นคะแนนที่มากที่สุด แต่ก็ถือว่าต่ำที่สุดในรอบศตวรรษของพรรค

ขณะที่อันดับสองคือ พรรคขวากลาง Moderate party ได้ 19.8% ส่วนอันดับสามเป็นของพรรคขวาจัด Sweden Democrats ซึ่งนำโดย จิมมี อาเคสสัน ได้ 17.6% เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 12.9% ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2014 ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า เป็นผลจากการเปิดประเทศรับผู้ลี้ภัยมากถึง 163,000 คน หรือคิดเป็น 1.6% ของประชากร ในปี 2015

การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นที่จับตาจากทั่วโลกว่า สวีเดนจะ ‘หันขวา’ สนับสนุนนโยบายต่อต้านผู้อพยพเช่นเดียวกับประเทศในภูมิภาคอย่างเยอรมนี อิตาลี และออสเตรีย หรือไม่ ทั้งนี้ หลังสวีเดนมีมาตรการควบคุมพรมแดนที่เข้มงวดขึ้นเช่นเดียวกับเยอรมนี ทำให้ตัวเลขผู้อพยพรายใหม่ดิ่งลงเหลือ 23,000 คนในปีนี้

ในวันเสาร์ก่อนการเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรี สเตฟาน เลิฟเวน ผู้นำพรรค Social Democrats ย้ำกับผู้มีสิทธิออกเสียงว่า ไม่ควรลงคะแนนให้กับพรรคที่มีนโยบายเหยียดเชื้อชาติ ขณะที่ จิมมี อาเคสสัน ผู้นำพรรค Sweden Democrats ถล่มว่า ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลมัวแต่ให้ความสำคัญกับผู้ลี้ภัย และชี้ว่า สวีเดนควรต้องมีนโยบายด้านผู้อพยพที่เข้มงวดขึ้น

ทั้งนี้ มีรายงานว่าทั้ง  Social Democrats และ Moderates ต่างก็มีนโยบายหันขวามากขึ้นภายใต้แรงกดดันจาก Sweden Democrats โดยสัญญาว่าจะมีนโยบายที่แข็งกร้าวมากขึ้นในประเด็นการอพยพ การตั้งถิ่นฐานของผู้ลี้ภัยและอาชญากรรม

อย่างไรก็ตาม คะแนนรวมของกลุ่มพรรคซ้ายกลางที่นำโดย Social Democrats และกลุ่มพรรคขวากลาง ที่นำโดย Moderates อยู่ที่ 40.6% และ 40.3% ตามลำดับ ยังไม่มากพอจะจัดตั้งรัฐบาลได้ นั่นแปลว่าจะต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลผสม โดยทั้งสองขั้วใหญ่ต่างก็ประกาศว่าจะไม่จับมือกับพรรคขวาจัดอย่าง  Sweden Democrats แน่ๆ แม้ว่าอาเคสสันบอกว่าพร้อมจะคุยกับทุกพรรคก็ตาม

ด้าน อุล์ฟ คริสเตอร์สัน ผู้นำพรรค  Moderates เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี สเตฟาน เลิฟเวน ลาออกเพื่อเปิดทางให้เขาจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่เลิฟเวนยังยืนกรานจะทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะหมดวาระ

 

 

ที่มาภาพ: TT News Agency/Hanna Franzen

ที่มา:

Tags: ,