‘รูปร่างเล็ก ไม่สูงใหญ่ พละกำลังน้อย’
คำกล่าวข้างต้นคือข้อครหาของนักฟุตบอลเอเชียส่วนใหญ่ที่ใฝ่ฝันจะเก็บกระเป๋าไปลุยยังต่างแดน โดยเฉพาะลีกยุโรป จนหยั่งรากฝังลึกกลายเป็นภาพจำของวงการฟุตบอลมานานหลายทศวรรษ หากจะมีนักเตะเอเชียคนไหนที่ประสบความสำเร็จและสามารถลบล้างคำสบประมาทดังกล่าวได้บ้าง ในหัวผู้อ่านคงจะหลุดคิดขำๆ ถึงชื่อของ ‘โอโซระ สึบาสะ’ ตัวละครเอกจากการ์ตูนญี่ปุ่น เจ้าหนูสิงห์นักเตะ ที่คอมังงะน่าจะเคยอ่านผ่านตากันมา
ภายในเรื่อง ตัวเอกอย่างสึบาสะสามารถไต่เต้าจากนักฟุตบอลโรงเรียนธรรมดาๆ อย่างนันคัตสึ จนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ของทีมบาร์เซโลนา ยอดทีมแดนกระทิงดุ มิหนำซ้ำยังพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกาสเปนแบบหน้าตาเฉย แต่นั่นก็เป็นเพียงการรังสรรค์เรื่องราวผ่านปลายปากกาของ อ.โยอิจิ ทาคาฮาชิ ผู้แต่งเท่านั้น
(โอโซระ สึบาสะ ตัวละครเอกจากการ์ตูน เจ้าหนูสิงห์นักเตะ ในสีเสื้อทีมบาร์เซโลนา)
อย่างไรก็ตาม บนโลกแห่งความเป็นจริงยังมีนักเตะชาวเอเชียที่มีเรื่องราวผูกกับยอดทีมบาร์เซโลนาอยู่อีกหนึ่งคน คือ ‘ทาเคฟุสะ คุโบะ’ มิดฟิลด์ดาวรุ่ง วัย 19 ปี จากจังหวัดคานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น
คุโบะเริ่มสัมผัสประสบการณ์บนผืนหญ้าแบบจริงจังครั้งแรกตั้งแต่อายุเพียง 7 ปี กับเอฟซี เพอร์ซิมอน ทีมท้องถิ่นประจังหวัดบ้านเกิด ตามด้วยการเป็นนักเตะเยาวชนทีมคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ด้วยพรสวรรค์อันโดดเด่น ไม่นานนักชื่อของเด็กชายคุโบะถูกจึงจับจ้องจากสายตาทีมงานแมวมองระดับโลก
สี่ปีถัดมา โชคชะตาพัดพาเด็กชายสายเลือดบูชิโดสู่การสวมยูนิฟอร์มเลือดหมู-น้ำเงิน ของ ‘เอฟซี บาร์เซโลนา’ ในฐานะนักเตะเยาวชนชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ได้ตบเท้าเข้าสู่ศูนย์ฝึกลามาเซีย แหล่งสร้างนักเตะชื่อก้องโลกมากมาย ทั้ง ชาบี เอนานเดซ, อันเดรส อีเนียสตา รวมถึงสุดยอดนักเตะระดับโลกอย่าง ‘คิง เลโอ’ ลิโอเนล เมสซี
เก่งกาจแต่เยาว์วัย จนลบล้างภาพจำเดิมๆ ของนักเตะเอเชีย
หากเทียบชีวิตนักฟุตบอลของคุโบะกับตัวการ์ตูน โอโซระ สึบาสะ ทั้งคู่มีบางสิ่งที่คล้ายคลึงกัน ทั้งทักษะ พรสวรรค์ ความขยัน ซึ่งเป็นคุณสมบัติของผู้เล่นตำแหน่งเบอร์ 10 หรือแม้แต่การปรับตัวด้านวิถีชีวิต ภาษาสื่อสาร ซึ่งส่งผลให้ชีวิตนักเตะเยาวชนของคุโบะก้าวกระโดดแบบรวดเร็ว จนได้รับการยอมรับจากโค้ชผู้ฝึกสอนและเพื่อนร่วมทีมรุ่นเดียวกัน แถมยังสามารถลบล้างคำสบประมาท ความเชื่อขนบเดิมๆ ของสายตานักวิจารณ์ทั้งหลายที่มองว่าเด็กเอเชียคุณภาพด้อยไม่สมราคาหากเสี่ยงนำมาปั้นฝีเท้าต่างแดน
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ยังมีคนเปรียบเทียบผมกับเมสซี แต่ผมยังต้องพัฒนาอีกมากเพื่อจะเป็นเหมือนเขาในสักวัน”
หลังขึ้นสู่ทีมชุดอายุไม่เกิน 12 ปี (U12) คุโบะคุงจัดการถล่มประตูคู่แข่งไปถึง 74 ลูก จากการลงสนามเพียง 30 นัด ใครจะเชื่อว่าเด็กเอเชียตัวเล็กๆ คนหนึ่งกำลังถูกหมายตาให้กลายเป็นอนาคตสำคัญกับยอดทีมแคว้นคาตาลันในอนาคตอันใกล้ เพราะในช่วงปี 2012-2013 สื่อหลายเจ้าเริ่มนำเจ้าหนูคนนี้ไปเทียบกับ ลิโอเนล เมสซี ในช่วงพีคสุดๆ กับลีลา รูปร่าง และเท้าซ้ายข้างถนัด ราวกับเป็นร่างก๊อบปี้กันออกมา จนโลกเริ่มตระหนักทันทีว่า โอโซระ สึบาสะ บนโลกแห่งความจริงคงไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันไกลตัวแล้ว
ชีวิตที่ขีดเขียนด้วยปลายพู่กันไม่ได้
“มันเป็นเรื่องที่เข้าใจยากมากสำหรับเด็กอายุแค่ 13 ปี ผมไม่รู้หรอกว่าทำไมพวกเขา (บาร์เซโลนา) ถึงปล่อยตัวผมออกจากทีม ตอนนั้นผมคิดเพียงแค่ว่าอยากเล่นฟุตบอลกับทีมที่ดีที่สุดในโลกเท่านั้นเอง”
ในขณะที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย กราฟชีวิตของคุโบะต้องพลิกผันอีกครั้ง ซึ่งไม่ได้เกิดจากเขาเอง แต่เกิดจากต้นสังกัด เมื่อองค์กรฟีฟ่าทำการไต่สวนสโมสรบาร์เซโลนาย้อนหลังจากกรณีการเซ็นสัญญาซื้อตัวคุโบะที่เป็นนักเตะอายุต่ำกว่า 18 ปี แบบผิดกฎ บทสรุปของกรณีดังกล่าวทำให้ฟีฟ่าตัดสินลงดาบ แบนห้ามใช้งานตัวนักเตะทันที ครั้นจะแก้บทตัวละครแบบในการ์ตูนคงเป็นไปไม่ได้ สโมสรจึงจำใจต้องยกเลิกสัญญากับแข้งอนาคตไกลรายนี้ไป
เมื่อเป็นเช่นนั้น คุโบะจึงต้องตัดสินใจเก็บกระเป๋าออกจากลามาเซีย ระหกระเหินกลับบ้านเกิดเมืองนอนในช่วงวัย 13 ปี และเป็นทางทีมพลังเพลิงแห่งเมืองหลวงอย่าง ‘เอฟซี โตเกียว’ ที่ไม่รอช้าจัดการคว้าเพชรเม็ดงามนี้ไว้
ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป คุโบะคุงใช้พรสวรรค์บวกความมานะเรียกฟอร์มตัวเองขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่ระดับทีมสำรองของเอฟซี โตเกียว ในระดับเจลีก 3 ไล่จนมาถึงทีมชุดใหญ่ เพียง 3 ปี โลกได้ทำความรู้จักวันเดอร์คิดรายนี้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะประเทศไทยบ้านเรา จากเกมฟุตบอลเจลีกฤดูกาล 2019 ที่ทีมฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ถูกนักฟุตบอลดาวรุ่งรายนี้ใช้เท้าซ้ายไล่ฉีกแนวรับเป็นชิ้นๆ และสะท้อนกลับมายังสายตาผู้ชมอย่างเราว่า อีกไม่ช้าคงจะมีทีมยักษ์ใหญ่เจรจาคว้าตัวเด็กคนนี้ไปเป็นแน่
ไม่ใช่เรื่องเกินเลยแต่อย่างใด เพราะหลังจากนั้น ‘เรอัล มาดริด’ จัดการดึงตัวว่าที่สึบาสะไปร่วมทีมด้วยสัญญาระยะยาว 5 ปี ชนิดที่ว่าคู่รักคู่แค้นอย่างบาร์เซโลนาได้แต่มองตาปริบๆ
กลับมาที่ลาลีกาสเปนอีกครั้ง
“ถึงแม้จะเคยเล่นให้กับบาร์เซโลนา แต่เรอัล มาดริด แสดงให้เห็นถึงแผนการในอนาคต และความเชื่อมั่นที่มีต่อผม ผมรู้สึกดีมาก ทำให้ผมตัดสินใจได้ไม่ยากเลยกับการย้ายมาที่นี่”
ตอนนี้อนาคตของ ทาเคฟุสะ คุโบะ วัย 19 ปี ฝากไว้อยู่ในมือของเรอัล มาดริด ยุคก่อร่างสร้างทีมใหม่โดยบอสใหญ่ ซีเนดีน ซีดาน ซึ่งน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะทีมระดับโลกอย่างราชันชุดขาวคงไม่ซื้อนักเตะเอเชียมาเพื่อขยายฐานกลุ่มแฟนคลับอย่างแน่นอน นอกจากนักเตะคนนั้นต้องเปี่ยมด้วยพรสวรรค์จริงๆ
ฉะนั้นแล้ว น่าจับตามองว่าไม่เกิน 4-5 ปีข้างหน้า วันเดอร์คิดรายนี้จะสามารถสานต่อตำนานการเป็น โอโซระ สึบาสะ ตามที่ทั่วโลกนำไปเปรียบเทียบได้อีกครั้งหรือไม่ และอาจยิ่งใหญ่กว่ารุ่นพี่เลือดซามูไรคนอื่นๆ ผู้เคยเบิกเส้นทางค้าแข้งบนทวีปยุโรปมาแล้ว อาทิ ชินจิ คางาวะ, ชุนซูเกะ นากามูระ, ชินจิ โอกาซากิ หรือแม้กระทั่ง ฮิเดโตชิ นากาตะ แต่ก่อนอื่น คงต้องติดตามเอาใจช่วยให้คุโบะคุงพิสูจน์ตัวเองด้วยการสั่งสมประสบการณ์จากลีกสเปนกันอีกสักพัก เพราะตอนนี้เจ้าตัวกำลังถูกยืมไปเป็นแข้งสมาชิกรายใหม่แห่งถิ่นโกลีเซียมอัลฟอนโซเปเรซของทีมเกตาเฟ จนจบฤดูกาล 2020-2021 หลังมาดริดปล่อยไปอยู่กับทีมบิยาร์เรอัลเมื่อช่วงครึ่งฤดูกาลแรกด้วยสัญญายืมตัวเช่นกัน
ต้องกล่าวว่าช่างน่าอิจฉาชาวญี่ปุ่นเหลือเกินที่มีไอคอนของนักฟุตบอลทั้งบนโลกแห่งจินตนาการและโลกแห่งความจริง ถ้าวันหนึ่งผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเราจะสนับสนุนให้เด็กมองสิ่งเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจบ้างก็คงจะดีไม่น้อย
อ้างอิง:
– www.marca.com/en/football/real-madrid/2019/10/18/5da8f877268e3eec168b45d0.html
– www.fourfourtwo.com/features/takefusa-kubo-real-madrid-barcelona-mallorca-japan-wonderkid-la-liga
– www.goal.com/en/player/takefusa-kubo/1qkep5ck252k1g3oqza5ygh61
Tags: Sport, Football, Barcelona, Takefusa Kubo, Ozora Tsubasa, RealMadrid