สายรุ้งไม่เพียงงดงาม หากยังเป็นความมหัศจรรย์ทางวิทยาศาสตร์ นอกจากนั้นยังเป็นสัญลักษณ์สำหรับ LGBT (Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender) ในบางความเชื่อ รุ้งหมายถึงสะพานที่ทอดข้ามไปสู่โลกของเทพเจ้าทางเหนืออีกด้วย

รุ้งเกิดขึ้นได้อย่างไร?

สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือ เราเห็นปรากฏการณ์สีดังกล่าวบนท้องฟ้าได้อย่างไร?

พื้นฐานของรุ้งเป็นแสงแดด ซึ่งเรามองว่าเป็นสีขาว แต่ถ้าแสงหักด้วยปริซึม เราจะเห็นความยาวคลื่นเป็นสีที่ต่างกัน รุ้งกินน้ำเกิดขึ้นได้เมื่อแสงแดดกระทบกับน้ำฝนในชั้นบรรยากาศ ทุกหยดจะสะท้อนสีเหมือนปริซึม ที่แสงจะแตกออกเป็นส่วนประกอบหลายสี ทำให้เกิดปรากฏการณ์สภาพอากาศที่งดงามที่สุดเท่าที่ธรรมชาติจะหยิบยื่นให้

รุ้งมีสีอะไรบ้าง?

จากด้านนอกสู่ด้านใน รุ้งเกิดจากสีแดง ส้ม เหลือง เขียว ฟ้า คราม และม่วง ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ สีเหลืองคือ ‘yellow’ เป็นสีซึ่งเด็กๆ จดจำได้จากตัวละคร ‘รอย จี. บิฟ’ (Roy G. Biv) ในหนังสือการ์ตูนที่ประกอบด้วยตัวอักษรเริ่มแรกของสี

“รอย จี. บิฟ เป็นคนที่มีสีสัน และเขายืนอยู่ที่ปลายรุ้งอย่างภาคภูมิใจ”

เราสามารถมองเห็นรุ้งได้ดีที่สุดจากตรงไหน?

ที่ดีที่สุดในการละเล่นของสีคือ ช่วงที่ท้องฟ้ายังครึ้มอยู่ก่อนพายุฝนกระหน่ำ หรือช่วงแดดออกหลังฝนตก ให้ยืนอยู่ในตำแหน่งที่มีแสงแดด สีรุ้งจะปรากฏเด่นชัดที่สุดบนฉากหลังที่เป็นสีดำ

รุ้งคู่เกิดขึ้นได้อย่างไร?

บางครั้งเราอาจเห็นรุ้งสองสายในเวลาเดียวกัน กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อน้ำฝนทำให้เกิดแสงสะท้อนของดวงอาทิตย์เป็นสองเท่า ในรุ้งสายที่สองจะสะท้อนแสงจาง และสีจะเรียงในทางกลับกัน ด้านนอกจะเริ่มด้วยสีม่วง คราม และ…

รุ้งในความหมายของ LGBT คืออะไร?

ธงรุ้งโบกสะบัดในงาน Pride ของเกย์หลายแห่ง สัญลักษณ์แห่งสีสันมีจุดมุ่งหมายเพื่อสะท้อนถึงความหลากหลายของ Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender ธงรุ้งของการเคลื่อนไหวได้รับการออกแบบในทศวรรษ 1970 โดยกิลเบิร์ต เบเกอร์ (Gilbert Baker) ศิลปินจากซาน ฟรานซิสโก

ธงรุ้งซึ่งใช้เป็นหลักตั้งแต่ปี 1979 ไม่ได้เป็นสีทั้งหมดเหมือนสายรุ้งจริง แต่ประกอบด้วยสีแดง ส้ม เหลือง เขียว ฟ้า และม่วงเท่านั้น ไม่มีสีคราม

มีอะไรรออยู่ที่ปลายสายรุ้ง?

หม้อซึ่งเต็มไปด้วยทองคำ อย่างน้อยนั่นก็ปรากฏในตำนานของชาวไอริช เรื่องเล่าเกี่ยวกับสมบัติที่ปลายสายรุ้งมีอยู่ในหลายวัฒนธรรม แต่ปัญหาก็คือ สายรุ้งไม่มีจุดสิ้นสุดที่แท้จริง มันไม่มีอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งแห่งใดอย่างชัดเจน เราจะเห็นมันได้ก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่เรายืน และตำแหน่งที่เราสังเกตเห็นการสะท้อนของแสง

แต่ละประเทศมีตำนานของสายรุ้งแตกต่างกันไป ในประเทศนอร์เวย์มีความเชื่อว่าสายรุ้งเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับ ‘อัสการ์ด’ อาณาจักรเทพเจ้านอร์ดิก มีเพียงเทพเจ้าหรือมนุษย์ที่เสียชีวิตในสงครามเท่านั้นที่สามารถเดินข้ามได้

ในบางประเทศแถบยุโรปตะวันออก เชื่อกันว่าผู้ชายที่เดินอยู่ใต้สายรุ้งจะกลายเป็นผู้หญิง และในทางกลับกัน ผู้หญิงจะกลายเป็นผู้ชาย และสำหรับผู้คนในหลายประเทศ เชื่อว่าสายรุ้งคือตัวแทนของวิญญาณชั่วร้าย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เด็กๆ ไม่ได้รับอนุญาตให้จ้องมองรุ้งกินน้ำบนท้องฟ้า ส่วนในประเทศไทยก็เชื่อกันว่า หากใครชี้นิ้วไปที่รุ้งกินน้ำแล้วนิ้วจะด้วน หรือหากมีรุ้งกินน้ำขึ้นทางทิศตะวันตก เชื่อว่าฝนจะตก ถ้าขึ้นทางทิศตะวันออก เชื่อว่าจะดี

ปลายทางสีรุ้งของชาว LGBT

สมาคม ILGA (International Lesbian, Gay, Bisexual, Trans and Intersex Association) รายงานล่าสุดว่า โฮโมเซ็กชวลใน 72 ประเทศยังเป็นสิ่งต้องห้ามทางกฎหมาย และบางประเทศมีบทลงโทษรุนแรง อย่างในอิหร่าน บัญญัติโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตสำหรับใครที่มีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ส่วนในเคนยา โอมาน และมาเลเซีย มีโทษจำคุกนานหลายปี

ที่ไหนเป็นมิตรและปลอดภัย?

Spartacus Gay Travel Index ซึ่งจัดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับ LGBT มาตั้งแต่ปี 2012 ได้จัดอันดับประเทศบนโลกใบนี้จำนวน 197 ประเทศ ว่าที่ไหนเปิดกว้าง เป็นมิตร และปลอดภัยสำหรับ LGBT ที่ต้องการเดินทาง โดยใช้เกณฑ์วัดจากกฎหมายต่อต้านการเหยียดเพศ กฎหมายแต่งงานสำหรับทุกเพศ กฎหมายห้ามมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน ข้อจำกัดเรื่องการท่องเที่ยว อิทธิพลทางศาสนา อาชญากรรมและฆาตกรรมที่เกิดกับนักท่องเที่ยว รวมทั้งระวางโทษสำหรับ LGBT

การจัดอันดับนี้ไม่ใช่เชิงแนะนำ หากเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของนักเดินทาง

ประเทศไหนติดอันดับต้นๆ?

แคนาดาและสวีเดนติดอันดับหนึ่ง เป็นสองประเทศที่ ‘gay friendly’ มากที่สุดในโลก จากเกณฑ์วัดทั้งหมดที่กล่าวมา อันดับสามมีทั้งหมด 12 ประเทศ ได้แก่ เบลเยียม เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ไอซ์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ส นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ รียูเนียน สเปน และสหราชอาณาจักร

สหรัฐอเมริกาซึ่งได้ชื่อว่าอุดมไปด้วยเสรีภาพ หลังจากรัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามลิดรอนสิทธิของกลุ่ม Transgender อันดับก็ถอยร่นจากปีกลายลงไป 5 ตำแหน่ง โดยอยู่อันดับที่ 39 ส่วนประเทศไทยซึ่งเห็นวี้ดว้ายกระตู้วู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง เขาจัดให้เราอยู่ที่อันดับ 67 ไม่ติดฝุ่นไต้หวัน และตามหลังกัมพูชา ญี่ปุ่น จีน/ฮ่องกงด้วยซ้ำ

ประเทศไหนรั้งอันดับท้าย?

Spartacus Gay Travel Index ระบุว่า ประเทศรั้งท้ายคือสาธารณรัฐเชเชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย เหตุผลเพราะเมื่อปี 2017 รัฐบาลทำการกวาดล้างและสังหารโฮโมเซ็กชวลอย่างเปิดเผย

ส่วนประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของการท่องเที่ยวอย่างสาธารณรัฐโดมินิกัน (อันดับ 143) มัลดีฟส์ (อันดับ 157) โฮโมเซ็กชวลถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย รวมทั้งจาไมกา (อันดับ 174) ซึ่งอยู่ปลายลิสต์เช่นกัน แต่ประเทศในทะเลแคริบเบียนก็มีคำยืนยันจากหน่วยงานการท่องเที่ยวของรัฐ แจ้งว่า

“ประชากรส่วนใหญ่เป็นมิตรกับโฮโมเซ็กชวล”  

 

อ้างอิง:

www.dw.com

https://spartacus.travel/gaytravelindex.pdf

Spiegel Online

Tags: , , , , , ,