เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมารัฐบาลเพิ่งออกร่างแผนการแก้ปัญหาสุขภาพที่สามารถป้องกันได้ในอนาคต ภายใต้ชื่อ ‘Advancing our health: prevention in the 2020s’ และหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่น่ากังวลในแผนสุขภาพนี้ก็คือผลกระทบที่เป็นอันตรายจากการสูบบุหรี่ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพของชาติที่ได้รับการปรับปรุงในปีที่ผ่านมา และส่งผลในทางที่ดีขึ้น
โดยที่ประเทศอังกฤษเป็นประเทศที่มีอัตราการสูบบุหรี่ต่ำที่สุดในยุโรป คิดเป็นสัดส่วนคือผู้ใหญ่ 6 คน มีเพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่สูบบุหรี่ หรือคิดเป็น 14% ของประชากรที่เป็นผู้ใหญ่
แม้จะต่ำที่สุดในยุโรปแต่ก็ยังถือเป็นความเสี่ยงต่อสุขภาพ ดังนั้นรัฐบาลอังกฤษจึงตั้งเป้าที่จะทำให้ประเทศอังกฤษเป็นประเทศปลอดบุหรี่ให้ได้ภายในปี 2030 ซึ่งแผนนี้ไม่ได้กำหนดเฉพาะคนที่สูบบุหรี่เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงอุตสาหกรรมการผลิตบุหรี่อีกด้วย ซึ่งจะต้องเลิกผลิตภายในปี 2030 เช่นเดียวกัน เพื่อทำให้คนเลิกสูบบุหรี่หรือหันไปสูบในโปรดักส์ที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพน้อยกว่าอย่างบุหรี่ไฟฟ้าแทน
อังกฤษมีมาตรการในการจัดการการสูบบุหรี่มาอย่างต่อเนื่องโดยเป็นชาติแรกที่อกกฎหมายห้ามสูบบุรี่ในที่สาธารณะในปี 2007 และเมื่อสองปีที่แล้วรัฐบาลได้ออกแผนการควบคุมบุหรี่ในอังกฤษออกมา โดยมีเป้าหมายลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ในผู้ใหญ่จากเดิม 15.5 % ให้เหลือเพียง 12% ภายในปี 2022
อย่างไรก็ตาม ร่างแผนสุขภาพ Advancing our health: prevention in the 2020s นี้ รัฐบาลอังกฤษกำหนดให้คนทั่วไปสามารถออกความคิดเห็นเพื่อนำไปปรับปรุงต่อได้ โดยมีการเปิดให้ประชาชนสามารถเข้าไปอ่านหรือดาวน์โหลดได้ในเว็บไซต์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งยังเปิดช่องทางออนไลน์ให้สามารถรีวิวหรือใส่ความคิดเห็นลงไปได้ด้วย ซึ่งจะปิดการให้แสดงความคิดเห็นในวันที่ 14 ตุลาคม ก่อนที่จะนำความคิดเห็นทั้งหมดไปปรับปรุงพัฒนาและออกมาเป็นแผนที่สมบูรณ์และมาตรการจากทางรัฐบาลต่อไปในอนาคต
ที่มา:
https://www.independent.co.uk/life-style/health-and-families/smoking-ban-uk-end-cigarettes-tobacco-health-green-paper-a9016636.html
https://www.bbc.com/news/health-49079515
https://www.mirror.co.uk/news/uk-news/uk-plans-smoke-free-nation-18679225
ภาพ : Andrew Winning/REUTERS