เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบียกระทำการประหารชีวิตนักโทษทั่วประเทศรวม 37 คน ส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยนิกายชีอะห์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย นอกจากนี้ยังมีการตรึงร่างของผู้ที่ถูกประหารชีวิตในที่สาธารณะ และตัดหัวของนักโทษหัวรุนแรงซุนนีห์เสียบเสาประจานเพื่อเตือนผู้อื่นไม่ให้กระทำความผิดตาม

การประหารชีวิตครั้งนี้มีขึ้นในหลายพื้นที่ ทั้งในพื้นที่จังหวัดริยาดห์ เมกกะ เมดินา และเมืองหลวงอย่างซาอุแคปิตัล ผู้ถูกประหารชีวิตอย่างน้อย 14 คนถูกตัดสินว่ากระทำความผิดรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมในการประท้วงต่อต้านรัฐบาล

หนึ่งในนักโทษถูกตรึงกางเขนตามคำแถลงการณ์ของกระทรวงมหาดไทยซึ่งดำเนินการโดยสำนักข่าวของซาอุดิอาระเบีย ปกติแล้วการประหารชีวิตมักกระทำโดยการตัดหัว ส่วนการตรึงกางเขนหลังจากการประหารชีวิตนั้นจะเกิดขึ้นหากเจ้าหน้าที่ลงความเห็นว่ามีความผิดขั้นรุนแรง

การประหารชีวิตครั้งนี้ซึ่งกระทำภายในวันเดียวทั้ง 37 คน นับเป็นการประหารชีวิตครั้งใหญ่ที่สุดในวันเดียว ตั้งแต่ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2016 ซึ่งในครั้งนั้นได้ประหารชีวิตนักโทษไปถึง 47 คนจากข้อหาเดียวกันก็คือ ก่ออาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย จากรายงานขององค์การนิรโทษกรรมระบุว่าในปีนี้ในซาอุดิอาระเบียมีผู้ถูกประหารชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 104 คน และในปี 2561 ที่ผ่านมามีการประหารชีวิตสูงถึง 149 คน

กล่าวกันว่าการประหารชีวิตครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความตึงเครียดในระดับภูมิภาคโดยเฉพาะระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน

อ้างอิง:

https://www.cnbc.com/2019/04/24/saudi-arabia-beheads-37-for-terrorism-most-of-them-were-shiites.html

https://www.bbc.com/news/world-middle-east-48028518

https://www.pbs.org/video/news-wrap-saudi-arabia-beheads-37-in-mass-execution-1556062426/

ภาพโดย: Murad Sezer /REUTERS

 

Tags: