วันนี้ (14 เมษายน 2025) สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ประธานาธิบดีจีน ประกาศระหว่างการเยือนประเทศเวียดนามว่า พร้อมร่วมมือกับชาติอาเซียนเพื่อรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานโลก ย้ำไม่มีใครเอาชนะจาก ‘สงครามการค้า’ ท่ามกลางความตึงเครียดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้านนักวิเคราะห์เชื่อว่า จีนกำลังแสดงบทบาทผู้นำแทนสหรัฐอเมริกา
สี จิ้นผิง มีกำหนดการเยือน 3 ประเทศในอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 14-18 เมษายน โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนย้ำว่า การเดินทางครั้งนี้มีความสำคัญมาก ทั้งเป็นการทูตเชิงรุก และเน้นย้ำบทบาทในเชิงสร้างสรรค์ของจีน หลังสหรัฐฯ ภายใต้ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดฉากสงครามการค้าอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้จีนและเวียดนามต้องเผชิญภาษีนำเข้า 145% และ 46% ตามลำดับ
สำหรับการเดินทางเยือนเวียดนามของจีนครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 18 เดือนที่ผ่านมา โดยสำนักข่าว Reuters คาดว่า รัฐบาลจีนต้องการกระชับความสัมพันธ์กับเวียดนาม ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน และคู่ค้าลงทุนที่ได้กำไรจากธุรกิจจากจีนแผ่นดินใหญ่มูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท) ขณะที่เวียดนามยังเป็นหนึ่งใน ‘ทางหนีที่ไล่’ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีจากสงครามการค้า หลังบริษัทยักษ์ใหญ่ในจีนเตรียมย้ายฐานการผลิตสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ Nhandan สื่อท้องถิ่นภายใต้พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เปิดเผยวิสัยทัศน์ของผู้นำจีน โดย สี จิ้นผิง ย้ำว่า ไม่มีชาติใดในโลกชนะจากสงครามการค้าและสงครามภาษี ซึ่งการกีดกันทางการค้าไม่ใช่ทางออก พร้อมกับเรียกร้องแสวงหาความร่วมมือระหว่างอาเซียน ผ่านกลไกในภูมิภาคอย่างความร่วมมือเอเชียตะวันออก (East Asia Cooperation) หรือความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง (Lancang-Mekong Cooperation: MLC) เพื่อสร้างเสถียรภาพและพลังงานดีๆ ให้กับโลกที่กำลังวุ่นวายในขณะนี้
“เราต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องการค้าพหุภาคี และส่งเสริมเสถียรภาพอุตสาหกรรมทางการค้า และห่วงโซ่อุปทาน พร้อมทั้งรักษาบรรยากาศในโลกระหว่างประเทศที่เปิดกว้างอยู่เสมอ” สี จิ้นผิงกล่าว
นอกจากความร่วมมือรับมือสงครามการค้า Reuters ยังรายงานว่า เวียดนามและจีนเตรียมลงนามในข้อตกลงราว 40 ฉบับ ขณะที่ โต ลัม (To Lam) ผู้นำสูงสุดพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเปิดเผยว่า เวียดนามต้องการเจรจาส่งเสริมความร่วมมือกับจีนในด้านความมั่นคง การทหาร สาธารณูปโภค รวมถึงการสร้างรถไฟ หลังเวียดนามกู้เงินจากจีนมูลค่า 8,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อลงทุนสร้างรถไฟเชื่อมโยง 2 ประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
สตีเฟ่น โอลสัน (Stephen Olson) Visiting Senior Fellow จาก ISEAS – Yusof Ishak Institute วิเคราะห์เบื้องหลังการเยือนประเทศอาเซียนของสี จิ้นผิง ในครั้งนี้ว่า จีนกำลังพยายามเล่นบทบาทนำในฐานะ ‘มหาอำนาจที่มีความรับผิดชอบ’ โดยปกป้องระเบียบการค้าเสรี ขณะที่พยายามวาดภาพให้สหรัฐฯ ผู้สร้างระเบียบ กลายเป็น ‘รัฐอันธพาล’ ที่พยายามสร้างกฎระเบียบ และไม่ว่าการเยือนครั้งนี้จะมีข้อตกลงเป็นรูปธรรมหรือไม่ แต่มันมีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ต่อโลก
ขณะที่รายงานพิเศษจาก Reuters ยังเผยข้อมูลจากแหล่งข่าววงใน 4 คนว่า เจ้าหน้าที่จีนภายในได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมกับสงครามการค้า พร้อมเร่งดำเนินนโยบายกระชับสัมพันธไมตรีทางการทูต โดยหวังให้ประเทศอื่นๆ ตอบโต้สหรัฐฯ จากมาตรการกีดกันทางการค้าครั้งนี้
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สี จิ้นผิงเดินทางไปเยือนสเปน โดยพบกับ เปโดร ซานเชซ (Pedro Sánchez) นายกรัฐมนตรีสเปน พร้อมกับย้ำว่า จีนและยุโรปควรยืนข้างกันเพื่อต่อต้านการกลั่นแกล้งจากสหรัฐฯ ขณะที่ หลี่ เฉียง (Li Qiang) นายกรัฐมนตรีจีนย้ำต่อคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission: EC) ว่า ทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนระเบียบการค้าที่ผ่านการปฏิรูปอย่างเป็นธรรม เสรี และตั้งอยู่บนพื้นฐานความเท่าเทียม
อ้างอิง
Tags: จีน, อาเซียน, Trade War, สงครามการค้า, เวียดนาม, สหรัฐอเมริกา, สี จิ้นผิง