อันโตนิโอ กูเตอร์เรส (António Guterres) เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN) ระบุเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า สงครามในซูดานกำลังลุกลามเกินควบคุม พร้อมเรียกร้องให้ยุติสงครามและการใช้ความรุนแรงโดยเร็วที่สุด

ขณะที่อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) กล่าวว่า กำลังรวบรวมหลักฐานการฆ่าสังหารหมู่และการใช้ความรุนแรงเพื่อใช้เป็นหลักฐานต่อการดำเนินคดีข้อหาอาชญากรรมสงครามต่อไปในอนาคต

ท่าทีเหล่านี้ของบรรดาองค์การระหว่างประเทศที่มีต่อสถานการณ์ในซูดาน ณ ตอนนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงในซูดาน ที่ทั่วโลกควรต้องหันมาให้ความสนใจ

เกิดอะไรขึ้นที่ซูดาน

วิกฤตการณ์ความเลวร้ายเริ่มต้นขึ้นเมื่อประธานาธิบดี อุมัร อัลบะชีร (Omar al-Bashir) ซึ่งอยู่ในอำนาจและปกครองซูดานมายาวนานกว่า 30 ปี ถูกขับไล่ออกจากตำแหน่ง นำมาสู่การแย่งชิงอำนาจในการปกครองประเทศระหว่างกองกำลังติดอาวุธซูดาน SAF ที่นำโดย พลเอก อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน (Abdel Fattah al-Burhan) กับกองกำลังกึ่งทหาร RSF ที่นำโดย พลเอก โมฮาเหม็ด ฮัมดัน ดากาโล (Mohamed Hamdan Dagalo) หรือที่รู้จักในชื่อ ‘เฮเมดติ’ (Hemedti) จนนำไปสู่การเปิดฉากสงครามกลางเมืองในเดือนเมษายน 2023

ต่อมาสงครามดังกล่าวยกระดับความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ภายหลังจากที่กองกำลัง RSF สามารถเข้ายึดเมืองเอลฟาเชอร์ เมืองหลวงของภูมิภาคดาร์ฟรู ได้สำเร็จเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา 

ภาพ: The Economist

จุดเปลี่ยนในครั้งนี้มีความสำคัญ เนื่องจากเมืองดังกล่าวเคยเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของกองกำลัง SAF อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญในแง่ยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าเชื้อเพลิงและอาวุธจากลิเบียและชาด นั่นหมายความว่าการเข้ายึดครองเมืองนี้จะช่วยให้กองกำลัง RSF มีโอกาสได้ควบคุมพื้นที่ทางตะวันตกของซูดานได้เกือบจะทั้งหมดและทำให้กองกำลัง RSF สามารถขึ้นมาถือไพ่อำนาจเหนือกว่ากองกำลัง SAF ได้

ทางตันของวิกฤตด้านมนุษยธรรม

ภายหลังที่กองกำลัง RSF เข้ายึดครองเมืองเอลฟาเชอร์ได้เพียงแค่ 48 ชั่วโมงแรก มีพลเรือนเสียชีวิตแล้วมากกว่า 2,000 ราย และทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนต้องไร้ที่อยู่และอพยพออกจากเมืองมากกว่า 7 หมื่นคน เกิดการปล้นสะดมและการสังหารหมู่ มีการใช้ความรุนแรงทางเพศต่อเด็กและผู้หญิง รวมถึงเกิดวิกฤตทางด้านอาหารและยา

“กองกำลัง RSF เริ่มขุดหลุมศพเพื่อฝังศพพลเรือนไปทั่วเมืองแล้ว” นาทาเนียล เรย์มอนด์ (Nathaniel Raymond) ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการวิจัยด้านมนุษยธรรม จาก Yale University ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Al Jazeera และยังกล่าวเสริมอีกว่า “การฆ่าสังหารหมู่ในครั้งนี้รุนแรงในระดับที่ว่าสามารถเห็นจุดเลือดได้จากภาพถ่ายทางดาวเทียม”

แม้เลขาธิการสหประชาชาติจะเรียกร้องให้มีการเจรจาสันติภาพระหว่าง 2 ฝ่าย และยุติสงครามโดยเร็วที่สุด แต่หนทางในการหันหน้าเพื่อเจรจายังคงยากที่จะเกิดขึ้นในเร็ววัน ขณะที่ในอีกด้านหนึ่งเจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมก็ยังคงเฝ้ารอให้กองกำลัง RSF เปิดพื้นที่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมให้กับประชาชน ที่กำลังรอความช่วยเหลืออย่างมีความหวังอยู่เช่นกัน

ที่มา:

https://www.france24.com/en/africa/20251029-genocide-warnings-flashing-red-after-rsf-takeover-of-sudan-s-el-fasher

https://www.aljazeera.com/news/2025/11/4/rsf-digging-mass-graves-in-sudans-el-fasher-to-clean-up-massacre-expert

https://www.theguardian.com/world/2025/nov/04/sudan-civil-war-spiralling-out-of-control-un-secretary-general-says

https://www.reuters.com/world/africa/icc-prosecutors-probing-reports-mass-killings-sudans-al-fashir-2025-11-03/

https://www.aljazeera.com/news/2025/11/2/humanitarian-disaster-worsens-across-sudan-after-rsf-takes-over-el-fasher

Tags: , , , ,