วันนี้ (23 มิถุนายน 2025) สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โพสต์เงื่อนไขผู้สมัครวีซ่าบน Facebook: U.S. Embassy Bangkok ว่า ผู้สมัครวีซ่าชั่วคราวต้องตั้งค่าโซเชียลมีเดียเป็นสาธารณะเพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา The Guardian รายงานว่า มาตรการข้างต้นเป็นนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เพื่อคุ้มครองภัยก่อการร้ายต่อประเทศ
สถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยโพสต์ว่า ผู้สมัครวีซ่าชั่วคราวประเภท F, M หรือ J ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับนักเรียนต่างชาติในสหรัฐฯ ต้องตั้งค่าโซเชียลมีเดียส่วนตัวเป็น ‘สาธารณะ’ เพื่อให้ทางการยืนยันตัวตน โดยข้อกำหนดนี้มีผลบังคับใช้ทันที
มาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางหลักของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ โดยวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า นักเรียนต่างชาติในสหรัฐฯ ต้องเปิดโซเชียลมีเดียเป็นสาธารณะ เพื่อให้ทางการตรวจสอบว่า มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศ เช่น พลเมือง วัฒนธรรม รัฐบาล สถาบัน และหลักคุณค่าของประเทศหรือไม่ เช่น การสนับสนุนกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญในการได้วีซ่า โดยหากใครไม่ทำตามจะถือว่าเป็นการปกปิดข้อมูลจากทางการสหรัฐฯ
นอกจากนี้สำนักข่าว Politico ยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข่าวว่า นักการทูตและเจ้าหน้าที่กงสุลสหรัฐฯ ทุกคน ต้องตรวจสอบข้อมูลเป็นพิเศษว่า ผู้สมัครคนใดทำกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งมาตรการดังกล่าวสอดรับกับสถานการณ์ในประเทศ หลังรัฐบาลของ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) พยายามจัดการกับกลุ่มสนับสนุนปาเลสไตน์ในมหาวิทยาลัยที่สหรัฐฯ ไปพร้อมกับนโยบายปราบปรามผู้อพยพ
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำว่า ชาวอเมริกันต้องการให้รัฐบาลดำเนินนโยบาย เพื่อทำให้ประเทศปลอดภัย ขณะที่ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำว่า มาตรการนี้จะทำให้ประเทศกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง มหาวิทยาลัยจะปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะก้าวหน้า พร้อมเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21
อ้างอิง
– https://www.theguardian.com/us-news/2025/jun/18/social-media-student-visa-screening
– https://www.politico.com/news/2025/06/18/social-media-screening-student-visas-00413160