วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (21 พฤศจิกายน 2564) ประธานาธิบดี มุน แจ-อิน (Moon Jae-In) แห่งเกาหลีใต้ เปิดเวทีการประชุมเพื่อตอบคำถามร่วมกับประชาชนกว่าสามร้อยคน ผ่านช่องของสถานีโทรทัศน์ KBS โดยเป็นการคัดเลือกผู้เข้าร่วมตามเพศ อายุ และภูมิภาค
การประชุมแบ่งเป็นผู้ที่มาร่วมในงานโดยตรง 204 คน และผู้ที่เข้าร่วมทางออนไลน์ 100 คน
เนื่องจากเป็นการประชุมในลักษณะเปิดเวทีครั้งแรกในรอบสองปี จึงมีความคาดหวังสูงสำหรับการได้ฟังแนวคิดของประธานาธิบดี เกี่ยวกับการจัดการของภาครัฐกับหลายปัญหาในสังคม อย่างไรก็ดี ระหว่างการตอบคำถามที่ยาวนานกว่า 100 นาที กลับมีเสียงวิจารณ์ว่า ผู้ที่เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ยกย่องความสำเร็จของมุน มากกว่าการถามเกี่ยวกับประเด็นทางสังคมที่เร่งด่วนและละเอียดอ่อน เช่น ปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ คำถามส่วนใหญ่ของผู้เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ในเกาหลี แต่เป็นการเน้นไปที่การแสดงความชื่นชมในความพยายามของรัฐในการการฉีดวัคซีนและมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม มากกว่าที่จะวิพากษ์วิจารณ์ความล่าช้าของรัฐในการจัดหาวัคซีนที่เพียงพอ หรือการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่ยืดเยื้อ
“มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมของเกาหลีใต้ประสบความสำเร็จอย่างเห็นได้ชัด และเป็นที่ยอมรับของประชาคมระหว่างประเทศ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะประธานาธิบดีของเรา” หนึ่งในผู้เข้าร่วมกล่าวระหว่างการประชุม
นอกจากนี้ยังมีคำถามอีกหลายข้อ เช่น การเพิ่มจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ มาตรการจูงใจให้ประชาชนฉีดวัคซีน การรักษาช่องปากจากโควิด-19 การสนับสนุนศิลปิน และการสร้างงานในระยะยาว แต่หลายคนมองว่า คำถามเหล่านี้ยังห่างไกลจากประเด็นที่ละเอียดอ่อนของสังคมเกาหลีใต้ และมองว่าประธานาธิบดีมุนก็ให้คำตอบอย่างง่ายๆ ในมุมมองที่กว้างเกินไป
บรรยากาศดังกล่าวทำให้ผู้คนจำนวนมากที่ร่วมชมงานระบุว่า เหมือนเวทีการประชุมไม่ได้ทำหน้าที่ตามวัตถุประสงค์ที่ควรจะเป็น แต่เหมือนเป็นงาน ‘แฟนมีตติ้ง’ มากกว่า
“มันเหมือนงานแฟนมีตติ้งกับศิลปินป็อปสตาร์เลย” จอง จุน-ฮยอง (Jung Jun-Hyung) พนักงานออฟฟิศในกรุงโซล วัย 34 ปี ที่ชมการประชุมกล่าว “น่าประหลาดใจเล็กน้อยที่ไม่มีใครถามอย่างจริงจังเกี่ยวกับปัญหาในการซื้อหรือเช่าบ้านในกรุงโซล แม้ว่ามุนจะเคยบอกว่า เขารู้สึกเสียใจกับความล้มเหลวของนโยบายอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล แต่ผู้คนไม่สนใจคำขอโทษของเขาหรอก พวกเขาต้องการรู้ว่ารัฐบาลจะควบคุมสินเชื่อและเก็บภาษีอย่างไรในอนาคตต่างหาก”
แม้ว่าประธานาธิบดีมุนจะตอบคำถามจำนวน 25 ข้อจากผู้เข้าร่วมครบ แต่กลับไม่มีการพูดถึงเรื่องอื้อฉาวด้านการพัฒนาที่ดินครั้งใหญ่ในเมืองซองนัม จังหวัดคยองกี หรือเรื่องที่อดีตอัยการสูงสุด ยุน ซอก-ยูล (Yoon Seok-youl) กลายเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีพรรคฝ่ายค้าน หลังมีประเด็นพิพาทกับประธานาธิบดีมุน ในการสืบสวนข้อกล่าวหาการทุจริตของผู้ช่วยใกล้ชิดของเขา
วันจันทร์ที่ผ่านมา สำนักข่าว New Daily รายงานว่า หนึ่งในผู้เข้าร่วมการประชุมคือ ‘ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีมุนอย่างกระตือรือร้น’ โดยอ้างจากเอกสารของสถานี KBS และกล่าวหาว่า มีสคริปต์ที่เตรียมไว้สำหรับการประชุมดังกล่าว แต่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีมุนปฏิเสธว่า ‘ไม่เป็นความจริงอย่างยิ่ง’ และ ‘เป็นไปไม่ได้ที่ฝ่ายบริหารจะทราบคำถามก่อนการประชุม”
ท้ายที่สุด การประชุมจบลงโดยที่ผู้ชมไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับการจัดการปัญหาที่ค้างอยู่ของรัฐ หลายคนจึงมีข้อวิจารณ์ว่า การประชุมดังกล่าวเป็นเพียงเวทีที่ช่วยให้มุนได้ยกย่องความสำเร็จของรัฐ และปิดฉากตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาใน ‘สภาพแวดล้อมที่เป็นกันเอง’ ก่อนที่เกาหลีใต้จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ในปีหน้า
ในโพลล่าสุด คะแนนนิยมของมุนอยู่ที่ประมาณ 40% แม้ว่าตัวเลขนี้จะสูงกว่าอดีตประธานาธิบดีคนอื่นหากนับเฉพาะช่วงท้ายของการดำรงตำแหน่ง แต่ประชาชนส่วนใหญ่ดูเหมือนจะไม่พอใจกับนโยบายของมุนในช่วง 4 ปีครึ่งที่ผ่านมา หลายฝ่ายมองว่า ถึงเวลาแล้วที่ประธานาธิบดีมุนจะให้ความสำคัญกับคำวิพากษ์วิจารณ์มากกว่าแค่คำชม
Tags: SouthKorea, MoonJaIn