วันนี้ (25 สิงหาคม 2025) อินเดียเปิดแผนสร้างเขื่อนใหญ่ที่สุดในประเทศ คาดรับมือภัยคุกคามทางภูมิรัฐศาสตร์จากจีน หลังเริ่มเมกะโปรเจ็กต์สร้างเขื่อนยาร์ลุงซางโป (Yarlung Tsangpo) เขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อรองรับการผลิตพลังงาน ด้านผู้เชี่ยวชาญมองปรากฏการณ์ดังกล่าวกระทบต่อภูมิรัฐศาสตร์ในเอเชียใต้อย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้รายงาน Exclusive จาก Reuters เผยว่า อินเดียกลับมาพิจารณาแผนการสร้างเขื่อนในรัฐอรุณาจัลประเทศภายใต้โครงการ Siang Upper Multipurpose Project (SUMP) ที่มีมูลค่า 13.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4.27 แสนล้านบาท) และมีศักยภาพสามารถกักเก็บน้ำได้ถึง 9 พันล้านลูกบาศก์เมตร โดยระบุเหตุผลด้าน ‘ความจำเป็นทางยุทธศาสตร์’ และเพื่อควบคุมการไหลของแม่น้ำในหน้าแล้ง

หากย้อนกลับไป แผนการสร้างเขื่อนของอินเดียเคยถูกเสนอตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 2000 แต่ได้รับเสียงต่อต้านและข้อวิจารณ์จากสาธารณะ เพราะวัตถุประสงค์การสร้างเขื่อนคือ การควบคุมทิศทางน้ำจากธารน้ำแข็งอังซี (Angsi) ในทิเบต คือแม่น้ำเซียง (Siang) หรือแม่น้ำยาร์ลุงซาร์โปในภาษาจีน ซึ่งไหลลงสู่รัฐอรุณาจัลประเทศ อัสสัม พรหมบุตร คงคา แม่น้ำในบังกลาเทศและอ่าวเบงกอล ถือเป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญ และสายธารที่หล่อเลี้ยงปากท้องของ 3 ประเทศในเอเชียใต้อย่างจีน อินเดีย และบังกลาเทศ

แม้ชนพื้นเมืองในรัฐอรุณาจัลประเทศออกมาคัดค้านโครงการ SUMP หลังเกิดเหตุปะทะในการประท้วงขั้นรุนแรง และศาลสูงกูวาฮาติ (Gauhati) ในรัฐอัสสัม ออกคำสั่งให้รัฐยกเลิกแผนดังกล่าวในปี 2022 แต่ดูเหมือนว่า ล่าสุดรัฐบาลของ นเรนทรา โมดี (Narendra Modi) นายกรัฐมนตรีอินเดีย เริ่มเคลื่อนไหวสานต่อเมกะโปรเจกต์ โดยออกคำสั่งให้บริษัทไฟฟ้ายักษ์ใหญ่เคลื่อนย้ายการสำรวจ และส่งตำรวจติดอาวุธไปคุ้มครอง ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงไม่เปิดเผยตัวตนยังระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอินเดีย ประชุมเพื่อเร่งรัดโปรเจกต์สร้างเขื่อนให้เสร็จภายในปีนี้

สำหรับสาเหตุการสร้างเขื่อน Reuters ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ 4 รายว่า อินเดียหวั่นกลัวผลกระทบจากเขื่อนยาร์ลุงซางโป หลังจีนเดินหน้าเมกะโปรเจกต์มูลค่า 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5,500 ล้านบาท) ซึ่งได้รับการจับตามองในฐานะเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่สามารถผลิตพลังงานได้มากกว่าเขื่อนสามผาถึง 3 เท่า 

ทั้งนี้รัฐบาลอินเดียประเมินไว้ว่า หากจีนสามารถเขื่อนยาร์ลุงซางโป อาจควบคุมทิศทางการไหลของแม่น้ำได้เบ็ดเสร็จ ซึ่งอาจเกิดผลกระทบร้ายแรงสุด คือ ‘น้ำท่วม’ ทะลักเข้ามาในประเทศ โดยเจ้าหน้าที่บางส่วนถึงกับประเมินไว้ว่า เมกะโปรเจกต์ของจีนคือ ‘ระเบิดน้ำ’ ทำลายอินเดีย ขณะที่เขื่อนของอินเดียจะช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าว และสามารถปล่อยน้ำไปยังเมืองกูวาฮาติ เมืองหลักในภาคอุตสาหกรรมและการเกษตรที่พึ่งพาทรัพยากรน้ำได้

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญประเมินปรากฏการณ์ดังกล่าวว่า เป็นสงครามทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนกับอินเดีย ที่ต้องการช่วงชิงความได้เปรียบทางทรัพยากร ซึ่งจะสร้างผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ วิถีชีวิตของประชาชน รวมถึงก่อให้เกิดความเสี่ยงด้าน ‘แผ่นดินไหว’ มากขึ้นอีกด้วย

ปัจจุบันรัฐบาลอินเดียไม่ได้แสดงความคิดเห็นหรือยืนยันถึงโปรเจกต์ดังกล่าว ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจีนยืนยันว่า เขื่อนยาร์ลุงซางโปผ่านการประเมินด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โดยมั่นใจได้ว่า ปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และไม่มีผลกระทบต่อธรรมชาติ หรือประเทศข้างเคียง

อ้างอิง

https://thediplomat.com/2025/01/indias-response-to-worlds-largest-dam-in-china-faces-local-opposition/

https://www.reuters.com/sustainability/land-use-biodiversity/chinas-new-mega-dam-triggers-fears-water-war-india-2025-08-25/

https://www.straitstimes.com/asia/south-asia/india-plans-mega-dam-in-arunachal-pradesh-with-eye-on-chinas-hydropower-station-in-tibet

Tags: , , , , , , , , ,