หนึ่งในข่าวใหญ่ของวงการบันเทิงในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมาหนีไม่พ้นการเปิดตัวของควิบิ (Quibi) ช่องทางสตรีมมิ่งใหม่ของ เจฟฟรีย์ แคทเซนเบิร์ก (Jeffrey Katzenberg) อดีตโปรดิวเซอร์ดิสนีย์และหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Dreamworks Animation ที่ประกาศตัวว่าจะมาปฏิวัติวงการสตรีมมิ่งอย่างสิ้นเชิง และ Quibi ก็ได้ออกมาสู้สายตาสาธารณชนเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมาพร้อมคอนเทนท์พรีเมียมถึง 50 รายการ

บริษัททั่วฮอลลีวูดทั้ง ดิสนีย์, Universal, Sony Pictures, WarnerMedia, หรือแม้แต่ยักษ์ใหญ่ฝั่งจีนอย่าง Alibaba Group ร่วมลงทุนกับควิบิกันเป็นเม็ดเงินมหาศาลถึง 1,750 ล้านเหรียญ ผู้กำกับยักษ์ใหญ่อย่างสตีเวน สปิลเบิร์ก, กีเยร์โม เดล โทโร่ (Guillermo del Toro) คนดังอย่างเลียม เฮมส์เวิร์ธ (Liam Hemsworth), ไอดริส เอลบา (Idris Elba) และเลอบรอน เจมส์ (LeBron James) ต่างโดดร่วมหัวลงท้ายกับ Quibi กันถ้วนหน้า 

ทำไมทุกสตูดิโอถึงได้กล้าลงเงินกับควิบิ กันมากมายขนาดนี้ควิบิมีอะไรดีกว่าคนอื่นในโลกปัจจุบันที่หันไปทางไหนก็มีแต่ช่องทางสตรีมมิ่ง ? 

จุดขายเด็ดของควิบิคือดูได้เฉพาะบนมือถือเท่านั้น หมุนดูได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง และทุกรายการบนช่องห้ามมีความยาวเกิน 10 นาทีต่อหนึ่งตอน เน้นจับกลุ่มคนดูสมัยใหม่ที่ชีวิตยุ่งวุ่นวายไม่มีเวลาดูอะไรยาวๆ มีคอนเทนท์ทั้งซีรีส์ สารคดี เกมโชว์ รายการข่าวและกีฬา สำหรับผู้ชมทุกช่วงวัย

ทว่าผลตอบรับจากคนดูกลับออกไปในทางกลางๆ เสียงวิจารณ์ส่วนมากพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคอนเทนท์ในปัจจุบันยังไม่ค่อยน่าดึงดูดเท่าไหร่ และยังไม่มีรายการไหนใช้เทคโนโลยีแนวตั้ง/ แนวนอนให้เป็นประโยชน์เท่าที่ควร ซ้ำร้าย วิกฤตโควิด-19 ในปัจจุบันดันเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ชมจากหน้ามือเป็นหลังมือ แทนที่ชีวิตทุกคนจะยุ่งวุ่นวาย กลายเป็นว่าตอนนี้หลายคนได้แต่นอนตบยุงอยู่บ้าน ต้องการอะไรยาวๆ ดูฆ่าเวลา ทำให้คอนเทนท์ระยะสั้นไม่น่าดึงดูดอีกต่อไป

ก็ต้องดูกันต่อไปว่าควิบิจะเดินหน้าไปในทิศทางไหนเมื่อต้องเผชิญกับวิกฤตโรคระบาดที่เปลี่ยนแปลงโลกเราไปอย่างรวดเร็ว และต้องสู้กับคู่แข่งเจ้าตลาดอย่างเน็ตฟลิกซ์ หรือรุ่นพี่ที่กำลังเร่งเครื่องตามมาติดๆ อย่าง ดิสนีย์พลัส และแอปเปิลทีวีพลัส รวมถึงน้องใหม่ที่เตรียมเปิดตัวอย่างเอชบีโอ แม็กซ์ ยังไม่นับถึงช่องทางโซเชียลมีเดียขนาดสั้นอย่างติ๊กตอก ที่ยึดตลาดวัยรุ่นทั่วโลกไปแล้วเรียบร้อย

ดูเหมือนทางรอดของควิบิในตอนนี้คือคอนเทนท์ชุดต่อไปที่ใช้จุดเด่นของช่องทางได้ดีกว่านี้เพื่อจุดกระแสให้คนดูมาลองใช้บริการ เช่น ‘50 States of Fright’ โปรเจคต์เรื่องผีตอนสั้นของเจ้าพ่อหนังผี แซม เรมี (Sam Raimi) ซีรีส์ โทมิเอะ (Tomie) จากมังงะชื่อดังของอาจารย์จุนจิ อิโต้ หรือคอนเทนท์ที่ใช้ลูกเล่นเฉพาะตัวของควิบิเ อย่าง Spielberg After Dark ซีรีส์หลอนใหม่ของพ่อมดฮอลลีวูด สตีเวน สปิลเบิร์ก ที่ดูได้หลังพระอาทิตย์ตกดินเท่านั้น

ปัจจุบันควิบิยังให้บริการเฉพาะในสหรัฐอเมริกา คิดราคา 4.99 เหรียญแบบมีโฆษณา หรือ 7.99 แบบไม่มีโฆษณาแทรก ดูฟรีได้ 90 วันแรก ส่วนชะตาของแอปพลิเคชั่นนี้จะออกมาหัวหรือก้อย จะรุ่งหรือร่วง คงต้องติดตามชมกันต่อไป

Tags: , ,