หากพูดธุรกิจไอศกรีมปัจจุบัน เราอาจพูดได้ว่า มีการแข่งขันที่ดุเดือดไม่แพ้สนามใดในท้องตลาด
เพราะผู้ประกอบการหลายใหญ่ทั้งจากไทยและต่างประเทศ ต่างเข้ามาทำตลาด เจาะกลุ่มคนไทยที่กระหายและร้อน ด้วยการออกโปรโมชันลดแลกแจกแถม จนมีแบรนด์ไอศกรีมมากมายตามย่านค้าขายต่างๆ ซึ่งรวมถึง ‘บรรทัดทอง’ ย่านการค้าแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานคร
แต่หากใครเป็นชาวบรรทัดทองมาเนิ่นนาน คงอาจจะเคยเห็น ‘ปภาภัทร ไอศกรีม’ รถเข็นที่ขายไอศกรีมโฮมเมด 100% มาก่อนที่ย่านนี้จะครึกครื้นแบบที่เป็นอยู่
น่าสนใจไม่น้อยว่า ปภาภัทร ไอศกรีม มีดีอะไร เหตุใดจึงยังเป็นไอศกรีมเจ้าถิ่นที่ยังคงยืนระยะเทียบเคียงกับแบรนด์ของผู้ประกอบการหลายใหญ่มากมายในพื้นที่เดียวกันได้ มาร่วมหาคำตอบผ่านคอลัมน์ Out And About ในสัปดาห์นี้กัน
จุดเริ่มต้นของปภาภัทร ไอศกรีม เริ่มขึ้นในปี 2540 ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ทำให้ ปภาภัทร ถ้ำชัยมงคล และประภูศักดิ์ ถ้ำชัยมงคล ซึ่งเดิมทีทำงานอยู่ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ตัดสินใจเปิดร้านไอศกรีมโฮมเมดขึ้นมา ทั้งด้วยความชื่นชอบการกินของหวานประเภทนี้เป็นชีวิตจิตใจ และเชื่อว่า ไอศกรีมที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีจะเป็นที่ต้องการของตลาด
ในช่วงแรก ปภาภัทร ไอศกรีมเปิดหน้าร้านที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต แต่หลังจากช่วงปี 2554 ที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ปภาภัทร ไอศกรีมจึงเริ่มปรับแผนการตลาดใหม่ ด้วยความตั้งใจว่า จะเข้าลูกค้ามากยิ่งขึ้น จึงเกิดเป็นรถเข็นขายไอศกรีมแบบที่เห็นในปัจจุบัน
ในช่วงแรกปภาภัทร ไอศกรีม เจาะกลุ่มลูกค้าย่านเยาวราชเป็นหลัก แต่ขณะเดียวกัน ก็ยังเสาะหาพื้นที่อื่นๆ รอบกรุงเทพฯ อยู่เสมอ จนสุดท้ายด้วยความรู้จักกับ ‘ร้านเจ๊โอว ข้าวต้มเป็ด’ จึงทำให้ปภาภัทร ไอศกรีมได้มาเริ่มขายในย่านบรรทัดทองในเวลาต่อมา
หากพูดถึงไอศกรีมของปภาภัทร คอนเซปต์สำคัญคือต้องเป็นไอศกรีมโฮมเมด 100% ใช้วัตถุดิบมีคุณภาพ รสชาติหลากหลาย โดยทุกรสชาติที่วางจำหน่ายต้องชิมและทดลองจนรู้สึกว่าอร่อยแล้วจริงๆ เท่านั้น ซึ่งทั้งหมดค่อยๆ พัฒนาตามประสบการณ์ที่มากขึ้นเรื่อยๆ ของปภาภัทรและประภูศักดิ์
ปัจจุบันไอศกรีมของร้านมีทั้งหมด 16 รสชาติ โดยรสชาติที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่คือ กะทิสด นมสด กล้วยหอม ทุเรียน และโดยเฉพาะเยลลี่ที่นอกจากรสชาติหวานอมเปรี้ยวกินแล้วชื่นใจ หน้าตายังชวนให้บันทึกภาพเก็บไว้ เหมาะสำหรับยุคโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน
หากถามว่า จุดเด่นของไอศกรีมแบรนด์นี้คืออะไร ปภาภัทรเกริ่นว่า อยากให้มาลองชิมเอง เพราะร้านไม่ได้โฆษณาและทำมาร์เกตติงใดๆ จึงอยากให้สินค้าเป็นตัวช่วยในการขายแทน
สำหรับวันนี้ที่ย่านบรรทัดทองเติบโตจนกลายเป็นศูนย์อาหารแห่งใหม่ของคนกรุงเทพฯ ปภาภัทรมองว่า เป็นโอกาสของการทำธุรกิจ ที่จะมีกลุ่มลูกค้าที่เยอะและหลากหลายมากขึ้น ส่วนเขาจะกินกับร้านไหน ซื้อกับใคร ก็เป็นทางเลือกของเขา หน้าที่เจ้าของกิจการคือพัฒนาและหมั่นทำให้สินค้าให้มีคุณภาพอยู่ตลอดก็พอ
Fact Box
- ประภาภัทร ไอศกรีม มีรถเข็นกระจายอยู่ในย่านบรรทัดทอง เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 18.30-01.30 น. สอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08-9600-2393