หากไปเที่ยวเมืองประวัติศาสตร์อย่าง ‘สุโขทัย’ หมุดหมายของทุกคนที่ต้องไปเยือนให้ได้ คือโบราณสถาน อุทยานประวัติศาสตร์ หรือพิพิธภัณฑ์ ไม่เช่นนั้นจะเหมือนไปไม่ถึง และปฏิเสธไม่ได้ว่า หลายคนมักถูกดึงดูดด้วยความงามของ ‘เครื่องสังคโลก’ เครื่องปั้นดินเผาเก่าแก่ที่เป็นเอกลักษณ์ของสุโขทัย 

แต่เมื่อมาถึงพิพิธภัณฑ์หรือสถานที่ทางประวัติศาสตร์ เราจะใช้ประสาทสัมผัสหลักเพียง 2 ด้าน คือการมองและการฟัง สิ่งที่ทำได้คือกวาดสายตามองโบราณวัตถุ และเปิดหูฟังเรื่องราวทางประวัติศาตร์ เพราะในบางสถานที่เราไม่สามารถใช้มือจับสัมผัสเครื่องปั้นดินเผาเก่าแก่อายุหลายร้อยปีได้

เชื่อว่าหลายคนอยากใกล้ชิดกับโบราณวัตถุมากกว่านี้ และกำลังมองหาว่ายังมีสถานที่ไหนในสุโขทัยที่เปิดโอกาสให้สัมผัสกรรมวิธีการผลิตเครื่องสังคโลก เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์อย่างมีส่วนร่วมและสนุกสนานมากกว่าฟังบรรยาย 

เราขอแนะนำให้รู้จักกับ ‘โมทนา เซรามิก’ สตูดิโอเซรามิกของครอบครัวบุญคง ในอำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ซึ่งที่นี่มีทั้งพิพิธภัณฑ์เครื่องถ้วยที่ครอบครัวเก็บสะสม รวมทั้งยังเปิดเวิร์กช็อปให้คนทั่วไปมาลองปั้นและวาดเครื่องสังคโลก รวมถึงทำเครื่องประดับอีกด้วย

The Momentum มีโอกาสไปเวิร์กช็อปวาดจานสังคโลก พร้อมพูดคุยกับ ป้าไก่-อณุรักษ์ บุญคง วัย 55 ปี ที่เปิดบ้านเป็นสตูดิโอและพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ต้อนรับทุกคน

แม้สังคโลกของโมทนา เซรามิกจะต่อยอดมาจากองค์ความรู้โบราณ แต่พอเป็นงานเวิร์กช็อปทำให้ทุกคนสามารถผสมผสานจินตนาการและความร่วมสมัยเข้าไปในชิ้นงานได้อย่างอิสระ

ความงามจากดินสุโขทัยในพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม

ก่อนจะเริ่มคลาสวาดจานสังคโลก ป้าไก่ปูพื้นฐานว่างานสังคโลกคืออะไร และสตูดิโอโมทนา เซรามิกมีจุดเด่นอย่างไร โดยเริ่มเล่าว่า งานของโมทนา เซรามิกเป็นสังคโลกที่ใช้กระบวนการผลิตดั้งเดิม และเป็นงานโฮมเมดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมดิน การขึ้นรูปด้วยมือ การทำน้ำเคลือบเอง ตลอดจนเตาเผาในบริเวณบ้านที่ไม่ได้ใหญ่เท่ากับโรงงานอุตสาหกรรม ทว่าชิ้นงานของโมทนา เซรามิก ไม่ได้เป็นงานเลียนแบบของเก่า

“รูปแบบงานของเราก็ได้แรงบันดาลใจจากสังคโลก เรามีรากเหง้าของเราอยู่แล้ว เราก็ดึงตรงนั้นมาผสมกับความเป็นเรา คนอื่นอาจจะคิดว่าฉันจะทำอะไรเพื่อขายใคร แต่เราคิดว่าอยากทำสังคโลกเป็น แล้วให้งานเรามันทรงคุณค่า เพื่อให้คนที่เขาได้รับงานเราไป เขาอยากเก็บส่งต่อให้ลูกให้หลาน” ป้าไก่เล่าถึงสไตล์ของโมทนา เซรามิก

ในทัศนะของคนรุ่นใหม่อาจมองว่าสังคโลกที่มีลวดลายแสนวิจิตร คือเครื่องถ้วยประดับตกแต่งบ้าน แต่แท้จริงสังคโลกก็คือจาน ชาม ภาชนะที่ไว้ใช้ใส่อาหารและบรรจุสิ่งของอื่นๆ โดยปั้นมาจากดินสุโขทัย ซึ่งมีสีค่อนข้างคล้ำ เคลือบด้วยน้ำเคลือบที่มีส่วนประกอบจากหินปูนและหินฟันม้า ก่อนนำไปเผาในเตาด้วยอุณภูมิที่สูงกว่า 1,200 องศาเซลเซียส อุณหภูมินี้ถือเป็นการเผาไฟสูง ทำให้โลหะหนักในดินระเหิดออกไป จึงสามารถใช้เป็นภาชนะบนโต๊ะอาหารได้

แม้สังคโลกจะมาจากก้อนดินแล้วแปรเปลี่ยนเป็นข้าวของเครื่องใช้ แต่ป้าไก่ผู้รักในงานเซรามิกกล่าวว่า อยากให้มองเป็นมากกว่าจานธรรมดา ประกอบกับความตั้งใจอยากเปิดพิพิธภัณฑ์อยู่แล้ว จึงเริ่มเก็บสะสมสังคโลกและรวบรวมของที่คนบริจาค เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ในบริเวณบ้าน

“เราอยากมอบคุณค่าให้สังคโลกเป็นมากกว่าเป็นครื่องถ้วยชามธรรมดาที่คนใช้แล้วแตกก็ทิ้ง เราอยากให้ดินก้อนหนึ่งของเรามีคุณค่า ให้คนที่เขาได้รับไปใช้รู้สึกดีกับมันทุกวัน แล้วอยากส่งต่อความรู้สึกดีๆ นี้ให้กับลูกหลานต่อไป นี่คือความหมายของคำว่าพิพิธภัณฑ์”

ป้าไก่พาเราเดินชมพิพิธภัณฑ์ขนาดเท่าห้องนอน เป็นช่วงเวลาที่สัมผัสได้ว่าครอบครัวบุญคงรักและหลงใหลเซรามิกสุดหัวใจ ซึ่งป้าไก่กล่าวเสริมว่า เซรามิกจากสถานที่อื่นๆ ในไทย ทั้งงานเก่าและงานใหม่ก็สวยงามไม่แพ้สังคโลกสุโขทัย

“เซรามิกของไทยเราส่งออกไปต่างประเทศเยอะ ทางลำปางก็มีโรงงานที่ได้มาตรฐานส่งออกเยอะ งานอาร์ตก็มี เราเป็นคนชอบเซรามิก ชอบเครื่องปั้นดินเผา เจอตรงไหนก็สวย ใครทำก็สวย เพราะคิดว่ากว่าเขาจะทำมาได้สักชิ้น เราให้คุณค่าความงามตรงความตั้งใจ ต่อให้เป็นงานโรงงาน แต่คนที่เขาทำอยู่เขาก็ตั้งใจทำทุกชิ้น เขารักในงานของเขา แต่ละที่มันจะมีความงามในรูปแบบของแต่ละท้องถิ่น” ป้าไก่กล่าวก่อนจะพาเราเข้าสู่ห้องเวิร์กช็อป

จรดพู่กันลงบนจานดินเผา

ในห้องเวิร์กช็อปประดับด้วยเครื่องถ้วยสังคโลก และจานลวดลายแปลกตาที่คนก่อนหน้ามาปลดปล่อยจินตนการในห้องนี้ บนโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กๆ มีจานดินเผาวางข้างถาดสีน้ำเงินกับแก้วใส่พู่กัน

ป้าไก่ชักชวนให้เรานั่งลงเพื่อเริ่มสร้างสรรค์งานศิลปะ แต่ก่อนจะหยิบพู่กัน เจ้าของบ้านเตือนให้เราใช้ดินสอเขียนร่างลงในกระดาษ เพื่อระบุว่าลวดลายที่เรากำลังจะบรรเลงลงบนจาน มีแรงบันดาลใจมาจากอะไร เมื่อเขียนเรียงความเรียบร้อย ก็ได้เวลาใช้ดินสอแท่งเดิมร่างภาพลงบนจาน และหากถูกใจแล้วก็ใช้พู่กันจุ่มสีน้ำเงินวาดจานดินเผาตามแบบฉบับเครื่องสังคโลกได้เลย

จานที่เราวาดเสร็จแล้ว ป้าไก่จะนำไปเคลือบและเผา แล้วส่งไปรษณีย์ไปให้ตามที่อยู่ โดยระยะเวลาขึ้นอยู่กับว่าเตาเผาจะเต็มเมื่อไร แต่รับรองว่าคงไม่นานเกินรอ

และหากใครมองว่าเวิร์กช็อปวาดจานยังท้าทายไม่พอ ที่นี่ก็มีให้ทำอีก 2 อย่าง คือเวิร์กช็อปปั้นจี้ของสร้อยหรือเครื่องประดับ และปั้นสังคโลกที่แบ่งเป็นปั้นด้วยแป้นหมุนกับปั้นรูปทรงอิสระ ซึ่งป้าไก่บอกว่า ถ้ามาเวิร์กช็อปปั้นสังคโลกด้วยแป้นหมุน จะไม่ได้ชิ้นงานกลับบ้าน เพราะใช้ระยะเวลานานในการทำ 

“ปั้นอิสระจะได้ชิ้นงาน แต่ถ้าแป้นหมุนจะไม่ได้ชิ้นงาน สิ่งที่ได้จะเป็นเรื่องประสบการณ์ความสนุกสนานมากกว่า เพราะว่าเวลาเราปั้นขึ้นมามันจะค่อนข้างหนา แล้วเราต้องรอให้ดินมันแห้งหมาดไปสักระยะหนึ่ง แล้วเราจึงจะค่อยมาตกแต่งชิ้นงาน”

ค่าใช้จ่ายในการเวิร์กช็อปเริ่มต้นที่ 500-1,000 บาท และจำเป็นต้องโทร.มาจองก่อน โดยสามารถรองรับคนได้ประมาณ 15 คน แต่ถ้ามาคนเดียว โมทนา เซรามิกก็ยินดีสอน

“เวิร์กช็อปมาคนเดียวก็ได้ เราอยากคุยกับทุกคน ถ้ามาเยอะจะคุยได้ไม่ทั่ว เราอยากจะดูแลคนที่มาให้เต็มที่ แล้วเวลาที่เขาทำงานศิลปะ เขาต้องใช้สมาธิ เพราะเราเองก็เป็นคนอินโทรเวิร์ต (หัวเราะ) เราก็จะเสียสมาธิหน่อย อยากให้มีความเป็นส่วนตัว แล้วก็ความสงบสำหรับคนที่มา” ป้าไก่กล่าวอย่างอารมณ์ดี

อินโทรเวิร์ตที่เปิดบ้านต้อนรับคนทุกวัย

การมาเยือนโมทนา เซรามิก ไม่เพียงแค่ได้รู้จักสังคโลกหรือรู้ประวัติศาสตร์สุโขทัย แต่ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังได้สัมผัสธรรมชาติกับความร่มรื่นของสตูดิโอ ซึ่งครอบครัวบุญคงตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น

“เรามีพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ พอได้ทำสวนให้ดีมันก็เหมือนเราได้เปลี่ยนอิริยาบถ ถ้านั่งปั้นอยู่อย่างเดียว หลังมันก็ขด บางวันเราก็ตัดแต่งกิ่งไม้ บางวันทำเฟอร์นิเจอร์ บางวันตัดหญ้า กิจกรรมของเราทุกอย่างมันจะอยู่ในนี้หมดเลย

“ที่นี่เดินเล่นได้ บางคนเจอสิ่งแวดล้อมที่มันวุ่นวาย พอเข้ามาในนี้แล้วรู้สึกผ่อนคลาย แล้วก็ได้รับความสุขกลับไป ก็เหมือนชาร์จแบต เติมพลังงาน อันนี้คือสิ่งที่อยากจะเติมให้คนที่มา ไม่จำเป็นว่าเข้ามาในนี้จะต้องมาเวิร์กช็อป ต้องมาซื้อของ จริงๆ มาหาเพื่อนก็ได้ มาหาญาติผู้ใหญ่ก็ได้ มาเติมเต็มให้กัน สมมติช่วงนี้อาจจะเหนื่อย อยากเข้ามาสดชื่น เข้ามาแลกเปลี่ยน มาพูดคุยกัน มาเล่าประสบการณ์ที่ตัวเองเจอ เพราะจุดประสงค์อย่างหนึ่งที่เปิดเวิร์กช็อป คืออยากเพิ่มเพื่อนให้ตัวเอง”

นอกจากมาที่นี่เพื่อสัมผัสความสงบร่มรื่น การได้มานั่งคุยกับป้าไก่ หรือผู้คนในสถานที่แห่งนี้ก็อาจให้มุมมองอะไรใหม่ๆ กลับไป เพราะตัวป้าไก่เองก็ชื่นชอบที่ได้เจอเพื่อนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นคนอายุเท่าไรก็ตาม

“การที่มีเพื่อนๆ เข้ามา มันก็เป็นเรื่องดี แม้จะเป็นเพื่อนต่างวัย การเวิร์กช็อปอะไรก็ตาม มันจะมีการสื่อสารเพิ่มขึ้น เพราะว่าโดยปกติ การสื่อสารของคนแต่ละเจเนอเรชันก็ไม่เหมือนกัน”

เมื่อถามว่าป้าไก่อยากมีเพื่อนเป็นคน Gen Z ไหม ป้าไก่หัวเราะเสียงดังก่อนตอบว่าเป็นเรื่องน่าสนุก

“ลูกสาวก็เป็น Gen Y ก็จะอีกบุคลิกหนึ่ง แต่พอเป็น Gen Z ก็สนุกนะ ยิ่งมี Gen Alpha ที่เขาตามมาจาก YouTube ช่องของพี่คัลแลน พี่จอง มีตั้งแต่ 5 ขวบ อันนั้นก็จะอีกแบบหนึ่ง ถ้า Gen Z อาจไม่ค่อยสื่อสารมาก นิ่งและอยู่กับตัวเองมากกว่า แต่พอเป็น Gen Alpha จะกระตือรือร้น แต่ละ Gen ก็มีความต่างด้วยบริบทที่เขาเติบโตมา” ป้าไก่เล่าประสบการณ์ที่ได้เจอคนหลายวัยด้วยความสุข

สุดท้ายนี้ ป้าไก่กล่าวว่า โมทนา เซรามิกไม่ใช่สถานที่เดียวในสุโขทัยที่เปิดให้ลองทำสังคโลก พร้อมกับแนะนำว่า หากมาที่นี่แล้วก็อยากให้ลองไปสถานที่อื่นๆ ด้วย

“สังคโลกกระบวนการทำเหมือนกัน แต่การนำเสนอคอนเซปต์งานอาจจะต่างนิดหน่อย เพราะมันเหมือนเวลาที่เราไปเขียนรูป ถ้าสิ่งแวดล้อมมันคนละอย่าง อารมณ์ความรู้สึกที่เราจะใส่ลงไปในผลงานของเรามันก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง 

“อย่างสุโขทัย ไปแต่ละที่ก็คนละความรู้สึก มันเป็นข้อดีที่เราจะได้เจอคนหลายๆ แบบที่แตกต่างกันไป แต่ทุกคนมีความตั้งใจดีหมด” ป้าไก่ทิ้งท้าย

Fact Box

  • สามารถโทรจองคลาสเวิร์กช็อปได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 09 4714 6145 
  • โมทนา เซรามิก (Mothana ceramic) ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ที่ 12 ถนนทางลัดบ้านสวน-ศรีสำโรง ตำบลเกาะตาเลี้ยง อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย

Tags: , , , , , ,