ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ สำหรับงานประกาศรางวัลสุดยิ่งใหญ่ของวงการภาพยนตร์ อย่าง Academy Awards ครั้งที่ 91 หรือ #OSCAR2019 ที่ปีนี้รายชื่อของนักแสดงและภาพยนตร์ที่เข้าชิงในสาขาต่างๆ มีความหลากหลายทีเดียว และยังสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคนในวงการภาพยนตร์และผู้ติดตามงานประกาศรางวัลภาพยนตร์ครั้งนี้อยู่ไม่น้อยทีเดียว

จากรายชื่อที่เราได้เห็นกันไปเมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้เราได้เห็นตัวเต็งที่นอนเข้าชิงมาอยู่แล้ว และได้เห็นบางชื่อที่ดูจะเป็นลูกรักออสการ์ เราได้รวมรวบมาให้คุณดูอีกสักครั้งว่า รายชื่อเหล่านั้นมีเรื่องอะไรบ้าง

ภาพยนตร์เรื่องแรกที่เป็นตัวเต็งทุกเวทีของปีนี้ อย่าง Roma นำโด่งเข้ามาด้วยการเข้าชิงครั้งนี้มากที่สุดถึง 10 รางวัล โดยเฉพาะรางวัลใหญ่อย่าง Best Picture, Best Director และ Best Foreign Language Film

สูสีมากับภาพยนตร์เรื่อง The Favourite ที่เข้าชิง 10 รางวัลเช่นกัน ทั้งรางวัลใหญ่รวมถึงสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมที่เข้าชิงถึงสองคนด้วยกันคือราเชล ไวส์ (Rachel Weisz) และเอมมา สโตน (Emma Stone)

นอกจากนี้ยังมี A Star is Born ที่ดูเหมือนจะเป็นลูกรักของออสการ์ครั้งที่ 91 นี้ หนังได้เข้าชิงถึง 8 สาขา เท่ากับภาพยนตร์เรื่อง Vice โดยทั้งสองเรื่องได้รับการเสนอเข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกด้วย

ตามมาติดๆ ด้วยภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Black Panther ที่เข้าชิงถึง 7 สาขา และสร้างเซอร์ไพรส์โดยการเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องแรกที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รองลงมาคือ BlacKkKlansman 6 สาขา ตามด้วย Bohemian Rhapsody และ Green Book เท่ากันคนละ 5 สาขา

สำหรับใครที่มีโอกาสได้ตามชมภาพยนตร์ที่มีชื่อเข้าชิงในสาขาต่างๆ ครั้งนี้ คงจะพอนึกภาพกันออกว่าแต่ละเรื่องค่อนข้างโดดเด่นสมคำร่ำรือจริงๆ เราเองอยากชวนมาเดากันเล่นๆ ว่าในแต่ละสาขารางวัล เรื่องไหนใครจะชนะหรือควรจะชนะ?

ข้อมูลประกอบการทายผลครั้งนี้มาจากทั้ง คะแนนการวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องต่างๆ จากสื่อและเหล่านักวิจารณ์ต่างประเทศ รวมถึงตัวของผู้เขียนเองที่พยายามตามดูภาพยนตร์ทุกเรื่องให้ครบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และลองทำการทำนายเพื่อเพิ่มความสนุกสนานและความตื่นเต้นในการลุ้นรางวัลออสการ์ครั้งนี้อีกสักหน่อย

Best Picture

จะชนะ / ควรชนะ : Roma

Roma คือภาพยนตร์ระดับมาซเตอร์พีซ ของอัลฟองโซ กัวรองที่กวาดมาแล้วทุกเวที และเป็นภาพยนตร์ที่สร้างปรากฎการณ์คำชมอันล้มหลามให้กับภาพยนตร์จากค่าย Netflix เป็นอีกหนึ่งผลงานการันตีคุณภาพให้กับเน็ตฟลิกซ์ว่าปีนี้ พี่ไม่ได้มาเล่นๆ รวมถึงการลงทุนไปกับการโปรโมตออสการ์แคมเปญอย่างหนักหน่วงเพื่อส่งพลังให้ Roma ไปถึงฝั่งอย่าง Best Picture ได้สำเร็จ ใครที่สนใจสามารถอ่านบทความเบื้องหลังกลยุทธ์ของ Roma ได้ที่ adaymagazine-roma-stratigies

Best Director

จะชนะ / ควรชนะ : อัลฟองโซ กัวรอง (Alfonso Cuarón) จาก Roma

อย่างที่รู้ๆ กันว่า Roma คือเรื่องราวความทรงจำในชีวิตวัยเด็กของผู้กำกับเอง ซึ่งผู้กำกับระดับเทพชาวเม็กซิกันคนนี้ก็ถ่ายทอดเรื่องออกมาได้อย่างงดงามและอัศจรรย์ แถมยังเป็นคนถ่ายเองอีก ซึ่ง Roma ก็ได้เข้าชิงในสาขา Best Cinematography ด้วยเช่นกันและยังมีโอกาสสูงมากที่จะได้รางวัลในสาขานี้มาครอบครอง อัลฟองโซ กัวรองอาจจะต้องเตรียมสปีชที่จะพูดบนเวทีออสร์การ์ครั้งนี้ไว้ถึงสองครั้งเป็นอย่างต่ำ ทั้งจากสาขา Best Director และ Best Cinematography นั่นเอง

Best Actor

จะชนะ : รามี มาเลค (Rami Malek) จาก Bohemian Rhapsody

ควรชนะ : คริสเตียน เบล (Christian Bale) จาก Vice

ควรเข้าชิง : อีธาน ฮอว์ค (Ethan Hawke) จาก First Reformed

Bohemian Rhapsody ไม่ใช่หนังที่ดีที่สุด แต่ส่วนดีๆ ในหนังถูก Rami Malek โอบอุ้มชูไว้อย่างทรงพลัง จนทำให้การแสดงของเขาแทบจะกลายเป็นตำนานเหมือนกับวง Queen ไปเลยก็ว่าได้ และการเตรียมตัวอย่างหนักของ Rami Malek ในการรับบท Freddie Mercury ครั้งนี้ น่าจะได้รับตอบแทนที่คุ้มค่าเช่นกัน

Best Actress

จะชนะ : เกล็นน์ โคลส (Glenn Close) – The Wife

ควรชนะ : โอลิเวีย โคลแมน (Olivia Colman) – The Favourite

ควรเข้าชิง : โทนี คอลเล็ตต์ (Toni Collette) – Hereditary

ในสาขานี้ ชื่อผู้เข้าชิงที่ดูจะมีโมเมนตัมมากๆ ในเวลานี้อย่างเกล็นน์ โคลส เลดี้ กาก้า หรือ โอลิเวีย โคลแมน ทำผลงานไว้อย่างสมเกียรติ น่าประทับและน่าเอาใจช่วยทั้งหมด เพียงแต่ชื่อของเกล็นน์ โคลส กลายเป็นชื่อที่ทุกๆ คนต่างเอาใจช่วย เพราะหากได้รางวัลนี้ไปครอง ก็จะช่วยให้การเดินทางอันยาวนานในเส้นทางการแสดงของเธอถูกยอมรับและเป็นที่จดจำอย่างเป็นทางการเสียที

Best Supporting Actor

จะชนะ / ควรชนะ : มาเฮอชาลา อาลี (Mahershala Ali) – Green Book

มาเฮอชาลา อาลีในบทบาทของ ดอน เชอร์ลี (Don Shirley) นักเปียโนผิวสี ในเรื่อง Green Book เป็นเหมือนกับเพชรที่ผ่านการเจียระไนมาอย่างหมดจด จนทำให้เราไม่สามารถละสายตาจากเขาได้เลย ซึ่งหากลองดูในหนังแล้ว ความโดดเด่นของมาเฮอชาลา อาลี ที่เข้าชิงในสาขาสมทบชาย กับวิกโก้ มอร์เตนเซน (Viggo Mortensen) ที่เข้าชิงในสาขานักแสดงนำชายนั้นมีน้ำหนักที่ใกล้เคียงกันมาก หรือเรียกได้ว่าสำคัญเท่ากันก็ว่าได้ จึงไม่แปลกที่อาลี จะโดดเด้งขึ้นมาจากผู้ท้าชิงในสาขาเดียวกัน

Best Supporting Actress

จะชนะ / ควรชนะ : เรจิน่า คิง (Regina King) – If Beale Street Could Talk

รายชื่อนักแสดงสมทบหญิงในปี คนที่โดดเด่นมากๆ กลับเป็นเรจิน่า คิง ที่น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ของจริง เพราะถึงแม้ว่าสปอตไลท์ในหนังจะฉายไปหาเธอไม่มากมายนัก แต่เธอยังเฉิดฉายและรับรู้ได้เลยว่า เรื่องนี้ไม่สามารถขาดเธอไปได้ แถมยังทำให้เรื่องราวสมบูรณ์แบบและสวยงามขึ้นมากเลยทีเดียว

Best Adapted Screenplay

จะชนะ / ควรชนะ : BlacKkKlansman

BlacKkKlansman คือภาพยนตร์เรื่องราวที่ถูกดัดแปลงมาจากประสบการณ์จริงส่วนหนึ่งของรอน สตัลเวิร์ธ (Ron Stallworth) อดีตตำรวจผิวสีที่ได้แทรกซึมเข้าไปล่วงข้อมูลจากกลุ่ม White Supremacist อย่าง KKK  หรือ Klu Klux Klan โดยเรื่องนี้สไปค์ ลี (Spike Lee) เป็นคนกำกับและร่วมเขียนบทด้วย จึงทำให้ดูเป็นตัวเลือกที่น่าเดิมพันในสาขานี้ ถึงแม้ว่าผู้ชนะของสาขานี้ในเวทีสมาคมนักเขียนแห่งอเมริกา (WGA) จะตกเป็นของ Can You Ever Forgive Me?

Best Original Screenplay

จะชนะ : The Favourite

ควรชนะ : Green Book

เรื่องราวการเสียดสีอันแสนสนุกและความฉาวโฉ่ในรั้ววังฝั่งยุโรป ดูจะเป็นตัวเลือกที่มีโมเมนตัมเอามากๆ ในเวลานี้ เพราะความสนุกสนานที่มีชั้นเชิงของเรื่องนี้อาจจะทำให้ได้รางวัลนี้ไปครอง ถึงแม้ว่าชื่อผู้ท้าชิงที่แข็งแกร่งอย่าง Green Book จะเป็นอีกชื่อที่น่าเอาใจช่วย แถมยังคว้า Best Screenplay จากเวทีลูกโลกทองคำมาแล้ว แต่ก็มีกระแสด้านลบมาทำให้เป๋ไปบ้าง ทั้งเรื่องชีวประวัติของดอน เชอร์ลี ที่ทางครอบครัวออกมาบอกว่าดูจะคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง รวมไปถึงเจ้าของหนังสืออย่างนิกค์ วัลเลลองก้า (Nick Vallelonga) ที่เคยทวีตเกี่ยวกับกรณีของทรัมป์ในเชิงเหยียดมุสลิมไปเมื่อปี 2015 ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะทำให้ความชื่นชอบและมีคนเอาใจช่วยน้อยลงบ้างก็เป็นได้

Best Cinematography

จะชนะ / ควรชนะ : Roma

Roma ไม่ใช่ภาพยนตร์เพียงเรื่องเดียวที่เป็นหนัง ขาว-ดำ ในสาขานี้ เพราะยังมี Cold War ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศอีกหนึ่งเรื่องที่เป็นหนัง ขาว-ดำ เช่นกัน แต่ Roma ก็ยังเป็นตัวเต็งและกวาดรางวัลมาแทบจะทุกเวทีในสาขา Cinematography ผลออสการ์ในสาขานี้จึงมีโอกาสน้อยมากที่จะพลิกโผไปออกเป็นเจ้าอื่น

Best Film Editing

จะชนะ / ควรชนะ : Vice

ด้วยความโดดเด่นในการเล่าเรื่องและการตัดต่อของ Vice ทำให้หนังชีวประวัติของดิกค์ ชีนีย์ (Dick Cheney) เรื่องนี้ เพิ่งชนะ BAFTA มาหมาดๆ ในขณะที่หนังชีวประวัติของเฟร็ดดี้ เมอร์คิวรี (Freddie Mercury) อย่าง Bohemian Rhapsody ก็ได้รางวัลการตัดต่อยอดเยี่ยมจากสมาคมบรรณาธิการภาพยนตร์อเมริกัน (American Cinema Editors) มาครอง จึงเป็นไปได้ว่า รางวัลนี้อาจจะออกหัวหรือก้อยที่สองเรื่องนี้ก็ได้

Best Original Score

จะชนะ : If Beale Street Could Talk

ควรชนะ : Black Panther

ควรเข้าชิง : First Man

If Beale Street Could Talk ดูจะเป็นตัวเลือกที่แข็งแรงที่สุดสำหรับเราในสาขานี้ เพราะหนังเรื่องนี้คือความงดงามที่สมบูรณ์แบบมากอีกเรื่องหนึ่ง ทั้งบท นักแสดง และเพลงประกอบที่ช่วยส่งมู้ดให้หนังพาเราอิ่มเอมไปกับความประณีตละเมียดละไมนี้ตั้งแต่เปิดเรื่องจนถึงตอนจบ ในขณะเดียวกัน Black Panther ก็เป็นตัวเลือกที่มีน้ำหนักไม่แพ้กัน แต่อีกหนึ่งเรื่องอย่าง First Man ที่ได้จัสติน เฮอร์วิตซ์ (Justin Hurwitz) นักแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ ที่เคยทำให้ La La Land ชนะในสาขานี้ และ สาขา Best Original Song เมื่อปี 2016 มาแล้ว และในปีนี้ก็ได้พา First Man ไปคว้ารางวัล เพลงประกอบยอดเยี่ยมมาแล้วเกือบทุกเวทีเช่นกัน ดังนั้น ทั้งที่หลายคนมองว่า First Man ต้องมาเต็งในสาขานี้แน่ แต่กลับพลาดไปอย่างน่าเสียดาย

Best Original Song

จะชนะ / ควรชนะ : Shallow จาก A Star Is Born

เลดี้ กาก้าและแบรดลี่ คูเปอร์ ดูจะกลายเป็นคู่ที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุดในงานออสการ์ครั้งนี้ไปแล้ว ด้วยเคมีของทั้งคู่และผลงานเพลงที่ตราตรึง ทั้งคู่ได้เข้าชิงในสาขานักแสดงนำของฝั่งตนเอง จากภาพยนตร์เพลงสุดยอดเยี่ยมแห่งปีอย่าง A Star is Born ที่แบรดลีย์ คูเปอร์เป็นคนกำกับเอง โดยได้นำดาวแห่งวงการเพลงอย่าง เลดี้ กาก้า มาฉายแสงในวงการภาพยนตร์ ถ้าเพลงนี้ได้รับรางวัล เราคงจะมีความสุขไม่น้อย ที่จะได้ฟังสปีชของเลดี้ กาก้า อีกสักครั้งบนเวทีออสการ์ครั้งนี้

Best Sound Editing

จะชนะ : First Man

ควรชนะ : A Quiet Place

First Man คือหนังคุณภาพคับแก้วอีกเรื่องหนึ่งที่เข้าชิงเวทีนี้ถึง 4 รางวัล แต่สิ่งที่โดดเด่นของ First Man คือเรื่องของซาวน์ประกอบที่สามารถสัมผัสได้ตลอดทั้งเรื่อง ยังช่วยสร้างมู้ดให้หนังที่เหมือนจะนิ่งๆ แถมเรายังรู้ตอนจบกันดีอยู่แล้ว มีกราฟอารมณ์ที่ช่วยให้เราลุ้นและตื้นเต้นกับมันได้ตลอดการรับชม

Best Sound Mixing

จะชนะ : Bohemian Rhapsody

ควรชนะ : First Man

น่ายินดีหาก Bohemian Rhapsody ที่เป็นหนังเพลง จะชนะในสาขานี้ แต่เราก็ยังแอบแบ่งใจและเชื่อว่าน่าจะมีความเป็นไปได้เช่นกันที่รางวัลจะไปตกที่ First Man ที่โดดเด่นในเรื่องซาวด์ไม่แพ้กัน

Best Costume Design

จะชนะ : The Favourite

ควรชนะ : Black Panther

ในสาขาเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมดูจะเป็นการขับเขี้ยวกันระหว่างสองเรื่องที่มีความเป็นไปได้มากๆ ทั้งสองเรื่อง อย่าง The Favourite และ Black Panther ซึ่งไม่ว่าหวยจะออกที่ใคร ก็น่ายินดีด้วยกับทั้งสองเรื่องที่ทำได้โดดเด่นและน่าประทับใจมากๆ

Best Makeup and Hairstyling

จะชนะ : Vice

ควรชนะ : Mary Queen of Scots

คริสเตียน เบล คือเจ้าแห่งการทรานส์ฟอร์มร่างกายจนเป็นที่จดจำอยู่แล้ว บวกกับเทคนิคการแปลงร่างในเรื่อง Vice ที่ทำให้เขากลายเป็นดิกค์ ชีนีย์ อดีตรองประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐ ได้อย่างเต็มตัว และการแปลงร่างในครั้งนี้ทำได้น่าประทับมากๆ เช่นกัน เมื่อเทียบกับแกรี่ โอลด์แมนในบทวินสตัน เชอร์ชิล (Winston Churchill) ตัวละครสำคัญทางการเมืองของสหราชอาณาจักร

Best Production Design

จะชนะ : Black Panther

ควรชนะ : The Favourite

นับว่า Black Panther มีผลงานตระการตามากๆ เรื่องหนึ่งในสาขานี้ กับการสร้าง ‘วากานด้า’ โลกแห่งจินตนาการออกมาได้อย่างงดงามและน่าตื่นเต้น แต่ขณะเดียวกัน คงปฏิเสธไม่ได้ว่า The Favourite ก็ทำได้ยอดเยี่ยม กับการเนรมิตรห้อง ฉาก เซ็ตพระราชวังต่างๆ ให้ออกมาได้อย่างวิจิตรบรรจง สมจริง และมีชั้นเชิงเป็นอย่างยิ่ง

Best Visual Effects

จะชนะ : Avengers : Infinity War

ควรชนะ : Ready Player One

อเวนเจอร์ส อินฟินิตี้ วอร์ ทำได้ค่อนข้างน่าประทับใจในหลายๆ ด้าน การรวมจักรวาลมาร์เวลในเรื่องนี้สร้างปรากฎการณ์มากมายทั่วโลกจึงไม่แปลกหากหลายคนจะร่วมเชียร์และเอาใจช่วยให้ได้รางวัลใหญ่จากเวทีนี้ไป

Best Foreign Language Film

จะชนะ : Roma (Mexico)

ควรชนะ : Cold War (Poland)

ยากจะปฏิเสธว่า Roma สมควรได้มงในสาขานี้ไป แต่ในขณะเดียวกัน ก็อยากจะให้หนังจากโปแลนด์อย่าง Cold War ที่เข้าชิงในรางวัลใหญ่ๆ อย่าง Best Director, Best Cinematography ด้วย ซึ่งสาขานี้หนังก็ควรได้สปอตไลท์จากเวทีใหญ่นี้ไปด้วยเช่นกัน (เชียร์มวยรอง)

Best Animated Feature

จะชนะ / ควรชนะ : Spider-Man: Into the Spiderverse

ไม่เพียงแค่ความโดดเด่นและแตกต่างของแอนิเมชันเรื่องนี้ที่ทำให้ Spider-Man: Into the Spiderverse ควรจะชนะ แต่แอนิเมชันเรื่องนี้ยังได้รวมเอานิยามความหลากหลายของซูเปอร์ฮีโร่เข้าไว้ด้วยกันอย่างน่าสนใจ แถมยังถูกยกให้เป็นหนังในจักรวาลสไปเดอร์แมนที่สนุกที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

Best Documentary Feature

จะชนะ : RBG

ควรชนะ : Free Solo

RBG คือหนังสารคดีที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นตำนานของ รูธ เบเดอร์ กินสเบิร์ก (Ruth Bader Ginsburg) ตุลาการหญิงแห่งศาลสูงสุดสหรัฐ RBG เธอคือผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เรื่องความเท่าเทียมทางเพศในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา และด้วยความเข้มข้นของการเมืองอเมริกาในปัจจุบันนี้ก็เป็นบรรยากาศเหมาะเจาะที่จะส่งให้ RBG ได้รางวัลมากทีเดียว แต่สารคดีที่น่าจับตาอีกเรื่องอย่าง Free Solo ก็เป็นตัวเลือกที่มีน้ำหนักมากเช่นกัน และหากได้รางวัลก็จะเป็นที่น่ายินดี

Free Solo เล่าเรื่องราวของอเล็กซ์ ฮอนโนลด์ (Alex Honnold) นักปีนผาแบบ Free Solo คือไม่ใช้เชือกและอุปกรณ์เซฟตี้ใดใด (ดูแล้วหัวใจจะวาย) ทำภารกิจปีนผา เอล แคปิตัน (El Capitan) ของภูเขาโยเซมิเต้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มีความสูงกว่า 3,000 ฟุต ใครที่ต้องการความตื่นเต้นแบบใหม่ในการชมสารคดีก็เชิญไปดูเรื่องนี้ได้เลย ไม่ผิดหวัง

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการทำนายผลล่วงหน้าที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร จะเป็นในแบบที่ทุกคนได้ทำนายไว้หรือไม่ ผู้ชนะในสาขาต่างๆ ย่อมมีความเหมาะสมตามเหล่าคณะกรรมการได้ร่วมใจกันโหวตให้หนังเรื่องนั้นๆ เพราะเวทีการประกาศรางวัลต่างๆ เหล่านี้มีเกณฑ์การตัดสินที่คล้ายคลึงกัน แต่ไม่เหมือนกันทั้งหมด ไหนยังจะมีเรื่องประเด็นของจุดยืน และวาระซ่อนเร้นต่างๆ ก็ทำให้ผลที่ออกมาเป็นไปได้หลายแบบ

แต่ที่สำคัญคือ การได้พิสูจน์ด้วยตัวเองจะดีที่สุด เพราะการได้ดู วิเคราะห์ และตัดสินด้วยตัวคุณเอง ย่อมทำให้เกิดการถกเถียงที่เป็นประโยชน์และสนุกสนานมากที่สุด แล้วไปติดตามผลการประกาศรางวัลออสการ์นี้ด้วยกันในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ เวลาประมาณ 8 โมงเช้าเป็นต้นไป (ตามเวลาไทย) และสามารถติดตามผลการประกาศทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก The MOMENTUM เพราะเราจะมาอัปเดตให้คุณได้ทราบผลกันก่อนใคร แล้วเจอกัน #OSCAR2019

Tags: , , , , , , , ,