โอลด์ พุลต์นีย์: ‘งานฝีมือ’ ที่ดื่มได้

เมืองวิก (Wick) ตั้งอยู่ทางเหนือของเขตไฮแลนด์ในสกอตแลนด์ เมืองชายทะเลแห่งนี้มีประชากรราว 7,000 คน และถูกแบ่งคั่นด้วยแม่น้ำสายยาวที่เชื่อมต่อทะเลสาบภายในกับผืนทะเลภายนอก

ลมทะเลพัดผ่านพื้นที่แห่งนี้ตลอดทั้งปี และอุณหภูมิสูงสุดโดยเฉลี่ยของที่นี่คือ 10.5 องศาเซลเซียส

พุลต์นีย์ทาวน์ (Pulteneytown) ตั้งอยู่ทางฝั่งใต้ของแม่น้ำ ชื่อของมันมาจากนามสกุลของ เซอร์ วิลเลียม พุลต์นีย์ (Sir Willian Pulteney) ขุนนางนักการเมืองชาวอังกฤษ ผู้มีส่วนสำคัญในการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้กับเมืองแห่งนี้ตั้งแต่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19

ครั้งหนึ่ง ที่นี่เคยเป็นหนึ่งในท่าเรือประมงที่วุ่นวายที่สุดในยุโรป และแม้ว่าการจับปลาเฮร์ริงจะไม่ใช่วิถีชีวิตของคนที่นี่อีกต่อไป แต่โรงกลั่นสุราที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 1826 ก็ยังดำเนินงานมาจนถึงปัจจุบัน และ ‘โอลด์ พุลต์นีย์’ (Old Pulteney) ซิงเกิลมอลต์วิสกี้ที่เป็นผลผลิตของโรงกลั่นแห่งนี้ ก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในมอลต์วิสกี้ที่ดีที่สุดในโลก

ชาวประมงและคลื่นลม

โรงกลั่นพุลต์นีย์ (Pulteney distillery) คือโรงกลั่นสุราที่อยู่ทางเหนือสุดของสกอตแลนด์ และเข้าถึงได้ทางทะเลเท่านั้นเมื่อแรกตั้ง

ข้าวบาร์เลย์ถูกนำมาที่นี่โดยเรือ และวิสกี้ก็ถูกนำออกไปโดยเรือเช่นกัน ขณะที่คนงานส่วนใหญ่ประกอบอาชีพชาวประมงเป็นอาชีพที่สอง

ด้วยทำเลที่ตั้ง ภูมิอากาศ และภูมิปัญญาการหมักบ่มที่สั่งสมมายาวนานเกือบ 200 ปี ทำให้กลิ่นและรสชาติของโอลด์ พุลต์นีย์ มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จนกระทั่งคอวิสกี้ทั่วโลกรู้จักมันดีในฐานะ ‘The Maritime Malt’ – มอลต์แห่งท้องทะเล ซึ่งเชื่อมโยงอย่างแนบแน่นกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนริมฝั่ง

ในปี 2012 โอลด์ พุลต์นีย์ รุ่น 21 ปี ได้รับรางวัล World Whisky of the Year จากจิม เมอร์เรย์ (Jim Murray) กูรูด้านวิสกี้ มันได้คะแนน 97.5 จาก 100 คะแนน ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ นำหน้า George T. Stagg และ Parker’s Heritage Collection Wheated Mash Bill เบอร์เบินสองรายจากสหรัฐอเมริกาที่ตามมาเป็นอันดับสองและสาม

หลังจากชิมวิสกี้รุ่นใหม่มากกว่า 1,200 แก้ว เมอร์เรย์กล่าวว่า “ความมีชีวิตชีวา เสน่ห์ และความยอดเยี่ยมของโอลด์ พุลต์นีย์ รุ่น 21 ปี นั้นพลุ่งพล่านอยู่ภายในแก้วอย่างชัดเจน”

ภูมิปัญญา คุณภาพ และงานฝีมือ

ภูมิประเทศและภูมิอากาศ คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อรสชาติของโอลด์ พุลต์นีย์ แต่วัตถุดิบและกรรมวิธีการหมักบ่มก็สำคัญไม่แพ้กัน

น้ำที่โรงกลั่นพุลต์นีย์ใช้มาจากทะเลสาบเฮมพริกส์ซึ่งอยู่ห่างจากโรงกลั่นประมาณ 4 กิโลเมตร โดยลำเลียงมาตามท่อส่งน้ำที่สร้างขึ้นตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 ขณะที่มอลต์ถูกส่งมาจากผู้ผลิตในสหราชอาณาจักร ซึ่งผ่านการเลือกสรรเป็นอย่างดี

หลังจากนั้น มอลต์จะถูกบดและต้มในถังเหล็กเคลือบทองแดง ก่อนจะถูกส่งเข้าถังกลั่นรูปทรงเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งรูปทรงแปลกตาของถังกลั่นนี่เองที่เป็นที่มาของขวดโอลด์ พุลต์นีย์

เมื่อผ่านการหมัก วิสกี้จะถูกบ่มในถังไม้โอ๊ก ซึ่งไม้โอ๊กขาวคือไม้ที่เหมาะกับโอลด์ พุลต์นีย์ ที่สุด

คุณภาพของวิสกี้และขั้นตอนการผลิต คือความภาคภูมิใจของโรงกลั่นพุลต์นีย์ สำหรับพวกเขา การกลั่นสุราคืองานฝีมืออย่างหนึ่ง และนับตั้งแต่ก่อตั้งโรงกลั่นเมื่อปี 1826 การผลิต ‘งานฝีมือ’ ที่ดื่มได้ก็ยังคงเป็นเข็มทิศนำทางให้กับโรงกลั่นแห่งนี้สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

FACT BOX:

คุณภาพของโอลด์ พุลต์นีย์ ซิงเกิลมอลต์วิสกี้จากสกอตแลนด์ ได้รับการการันตีโดยสามรางวัลระดับโลก

• โอลด์ พุลต์นีย์ รุ่น 1989 Vintage ได้รับเลือกเป็น World’s Best Single Malt Whisky จาก World Whiskies Awards 2016
• โอลด์ พุลต์นีย์ รุ่น 21 ปี ได้รับรางวัล World Whisky of the Year ในหนังสือ Whisky Bible 2012 โดย จิม เมอร์เรย์
• โอลด์ พุลต์นีย์ รุ่น 12 ปี ได้รับรางวัลเหรียญทองจาก International Wine and Spirit Competition เมื่อปี 2006

สำหรับคอวิสกี้ชาวไทย ดื่มด่ำกับความละมุนนุ่มลึกของโอลด์ พุลต์นีย์ รุ่น 12 ปี, 17 ปี และ 21 ปี ได้ที่ร้านพรีเมียมและโรงแรมชั้นนำ อาทิ W Hotel, The House on Sathorn, Characters, Plaza Athenee Bangkok, The Okura Prestige, Cigar One, Quaint Bangkok, Whisgar 23, Whisgar Silom, Huahin Marriott และ Sripanwa Phuket

DID YOU KNOW?

โอลด์ พุลต์นีย์ รุ่น 40 ปี วางจำหน่ายเมื่อปี 2012 คือรุ่นที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของโรงกลั่น