เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ประชาชนในนิวแคลิโดเนีย (New Caledonia) หมู่เกาะที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก หนึ่งในดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศสลงมติไม่แยกตัวเป็นเอกราช หลังจากรอคอยการทำประชามติแยกตัวจากฝรั่งเศสมานานกว่า 30 ปี

ผลการลงประชามติที่มีผู้มาลงคะแนนเกือบ 80% ปรากฏออกมาว่า ประชาชน 56.4% เลือกอยู่กับฝรั่งเศส ขณะที่ 43.6% ลงคะแนนให้แยกตัว ผลคะแนนดังกล่าวต่างจากโพลล์ที่ออกมาก่อนหน้านี้

By Eric Gaba (Sting – fr:Sting) [GFDL or CC BY-SA 4.0], via Wikimedia Commons

ผู้ที่ไปลงคะแนนต้องตอบคำถามว่า “ต้องการให้นิวแคลิโดเนียมีอำนาจอธิปไตยและเป็นเอกราชหรือไม่”

มาครงกล่าวว่า เขาเข้าใจความผิดหวังของผู้ที่อยากแยกตัวเป็นเอกราช แต่ก็ยืนยันว่ารัฐฝรั่งเศสรับประกันว่าทุกคนจะมีเสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ

หลังทราบผล ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส กล่าวสุนทรพจน์ผ่านทางโทรทัศน์ของฝรั่งเศสว่า “ชาวนิวแคลิโดเนียเลือกแล้วว่าจะอยู่กับฝรั่งเศส เป็นการลงคะแนนที่แสดงความเชื่อมั่นต่อสาธารณรัฐฝรั่งเศส เชื่อมั่นต่ออนาคตและคุณค่าของประเทศนี้”

การลงประชามติครั้งนี้เป็นผลมาจากการข้อตกลงนูเมอา (Nouméa Accord) ในปี 1998 ระหว่างนิวแคลิโดเนียกับฝรั่งเศส

หมู่เกาะนิวแคลิโดเนียที่อยู่ห่างจากฝรั่งเศสประมาณ 16,700 กิโลเมตร เป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสในปี 1853  มีความตึงเครียดฝังรากลึกยาวนานระหว่างกลุ่มที่อยากแยกตัวเป็นเอกราช ซึ่งเป็นชาวคานัก (Kanak) ชนพื้นเมือง กับลูกหลานของเจ้าอาณานิคมที่มาตั้งรกรากอยู่ที่นี่ ชาวคานักซึ่งเป็นคนพื้นเมืองถูกจำกัดพื้นที่และกีดกันจากเศรษฐกิจของเกาะภายใต้กฎหมายอาณานิคม การต่อสู้กันเกิดขึ้นในช่วงกลางทศวรรษ 1980 ท่ามกลางความโกรธเคืองจากความยากจนและขาดโอกาสในการทำงาน

จนปี 1988 มีการสังหารหมู่ในถ้ำ และทำให้คนพื้นเมืองซึ่งเป็นผู้แบ่งแยกดินแดนเสียชีวิต 19 คน ทหารฝรั่งเศส 2 คนเสียชีวิต จนนำไปสู่การเจรจาเรื่องอนาคต ข้อตกลงนูเมอา  (Nouméa Accord) ระหว่างรัฐบาลฝรั่งเศสและนิวแคลิโดเนียในปี 1998 ระบุว่าต้องจัดให้มีการลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชภายในปี 2018

ความสัมพันธ์พัฒนาขึ้นในหลายทศวรรษที่ผ่านมา แต่โพลล์ส่วนหนึ่งก่อนหน้านี้ก็ออกมาว่าประชาชนต้องการเป็นเอกราช ซึ่งนี่อาจจะทำให้กลุ่มชาตินิยมพยายามให้มีการลงประชามติอีกครั้งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ระหว่างการเยือนนิวแคลิโดเนีย เมื่อเดือนพฤษภาคม 2018 มาครงได้กล่าวถึง “ความเจ็บปวดของอาณานิคม” และยกย่องแคมเปญเพื่อแยกตัวเป็นอิสระของชาวคานัก

เศรษฐกิจของนิวแคลิโดเนียพึ่งพาเงินอุดหนุนจากฝรั่งเศสทุกปี ปีละ 1.48 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีทรัพยากรที่สำคัญคือ นิกเกิลซึ่งมีปริมาณ 25% ของโลก และมีรายได้จากการท่องเที่ยว แต่นิวแคลิโดเนียต้องพึ่งพาฝรั่งเศสในเรื่องการทหารและการศึกษา ทำให้ฝรั่งเศสมีฐานที่มั่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจีนกำลังแผ่ขยายอำนาจในปัจจุบัน

ภายใต้ข้อตกลงนูเมอา ในกรณีที่ผลออกมาเป็นไม่แยกตัว ก็จะสามารถการจัดประชามติซ้ำอีกในปี 2022 ได้

 

ที่มาภาพ: THEO ROUBY / AFP

ที่มา:

Tags: , , ,