ภูเก็ตยังคงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอยู่ ซึ่ง ‘รูปแบบ’ การท่องเที่ยวก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ปกติเราไปเที่ยวทะเล เราก็มักจะนึกถึงทะเลเป็นอันดับแรก แต่ตอนนี้ไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว เพราะการไปเที่ยวภูเก็ตไม่ได้หมายความแค่การไปหาโรงแรมติดหาดสวยๆ เหมือนในอดีต อย่างป่าตอง กะตะ หรือกะรน 

ในขณะที่ห้าปีที่ผ่านมา แหลมพันวากลายมาเป็นจุดมุ่งหมายในการเที่ยวแห่งใหม่ของภูเก็ต แต่นั่นมันก็หลายปีที่แล้ว ปัจจุบันวิธีการที่เราไปเที่ยว หรือวิธีการที่เราใช้ ‘อวด’ ว่าได้ไปเที่ยวมานั้นเปลี่ยนไป การถ่ายรูปสวยๆ สถานที่ที่มันโฟโต้จีนิก กลายมาเป็นส่วนสำคัญในการไปเที่ยวในปัจจุบันของเรา นี่ยังไม่นับรวมการจัดชุดจัดพร็อบเพื่อไปเที่ยวอีกนะ

รูปถ่ายสวยๆ ในย่านเมืองเก่าของภูเก็ต กลายมาเป็นจุดมุ่งหมายใหม่ของการท่องเที่ยวภูเก็ต พร้อมๆ กันกับการเสาะแสวงหาอาหารอร่อยๆ ของท้องถิ่น แต่อย่างที่บอกภูเก็ตคือเมืองทะเล (และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่หลายคนบ่นว่าค่าใช้จ่ายแพงแสนแพง) เพราะฉะนั้นจะทำยังไงให้ ‘ไปถึง’ ภูเก็ต ได้ทั้งวิวทะเลสวยๆ (และราคารไม่แพง) อีกทั้งยังสามารถไปเดินเล่นถ่ายรูปกับตึกรามบ้านช่องสวยๆ ในสไตล์ชิโนโปรตุกีสที่ย่านเมืองเก่าในตัวเมืองได้ง่ายๆ อีกด้วย 

และนั่นคืออะเจนด้าของทริปภูเก็ตล่าสุดของฉัน 

เดือนตุลาคม ภูเก็ตยังคงมีฝนตกอยู่ แต่ไม่มากนัก มันเป็นเดือนแห่งการสิ้นสุดช่วงโลว์ซีซั่น ก่อนจะเริ่มช่วงไฮซีซั่นอากาศดีฟ้าสวยในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงมีนาคม หรือข้ามไปจนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่นักท่องเที่ยวชาวมาเลย์จะหลั่งไหลเข้ามาภูเก็ต

ฉันพักที่ My Beach Resort Phuket รีสอร์ทใหม่ในแถบแหลมพันวา ที่เพิ่งสร้างในช่วงปี 2017 เพราะฉะนั้นห้องนอนและสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างยังใหม่กริ๊บ ที่สำคัญคือมันตอบโจทย์อะเจนด้าในการเที่ยวครั้งนี้ เพราะตัวรีสอร์ทนั้นนอกจากจะติดชายหาด ทะเลใส (แต่เป็นหาดที่มีก้อนหินเล็กๆ ในทะเล แต่ไม่ใช่หินมีคมบาดเท้า ฉันลงไปเล่นน้ำมาแล้ว เล่นได้ แต่ระวังหน่อย) ไม่ไกลจากตัวเมืองและสนามบิน ที่สำคัญคือที่นี่วิวหลักล้าน ในราคาหลักพัน (ไม่ว่าจะไฮหรือโลว์ซีซั่น) ทำให้การมาเที่ยวภูเก็ตไม่แพงอย่างที่คิด 

ที่ My Beach Resort Phuket จำนวนห้องไม่มากนัก เพียง 82 ห้อง 7 รูปแบบห้อง ถ้าใครมาเป็นคู่ ขอแนะนำห้อง Private Pool Beach Front เพราะนอกจากจะเปิดมาเจอทะเลแล้ว ยังมีสระว่ายน้ำหน้าห้องแบบส่วนตัวอีก ส่วนใครมาเป็นแก๊งหรือครอบครัว ขอแนะนำ Premier Pool Access ยิ่งมาหลายคนอยู่ห้องติดๆ กันว่ายถึงกันได้ จัดพูลปาร์ตี้ย่อมๆ ราวกับปิดรีสอร์ทได้เลย ส่วนฉันเลือกห้อง Premier Seaview Studio เพราะชอบห้องกว้างๆ ตื่นเช้า เปิดม่านแล้วเจอวิวสวยๆ เบื้องหน้าเป็นทะเลและภูเขาไกลสุดลูกหูลูกตา 

แต่ลืมไปว่าตัวเองไม่ตื่นเช้า และลืมคิดถึงตอนเมาแล้วต้องเดินขึ้นบันไดไปชั้นสาม! 

วันแรกหลังจากเครื่องลง เราตรงดิ่งไปยังร้าน ‘ขนมจีนจี้ลิ่วภูเก็ต’ ทันที สั่งขนมจีนปูจานใหญ่ที่เต็มไปด้วยเนื้อปูมาพร้อมกับอาหารจานเด็ดอื่นๆ ของที่ร้าน โดยเฉพาะ ‘เกี้ยนทอด’ อาหารพื้นเมืองที่ทำจากหมู กุ้ง ปู เผือก มันแกว พริกไทย คล้ายๆ ขนมจีบแล้วเอาไปทอดกินกับน้ำจิ้มหวาน ส่วนตัวฉันคิดว่าทั้งขนมจีนและอื่นๆ หวานไปหน่อย เช่นเดียวกันกับหม่อหมก แต่ต้องขอชมว่าห่อหมกที่แม้จะหวานไปนิดแต่กลิ่นเครื่องเทศสมุนไพรหอมเตะจมูกทุกคำที่ตักกิน 

ในขณะที่มื้อเที่ยงอีกวันไปฝากท้องที่ร้านชื่อดังของภูเก็ต ‘วันจันทร์’ ร้านอาหารใต้ที่หลายคนคงเคยไปชิมกันมาแล้ว รสชาติดีงาม บรรยากาศการตกแต่งร้านยอดเยี่ยม แต่สิ่งที่ฉันอยากจะบอกก็คืออาหารใต้หรืออาหารทะเลสดๆ อร่อยๆ นั้นไม่ต้องไปไหนไกล ของดีมีอยู่ที่โรงแรมนี่แหละ!

เรื่องมันเริ่มต้นจากตรงนี้ หลังจากบ่นเรื่องอาหารที่ไปกินมารสชาติหวานไปให้เชฟได้ฟัง จากนั้นเชฟก็จัดอาหารใต้รสชาติไม่ประนีประนอมมาให้รัวๆ 

เชฟ เพิ่มพร วิไลพรไสว เป็นหัวหน้าเชฟของที่นี่ ในคืนที่เรานั่งดื่มไวน์กันจนดึกดื่น เชฟเล่าถึงเส้นทางชีวิตและการก้าวมาเป็นเชฟให้เราได้ฟังอย่างน่าสนใจ จากพนักงานโกดังสินค้าเงินเดือนหลายหมื่น เมื่อรู้ตัวว่าชอบทำอาหาร เชฟทิ้งงานที่กำลังไปได้ดีและเงินเดือนก้อนโตไปเป็นลูกจ้างร้านโจ๊กและอาหารจีน เริ่มต้นด้วยหน้าที่หั่นผัก เงินเดือน 5,000 บาท พยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเรื่อยๆ อยากได้ความรู้เรื่องการทำอาหารฝรั่งก็สมัครไปทำงานในเรือสำราญ ก่อนจะกลับมาทำงานในโรงแรมและรีสอร์ทชั้นนำทั้งในกรุงเทพฯ และภูเก็ต 

ไม่ใช่แค่ความตั้งใจจริงและความมุมานะอุตสาหะในเส้นทางชีวิตเท่านั้นที่ทำให้ฉันชื่นชนมเชฟเพิ่มพร มากไปกว่านั้นก็คือรสมือของเชฟที่ทำเส้นหมี่แกงปู รสเลิศและแกงส้มปลาใส่สับปะรดรสจัดมาช่วยปลอบประโลมฉันจากการบ่นไม่หยุดว่าทำไมอาหารทุกวันนี้ถึงติดหวานมากนัก และประนีประนอมรสชาติกับนักท่องเที่ยวฝรั่งเหลือเกิน 

รวมไปถึงซิกเนเจอร์ของเชฟที่มักนำเอาวัสดุดิบท้องถิ่นง่ายๆ มาดัดแปลงให้ได้อาหารรสชาติเยี่ยมและแปลกใหม่ อย่างกุ้งเซวีเซ่ที่เชฟทำมาให้ลอง มันก็คือกุ้งแช่น้ำปลาเวอร์ชั่นฝรั่ง ที่ใช้กุ้งสุด มะนาว เกลือ อะโวคาโด มะม่วง ทรัฟเฟิลออยล์นิดหน่อย หอมแดงและพริกเขียว ถือเป็นแอปเพอร์ไทซ์ชั้นเลิศ 

แต่คงไม่มีอะไรจะซื้อใจฉันได้มากไปกว่าถั่วคั่วผงมะนาว และข้าวต้มล้างตู้เย็นตอนดึกๆ ที่เชฟเดินหายไปในครัวแล้วกลับมาพร้อมข้าวต้มสูตรพิเศษหอมกรุ่นให้เรากินหลังจากตบไวน์ไปหลายขวด 

สำหรับใครที่อยากได้ประสบการณ์ร้านดังร้านเด็ด ไม่ว่าจะระย้า วันจันทร์หรือข้าวต้มแห้งโกเบนซ์ ไปเถอะค่ะ แต่ถ้าใครสายกินล้วนๆ ขอแค่อร่อยเด็ด หากมาพักที่  My Beach Resort ภูเก็ต ฉันขอแนะนำว่าถามหาเชฟเพิ่มพรไว้ก่อนเลย

นอกจากทะเลและอาหารใต้อร่อยๆ แล้ว ฉันว่าหลายคนที่ชื่นชอบการมาเที่ยวภูเก็ตก็เพราะเป็นเมืองที่ถ่ายรูปสวยนี่แหละ โดยเฉพาะในเขตเมืองเก่าด้วยสีสันของตึกสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโนโปรตุกีส ซึ่งคงไม่ต้องแนะนำอะไรมาก ฉันว่าทุกคนไม่เพียงอาจจะมีรูปสวย มุมเด็ดของตัวเองในย่านเมืองเก่านี้แล้ว ยังอาจจะมีเทคนิคในการถ่ายรูปให้สวย เก๋ แปลกตา กว่าความรู้ที่ฉันมีเสียอีก แต่สิ่งที่อยากจะแนะนำก็คือ ถ้าร้อนมาก เดินถ่ายรูปจนเหนื่อย หรือแดดจัดไปถ่ายรูปไม่สวย ให้ไปแวะนั่งพักร้อนดื่มอะไรเย็นๆ กันก่อนได้ที่ร้าน Endless Suumer 

ร้าน Endless Summer เป็นตึกทรงโคโลเนียลสีเขียวเทอร์ควอยซ์หวานสวย แต่ก่อนเป็นโรงเรียนอนุบาล เมื่อเดินเข้าไปข้างในจะพบว่าเหมือนเราอยู่ในบ้านริมชายทะเลสไตล์โปรตุกีส ทั้งสีสันและลวดลายการตกแต่งที่สะดุดตา และนอกจากจะมีเมนูเครื่องดื่มร้อนเย็น และขนมมากมายให้ได้ นั่งดับกระหายพักร้อนแล้ว ในร้านยังมีของน่ารักๆ ขายตั้งแต่สบู่ยันเสื้อผ้าอีกด้วย ที่สำคัญถ่ายรูปสวยทุกมุม! แต่ฉันว่าถ้าจัดสวนด้านนอกอีกนิดรับรองว่าโซนด้านนอกก็จะสวยไม่แพ้ด้านในทีเดียว

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนในภูเก็ตก็คือร้างรวงสวยๆ เกิดใหม่มากมายนัก แทบจะทุกตรอกซอกซอยเลยก็ว่าได้ เรียกได้ว่าไปแค่วันสองวันคงเช็กอินไม่หมด หรือไม่ได้ไปเยือนเพียงเดือนสองเดือนก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว แม้ว่าการเดินไปเดินมาเกือบทุกถนนบนย่านเมืองเก่าจะพบว่าดูเหมือนกันไปหมดก็ตาม (เป็นถนนข้าวสารที่ขายของคล้ายๆ กันที่ตึกดูสวยมากหน่อย) แต่มันก็เพลินดี และสินค้าราคาไม่แพงอย่างคิด 

และที่สำคัญก็คือการเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ความนิยมอาหารพื้นเมือง เทรนด์การถ่ายภาพ รูปแบบของโรงแรมรีสอร์ทใหม่ๆ และราคาที่จับต้องได้ ไม่แพงกว่าไปเที่ยวเมืองนอกอย่างที่เราเคยพูดกัน มันทำให้ภูเก็ตยังคงมีชีวิตชีวา เป็นจุดมุ่งหมายที่ยังไปได้ตลอดเวลา และมีอะไรใหม่ๆ น่าสนใจเสมอ 

ก่อนกลับมาผจญฝุ่น PM2.5 ที่กรุงเทพฯ เชฟเพิ่มพร แอบกระซิบว่า ครั้งหน้ามาให้บอก เชฟจะพาไปตะลุยร้านเด็ดที่เป็น Hidden Place ของเชฟเอง และพอกลับมาถึงกรุงเทพฯ จู่ๆ โปรโมชั่นเที่ยวบินกรุงเทพฯ – ภูเก็ต ของบางกอกแอร์เวย์ก็เด้งขึ้นมาหน้าฟีด แถมราคายังดี๊ดีเดินทางได้ถึงเดือนมิถุนายนปีหน้าโน่นแหนะ 

และฉันคิดว่า ฉันต้องได้กลับไปที่ My Beach Resort Phuket อีกแน่ๆ 

 

Fact Box

My Beach Resort Phuket

105 ถนนอ่าวยน หมู่ 8 ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000

อีเมล [email protected] เว็บไซต์ www.mybeachphuket.com โทร.076-305-066-69 เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/mybeachphuket/

Tags: , , , ,