เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2017 เหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สุเหร่าของชาวมุสลิม ในพื้นที่ท้องถิ่นทางตอนใต้ของปากีสถาน ขณะที่ประชาชนกำลังเต้นประกอบพิธีทางศาสนา ทำให้มีคนเสียชีวิตไป 70 คน และบาดเจ็บสาหัสอีก 250 คน โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง นับเป็นเหตุก่อการร้ายที่รุนแรงที่สุดในรอบเดือนของปากีสถาน
จุดเกิดเหตุนั้นเป็นที่ห่างไกลจากเมืองประมาณ 90 ไมล์ ทำให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นไปได้ช้า
กลุ่มไอเอส หรือกลุ่มซุนนีหัวรุนแรงในอิรักและซีเรียได้ออกมาประกาศว่า เครือข่ายของกลุ่มไอเอสในพื้นที่เป็นผู้ก่อเหตุโจมตี สอดคล้องกับที่ CNN รายงานว่า เครือข่ายกลุ่มไอเอสในปากีสถานบอกกับ CNN ทางโทรศัพท์ว่า พวกเขาเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีครั้งนี้
ขณะที่เกิดเหตุประชาชนหลายพันคนกำลังรวมตัวกันที่สุเหร่านิกายซูฟี (Sufi) แห่งนี้ที่มีอายุมากกว่า 800 ปี
โดยกลุ่มไอเอสมองว่าชาวมุสลิมในกลุ่มหรือนิกายอื่นนั้นไม่ใช่ชาวมุสลิม ซึ่งนิกายซูฟี เป็นนิกายที่ชาวปากีสถานนับถือเป็นจำนวนมาก และคือกลุ่มมุสลิมที่ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องในปากีสถาน โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดเหตุโจมตีรุนแรงต่อเนื่องทั่วปากีสถาน
เหตุโจมตีปากีสถานอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัปดาห์ที่ผ่านมาปากีสถานเจอกับเหตุโจมตีสุเหร่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่กลุ่มตาลีบันได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบ เหตุรุนแรงต่อเนื่องทำให้ปากีสถานตัดสินใจปิดพรมแดนระหว่างอัฟกานิสถาน เนื่องจากเชื่อว่าเหตุโจมตีทั้งหมดถูกดำเนินการโดยกลุ่มหัวรุนแรงในอัฟกานิสถาน โดยเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงของปากีสถานมีคำสั่งให้ปิดพรมแดนนั้นมีผลทันที
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (15 กุมภาพันธ์ 2017) เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย 2 ครั้งทางตอนเหนือของปากีสถาน มีคนเสียชีวิตรวมกัน 20 คน โดยหนึ่งในเหตุการณ์นั้นผู้โจมตีมีเป้าหมายต้องการสังหารผู้พิพากษาในพื้นที่
ปัจจุบันกลุ่มนักรบในปากีสถานบางกลุ่มให้การสนับสนุนกลุ่มไอเอส และสิ่งนี้กำลังเป็นความท้าทายของรัฐบาลและทหารปากีสถานในการปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรง
ภัยก่อการร้ายในปากีสถาน
นายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ (Nawaz Sharif) ของปากีสถาน ประณามว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นบั่นทอน ‘ความเป็นหนึ่งเดียวของปากีสถาน’
“สองสามวันก่อนหน้านี้เราเจอกับสถานการณ์ลำบาก และหัวใจของผมเสียใจไปพร้อมๆ กับเหยื่อ แต่เราไม่สามารถปล่อยให้เหตุการณ์นี้มาแบ่งแยกเรา หรือทำให้เรากลัว เรายังต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อรักษาอัตลักษณ์ของปากีสถานและหลักมนุษยธรรมสากล”
Syeda Sughra Imam อดีตสมาชิกวุฒิสภาให้สัมภาษณ์กับ New York Times ว่า “ปากีสถานกำลังเจอกับเหตุโจมตี กลุ่มก่อการร้ายต้องการสร้างความหวาดกลัวด้วยการขู่และสร้างความไม่แน่นอน ทำให้รู้สึกว่าไม่มีองค์กรไหนหรือสถาบันไหนมีความปลอดภัย”
ก่อนหน้านี้กองทัพของปากีสถานเคยประกาศว่า การปฏิบัติการของทหารสามารถปราบกลุ่มหัวรุนแรงที่ก่อเหตุโจมตีได้ แต่เหตุการณ์โจมตีอย่างต่อเนื่องครั้งล่าสุดทำให้เกิดคำถามต่อคำประกาศก่อนหน้านี้ของกองทัพ
อ้างอิง:
- edition.cnn.com/2017/02/16/asia/pakistan-shrine-bombing/index.html?sr=fbcnni021617pakistan-shrine-bombing0603PMStoryLink&linkId=34580113
- www.nytimes.com/2017/02/16/world/asia/pakistan-shrine-bombing.html