วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (17 ตุลาคม) Christian Aid Ministries องค์กรด้านคริสตจักร มลรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกาออกมาแถลงข่าวว่า คณะมิชชันนารีของพวกเขาทั้งหมด 17 คน ประกอบด้วยชาวอเมริกัน 16 คน และชาวแคนาดา 1 คน ถูกลักพาตัวไประหว่างเดินทางไปเยี่ยมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในประเทศเฮติเมื่อวันเสาร์ (16 ตุลาคม)
เหตุการณ์ลักพาตัวครั้งนี้ยังเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เพิ่งเดินทางไปเยือนเฮติ และรับปากจะมอบเงินช่วยเหลือ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 502 ล้านบาท) ให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของเฮติ เพื่อช่วยรับมือปัญหาความรุนแรงจากแก๊งต่าง ๆ
ปิแอร์ เอสเปรานซ์ (Pierre Esperance) นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า แก๊งต่างๆ เริ่มสบายใจมากขึ้นในการก่ออาชญากรรมนอกถิ่นที่พวกเขาคุมอยู่ นับตั้งแต่เกิดเหตุลอบสังหารประธานาธิบดี ฌอเวอแนล มออีซ (Jovenel Moise) ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2021 และเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเดือนสิงหาคม 2021 ที่ส่งผลให้มีผู้ชีวิตถึง 2,200 คน
เมื่อประเทศเฮติระส่ำจากวิกฤตทางการเมืองและเศรษฐกิจ แก๊งลักพาตัวจึงกลับมาเพิ่มขึ้น จากที่ก่อนหน้านั้นค่อย ๆ ลดลงไปแล้ว ตามรายงานของศูนย์วิเคราะห์และวิจัยด้านสิทธิมนุษยชนของเฮติ (CARDH) ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2021 มีการลักพาตัวอย่างน้อย 628 ครั้ง และ 29 ครั้งเป็นชาวต่างชาติ แต่ตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก เพราะชาวเฮติส่วนใหญ่ไม่กล้าแจ้งความ ด้วยความกังวลว่าจะถูกทางแก๊งเอาคืน
สำหรับแก๊งลักพาตัว มักจะเลือกเหยื่อที่เป็นชนชั้นกลางอย่าง ครู นักบวช ข้าราชการ เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก ที่ไม่มีกำลังพอจะจ้างบอดี้การ์ด แต่สามารถเรียกค่าไถ่รวมกันได้ ซึ่งอาจเรียกตั้งแต่ไม่กี่ร้อยดอลลาร์สหรัฐฯ ไปจนถึงมากกว่าหนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับการลักพาตัวคณะมิชชันนารี 17 คน ในครั้งนี้ เบื้องตันยังไม่มีข้อมูลว่าใครอยู่เบื้องหรือพาคณะมิชชันนารีไปที่ไหน ทางด้านโฆษกตำรวจเฮติก็ออกมาบอกว่าพวกเขาไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊ง 400 Mawozo ที่คุมบริเวณ ลา ครัว เด การ์ด ห่างจากปอร์โตแปงซ์ เมืองหลวงของเฮติไปประมาณ 13 กิโลเมตร เนื่องจากแก๊ง 400 Mawozo เคยถูกสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวนักบวช 5 คน แม่ชี 2 คน และชาวฝรั่งเศส 2 คน เมื่อเดือนเมษายน 2021 ซึ่งต่อมาพวกเขาก็ได้รับการปล่อยตัวในเดือนเดียวกัน
อดัม คินซิงเกอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริการัฐอิลลินอยส์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNN ว่า สหรัฐฯ จำเป็นต้องค้นหาคณะมิชชันนารีว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน พร้อมพยายามเจรจาให้ปล่อยตัว โดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ หรือควรใช้ทหารหรือตำรวจรักษาความปลอดภัยให้พวกเขา
นอกจากนี้ สิ่งที่หลายคนตั้งคำถามคือเหตุใดคณะมิชชันนารีจึงเดินทางไปเฮติ เมื่อกระทรวงการต่างประเทศประกาศคำเตือนตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2021 ให้เฮติอยู่ในกลุ่มประเทศระดับ 4 ห้ามไม่ให้ชาวอเมริกันเดินทางไป เนื่องจากเหตุการณ์ลักพาตัว อาชญากรรม ความไม่สงบ และโควิด-19 คำเตือนยังระบุว่าการลักพาตัวพลเมืองสหรัฐฯ เป็นเรื่องปกติ โดยมักเกี่ยวข้องกับการเจรจาเรียกค่าไถ่และการทำร้ายร่างกายเหยื่อ
โจเอล ทริมเบิล (Joel Trimble) มิชชันนารีอิสระที่อยู่ในเฮติมาตั้งแต่ปี 1970 กล่าวว่าพื้นที่ที่คณะมิชชันนารี 17 คน ถูกลักพาตัว เป็นที่รู้กันดีว่าอันตรายเป็นพิเศษ “การที่มิชชันนารีชาวอเมริกันผิวขาวจำนวนมา นั่งรถตู้เดินทางไปทุกที่ในปอร์โตแปรงซ์ โดยเฉพาะในพื้นที่นั้น ไม่ใช่เรื่องฉลาดเลย การลักพาตัวทำให้ได้เงินเร็ว และเมื่อพวกเขาเห็นรถตู้เต็มไปด้วยคนผิวขาว นั่นคือสัญญาณของเงินดอลลาร์”
แดน ฮูลีย์ (Dan Hooley) อดีตผู้อำนวยการภาคสนามของ Christian Aid Ministries กลุ่มเฮติ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ามิชชันนารีที่ถูกลักพาตัวไปบางคนไม่ได้อยู่เฮติเป็นเวลานาน ครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่ที่นั่นเพียงสองสามเดือน ส่วนชายอีกคนหนึ่งเพิ่งมาถึงเมื่อวันศุกร์ (15 ตุลาคม ) เพื่อทำงานในโครงการบรรเทาทุกข์จากเหตุแผ่นดินไหว โดยฮูลีย์ประมาณการว่าอาจมีคณะมิชชันนารี Christian Aid Ministries มากกว่า 20 คนอยู่ในประเทศเฮติ
เฮติเป็นหมุดหมายยอดนิยมของ Christian Aid Ministries เนื่องจากอยู่ใกล้กับสหรัฐอเมริกามาก จึงสะดวกสำหรับการเดินทาง ประกอบกับประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์จึงเหมาะกับการส่งต่อความเชื่อที่แตกย่อยมากจากนิกายโปรเตสแตนต์ อย่าง Amish ,Mennonite และ Anabaptist อันเป็นความเชื่อหลักของ Christian Aid Ministries
ที่มา:
–https://www.nytimes.com/2021/10/17/world/americas/amish-missionary-group-kidnap.html
–https://christianaidministries.org/about/#purpose
Tags: มิชชันนารี, เฮติ, Christian Aid Ministries
