หลังปิดหีบเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหญ่ของอินโดนีเซียได้เพียง 2 ชั่วโมง ผลอย่างไม่เป็นทางการปรากฏว่าโจโก วิโดโด หรือ โจโกวี มีคะแนนนำและสามารถครองตำแหน่งประธานาธิบดีต่อได้อีกหนึ่งวาระ
การเลือกตั้งทั่วไปที่อินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 17 เมษายน ซึ่งมีทั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดี สมาชิกรัฐสภา และสมาชิกสภาท้องถิ่น มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดประมาณ 192.86 ล้านคน หน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ 809,500 หน่วยบนเกาะเกือบ 20,000 เกาะ โดยประชาชนต้องออกมาใช้สิทธิระหว่างเวลา 7.00-13.00 น.
แม้โจโกวีจะมีคะแนนนำคู่แข่ง ปราโบโว ซูเปียนโต หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ลูกเขยของอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โต แต่ผลก็สูสีกันมาก เพราะมีคะแนนห่างกันเพียง 9 จุดเท่านั้น ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการออกมาว่า โจโกวีได้คะแนนประมาณ 54.19 % ส่วนปราโบโวได้ประมาณ 45.81% ผลการ ’นับแบบเร็ว’ (quick count) นี้มาจากการสำรวจโดยสถาบัน Litbang Kompas ที่ใช้กลุ่มตัวอย่างเกือบ 75% ของการใช้สิทธิเลือกตั้ง ส่วนผลการสำรวจของ Center for Strategic and International Studies (CSIS) ซึ่งใช้กลุ่มตัวอย่าง 86% ของการใช้สิทธิเลือกตั้งก็ได้ผลไปในแนวทางเดียวกัน
โจโกวีกล่าวว่า “ต้องอดทนรอผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการเลือกตั้ง” ฝ่ายปราโบโวอ้างว่าการนับคะแนนของเขาแสดงให้เห็นว่าเขาชนะ และได้เรียกร้องให้อาสาสมัครตรวจสอบว่าไม่มีการนับคะแนนผิดที่หน่วยเลือกตั้ง ทีมของเขายังบอกว่าพร้อมจะเดินขบวนประท้วง หากคะแนนโดนขโมย
สำหรับการบริหารประเทศในช่วงที่โจโกวีเป็นประธานาธิบดี เศรษฐกิจเติบโตคงที่ แม้จะมีภาพว่าเป็นคนของประชาชน แต่เขาถูกวิจารณ์ว่าเพิกเฉยต่อประเด็นสิทธิมนุษยชน ที่เคยหาเสียงไว้ก่อนการเลือกตั้งปี 2014 รวมทั้งสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของจีน ปราโบโวมักโจมตีว่าโจโกวีไม่ใช่มุสลิมที่เคร่งศาสนามากพอ จนทำให้เขาต้องเลือกผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีที่มีหัวอนุรักษนิยม และเดินทางไปแสวงบุญที่นครเมกกะ เพื่อแสดงให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเห็นถึงการเป็นมุสลิมที่ดีของเขา
ขณะที่ปราโบโวใกล้ชิดกับนักการเมืองที่เป็นชนชั้นนำ เขาถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในการละเมิดสิทธิมนุษยชนในช่วงที่ประธานาธิบดีซูฮาร์โตครองอำนาจ แม้จะอ้างว่าตนเองบริสุทธิ์ เขาสัญญาว่าจะทบทวนโครงการลงทุนของจีนใหม่ หากได้เป็นประธานาธิบดี เขาได้รับการสนับสนุนจากชาวมุสลิมที่ต้องการแผ่ขยายบทบาทของศาสนาเข้าไปในชีวิตประจำวันให้มากขึ้นกว่านี้
แม้ผลการเลือกตั้งที่ออกมาไม่น่าแปลกใจนัก เนื่องจากโจโกวีนำมาตลอดในการสำรวจก่อนการเลือกตั้ง แต่ครั้งนี้ต่างจากการลงสมัครครั้งแรกของเขาเมื่อปี 2014 ที่เขาเคยได้รับขนานนามว่าเป็น ‘โอบามาแห่งเอเชีย’ เพราะคะแนนนิยมของเขาลดลงจากเดิม อันเนื่องมาจากผลงานที่น่าผิดหวังในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เช่น เมื่อเป็นประธานาธิบดีสมัยแรก เขาได้ลงนามการประหารชีวิตนักโทษค้ายาเสพติด 8 คนตั้งแต่ไม่กี่เดือนแรก เขายังเคยประกาศว่ารัฐบาลจะจัดการกับผู้ที่ก่อเหตุสังหารหมู่ประชาชนในช่วงปี 1965-1968 แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร
ก่อนหน้านี้คะแนนของโจโกวีนำห่างจากคู่แข่งประมาณหลักสิบขึ้นไป แต่ผลอย่างไม่เป็นทางการล่าสุดชี้ให้เห็นว่าคะแนนสูสีกันมาก ปี 2014 โจโกวีเอาชนะคู่แข่งไปได้เพียง 6% เท่านั้น ประชาชนจำนวนมากยืนเฝ้าดูการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งให้โปร่งใส มีผู้ให้ความเห็นว่าคะแนนสูสีมาก อาจจะ 50/50 ต้องเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด
การเลือกตั้งทั่วประเทศมีบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งพากันชูนิ้วมือที่เปื้อนหมึกหลังจากโหวตแล้ว หน่วยเลือกตั้งบางแห่งตกแต่งด้วยดอกไม้ ลูกโป่งและธงชาติ บางหน่วยมีเจ้าหน้าที่ใส่ชุดแฟนซีเป็นซอมบี้หรือซูเปอร์ฮีโร่
การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการเลือกตั้งทางตรงที่ใหญ่ที่สุดในโลก กกต.อินโดนีเซียจะสามารถประกาศผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการได้ระหว่างวันที่ 25 เมษายนถึง 22 พฤษภาคม
ที่มา:
https://www.bbc.com/news/world-asia-47943905
https://www.nytimes.com/2019/04/17/world/asia/indonesia-election-results.html#click=https://t.co/wshUOXbiPRhttps://www.dw.com/en/opinion-joko-widodos-last-chance-to-fulfill-his-promises-to-indonesia/a-48371002?fbclid=IwAR1DSuBzoa-kpJSiYJCIQGKxbhY0MfAjl5gaYRIvbP1AZf3jRQc9jhqb9Y4
ที่มาภาพ: