สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าเมื่อเดือนสิงหาคม แคร์รี่ หลำ เปิดเผยกับกลุ่มนักธุรกิจว่า รัฐบาลได้พยายามจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์ระดับโลก 8 บริษัทให้หาทางกอบกู้ชื่อเสียงของฮ่องกง แต่ก็ถูกปฏิเสธ
หนึ่งวันหลังจากที่แครี่ หลำ ผู้ว่าการฮ่องกงประกาศถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน รัฐบาลก็ปล่อยแคมเปญโฆษณาเมื่อวันที่ 5 กันยายนว่า ฮ่องกงยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่ปลอดภัยและพร้อมต้อนรับนักธุรกิจ
ข้อความโฆษณาระบุว่า “รัฐบาลตั้งใจที่จะแก้ปัญหาอย่างสันติ เป็นไปตามหลักเหตุผล และสมเหตุสมผล รัฐบาลรับประกันว่าฮ่องกงยังคงเป็นสังคมที่ ปลอดภัย เปิดกว้าง ต้อนรับความหลากหลาย และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่มีพลวัตเชื่อมโยงนานาชาติไว้ด้วยกัน”
นอกจากนี้ยังเขียนว่า “สิ่งที่คุณอ่าน เห็น ได้ยิน หรือแชร์ทางโซเชียลมีเดีย เป็นแค่เสี้ยวหนึ่งของจิ๊กซอว์ทางสังคม เศรษฐกิจและการเมืองที่ซับซ้อน เป็นปริศนาที่เราต้องแก้ด้วยตัวเอง”
เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ สื่อฮ่องกงที่มีอาลีบาบาของแจ็ค หม่าเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่รายงานเมื่อวันที่ 24 กันยายนว่า รัฐบาลฮ่องกงใช้งบประมาณ 7.4 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงสำหรับการโฆษณาดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มั่นใจว่าฮ่องกงยังเป็นพื้นที่ปลอดภัย
กรมบริการข้อมูลข่าวสารของรัฐบาลฮ่องกงเปิดเผยว่า ใช้เงินไปกับโฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์ต่างชาติ เช่น ออสเตรเลีย ไฟแนนเชียลรีวิว, ไฟแนนเชียลไทมส์, วอชิงตันโพสต์, นิวยอร์กไทมส์, นิคเคอิ เป็นต้น ส่วนสื่อออนไลน์จ่ายเงินไปราว 80,000 ดอลลาร์ฮ่องกง แต่ยังไม่ได้มีการเผยแพร่ออกมา เจาะจงไปที่แพลตฟอร์มสื่ออย่างเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ลิงก์อิน และยูทูบ ผู้เชี่ยวชาญแสดงความเห็นว่า แคมเปญของรัฐบาลไม่น่าจะได้ผล เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้สื่อเป็นช่องทางทางระดมทุนของของผู้ชุมนุม
เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ยังรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้ชุมนุมระดมทุนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมได้เงินแล้ว 30 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ทั้งจากการโฆษณาในหนังสือพิมพ์ใหญ่ 20 ฉบับ ใน 13 ประเทศระหว่างการประชุมจี 20 ที่โอซากา และจากการระบุว่า ตำรวจใช้อาวุธเคมี ส่วนแคมเปญสำหรับวันชาติจีนที่จะถึงนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารเห็นตรงกันว่า คำกล่าวของรัฐบาลขัดแย้งกับสถานการณ์จริงจึงไม่ได้ผล การประท้วงยังดำเนินต่อไป คำโฆษณาของรัฐบาลที่ใช้ได้ในกรณีที่วิกฤติสิ้นสุดลงแล้วจึงไม่ได้ผล แอนดี้ โฮ อดีตที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์มองว่า โฆษณาของรัฐบาลในสื่อต่างชาตินั้นไร้ประโยชน์ เพราะตอนนี้เข้าสู่สัปดาห์ที่ 15 ของการประท้วงแล้ว แต่ก็ไม่เห็นว่าปัญหาคลี่คลายอย่างไร ยังคงมีการปราบปรามผู้ชุมนุม สถานีรถไฟฟ้าและสนามบินถูกปิด
ส่วนลีโอ ซิน ยัด–มิง มหาวิทยาลัยไชนีสฮ่องกง ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดให้ความเห็นว่า เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว แคมเปญของผู้ชุมนุมไปไกลกว่าของรัฐบาล สร้างความสนใจให้สื่อได้ โดยเฉพาะเรื่องความสร้างสรรค์และยุทธวิธีต่างๆ ที่พวกเขาใช้ ขณะที่สารที่รัฐบาลฮ่องกงต้องการบอกยังขัดแย้งกับข่าวที่รายงานในสื่อ
ที่มา:
https://www.buzzfeednews.com/article/rosalindadams/hong-kong-protests-pr-firms
ภาพ : Athit Perawongmetha/REUTERS
Tags: ฮ่องกง, ประท้วงฮ่องกง